โลกของความร้อน..กับแอร์รถยนต์ (ยนตรกรรม / ยุทธพงษ์ ภาษี)
ช่วงนี้อากาศบ้านเราเริ่มร้อนมากขึ้นครับ สำหรับท่านที่ดูแลรักษารถยนต์ก็ต้องเตรียมตัวรับร้อนกันไว้บ้าง เห็นวิเคราะห์กันว่าปีนี้บรรยากาศจะร้อนนาน อย่างที่เห็นแล้วว่าความแห้งแล้งนานกว่าปกติ และหลายพื้นที่เริ่มไม่มีน้ำดื่ม-น้ำใช้กันแล้ว
แล้วบ้านเรานั้นร้อนตลอดปี รถยนต์จึงแทบไม่มีเวลาใดเลยที่จะหยุดใช้เครื่องปรับอากาศ
ดังนั้น ระบบปรับอากาศของรถยนต์ในบ้านเรานั้น ต้องทำงานหนักตลอดทั้งวันทั้งคืน ตราบใดที่เราต้องใช้รถ
ว่ากันว่า หากเป็นระบบปรับอากาศรถยนต์ที่เกิดจากการพัฒนาควบคู่กับรถในประเทศแล้ว หายห่วง คือใช้งานได้ดี เย็น และคงทน ดังจะเห็นว่า บ่อยครั้งที่บริษัทรถยนต์จะต้องเอารถต้นแบบมาพัฒนาระบบปรับอากาศในประเทศไทย เป็นพื้นที่ที่ใช้วิจัยเรื่องนี้ได้ดี เพราะบ้านเรามีอากาศไม่เหมือนใคร คือ ร้อนและชื้น รวมถึงสภาพการจราจรที่ติดขัดมาก
สัปดาห์ที่แล้ว ผมเป็นแฟนพันธุ์แท้ของร้านซ่อมแอร์ เพราะเจ้าเก๋งสัญชาติสเปน... ซึ่งตอนนี้แทบจะหยุดกิจกรรมต่างๆ ในตลาดไปแล้ว ปล่อยให้แบรนด์เริ่มจางหายไปเฉยๆ ทั้งที่เป็นรถที่ใช้ดี... ดันเกิดแอร์ไม่เย็นขึ้นมาเฉยๆ หลายคนที่ใช้รถตระกูลโฟล์ค จะพบว่าปัญหาจากระบบปรับอากาศเสีย ราคาต้นทุนการซ่อมบำรุงถือว่าแพงเหลือหลาย ดังนั้นรถคันนี้เจ้าของเดิมเขาจึงเปลี่ยนแปลงระบบแอร์ ที่เรียกว่า แปลงระบบจากแอร์คู่ตัวที่ใช้คอมเพรสเซอร์สเปคโรงงาน มาเป็นระบบที่สามารถหาอะไหล่ทั่วไปได้แบบญี่ปุ่น เพราะว่าต้นทุนการใช้งานถูกกว่า โดยราคาคอมฯ คู่ตัวลูกใหม่ค่อนข้างสูงและยิ่งทำการซ่อมบำรุงในห้าง เรียกว่าจะเท่ากับประกันภัยรถดีๆ หนึ่งปีทีเดียว
เรื่องการแปลงระบบแอร์นี้ โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่แนะให้ใครทำ เหตุผลคือ การทำงานของรถต้องได้รับผลกระทบไม่ทางก็ทางหนึ่ง การหาช่างมือดีๆ มาวางทีเดียวจบก็ยาก ที่สำคัญ ฟังก์ชั่นของโรงงานบางอย่างก็จะถูกตัดไป เช่น การใช้ระบบฮีทเตอร์ หรือไม่ก็ระบบควบคุมอุณหภูมิที่ละเอียดอ่อนในห้องโดยสารแบบอัตโนมัติก็จะหายไป ซึ่งคนเป็นเจ้าของรถต้องแลกด้วยต้นทุนระบบที่ถูก แต่อาจจะไม่ได้ทั้งหมดที่รถให้มา เป็นต้น
นอกจากนี้ เข้าใจว่า น้ำยาแอร์ที่ใช้ก็เป็นเรื่องใหญ่ ช่วงนี้ราคาน้ำยาแอร์ อาร์ 12 ซึ่งเป็นน้ำยาเดิมนั้น เติมกันทีละ 300-350 บาท แต่ราคามีแนวโน้มสูงขึ้น เพราะว่าเขาจะเลิกผลิตตามนโยบายเรื่องสิ่งแวดล้อม เพราะว่าการรั่วไหลของอาร์ 12 ไปในชั้นบรรยากาศนั้น มีส่วนทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศ ทำให้โลกร้อนขึ้น ส่วนน้ำยา 134A ที่มาทดแทนนั้น เวลานี้เติมแต่ละครั้งก็ยังสูงกว่าอาร์ 12 แต่ไม่มาก และมีแนวโน้มที่ราคาจะลดลงมาเรื่อยๆ
รถเก๋งของผมนั้น เกิดอาการแอร์ไม่เย็น เดิมทีเดียวก็คิดว่าระบบแรงดันน้ำยาบกพร่อง ค้นหาสาเหตุไปมา กลับไม่ใช่จากความผิดปกติของคอมเพรสเซอร์ หรือว่าปริมาณน้ำยาแอร์ แต่เป็นเพราะ พัดลมระบายความร้อนที่มีอยู่สองตัว ซึ่งหนึ่งในนั้นไม่หมุน
ลักษณะการวางพัดลม ใช้แบบพัดลมขนาดเล็กคู่แฝด ทำงานด้วยมอเตอร์เดียว และเชื่อมด้วยสายพานขนาดเล็กไปยังพัดลมอีกลูกหนึ่ง แต่เพราะว่าสายพานเส้นเล็กๆ หลุด ทำให้เกิดความร้อนสะสม คอมเพรสเซอร์ โอเวอร์ฮีท ระบบสมองกลสั่งให้ตัดการทำงานอัตโนมัติ พอแก้ไขพัดลมได้ เป็นอันว่าใช้ได้
อาการแบบนี้ แอร์จะเย็นตอนรถเคลื่อนที่เป็นบางครั้ง เพราะว่าสามารถระบายความร้อนได้ แต่เมื่อเดินรถที่ความเร็วต่ำ หรือจอดเพื่อรอสัญญาณไฟ แอร์จะไม่มีความเย็น และหากเป็นรถบางรุ่น
อาการเข็มความร้อนจะขึ้น แต่ไม่ถึงขึ้นสะสมจนโอเวอร์ฮีท หากรถติดไม่นานนัก
สาเหตุแบบนี้ เกือบจะทำให้ผมเสียเงินซ่อมคอมฯ เสียแล้ว เพราะว่าช่างวิเคราะห์ตามแบบของช่าง คือเช็คน้ำยา ถ้าพร่องหรือขาด การเติมมานานหน่อยก็จะใส่เพิ่มให้ หากยังร้อนอยู่ ก็ไล่ระบบ
ไป คอยด์เย็นไม่ปกติ หรือว่าวาล์วตัน เสียเงินเป็นขั้นเป็นตอนไปเรื่อยๆ กว่าจะไปพบว่าพัดลมไม่หมุน ก็สุดท้าย
ที่ผ่านมา เลยถือว่าเช็คระบบฟรีไป แต่เราจ่ายเงินครับ
ดังนั้น ขอให้ดูให้ดี เพราะว่าบางคราวที่เราไปหาช่าง เขาอาจจะวิเคราะห์ตามความเคยชินแบบนี้
เรื่องความร้อนในรถ กระจกใสๆ นั้นร้อนเหลือทน วันนี้ตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ จึงเป็นตลาดใหญ่ ฟิล์มกันความร้อนนั้นช่วยได้ในการลดภาระแอร์ลง เพราะว่าเครื่องยนต์จะลดการทำงานหนัก คอมฯ แอร์ได้พักบ้าง จริงๆ ก็ส่งผลต่อการประหยัดน้ำมันทางอ้อมด้วย
การจะใช้แอร์ให้ยืดอายุ เขาบอกว่าให้ตั้งระบบความเย็นให้สัมพันธ์กับพัดลม คือ หากต้องการเย็นมาก ก็ให้ปรับระดับพัดลมให้เพิ่มขึ้น ในขณะที่ตั้งอุณหภูมิไม่ให้ไปอยู่ในจุดเย็นสุด แบบนี้จะไม่ทำให้เกิดความชื้นสะสมในระบบ ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันเร็ว
ส่วนใหญ่ที่เราเคยชิน คือ ความแรงพัดลมเบอร์ 1 ปรับอุณหภูมิให้น้ำยาเย็นสุด เหตุผลเพราะว่า รำคาญเสียงดังของพัดลม อีกอย่างหนึ่งที่ใช้กันคือ ก่อนดับเครื่องยนต์ให้เดินพัดลมที่แรงสุด โดยที่ปลดคลัสแอร์ออก คลัสแอร์หรือปุ่มสวิตช์แอร์ที่ตัดต่อให้คอมฯ ตัด หรือต่อระบบนั้น มันอยู่ตรงแผงคอนโซลใกล้กับที่ปรับอุณหภูมิครับ จะช่วยให้ระบบแอร์สะอาดขึ้น
นอกจากนี้ ควรปล่อยให้อากาศหมุนเวียนในห้องโดยสาร ด้วยการเปิดฟังก์ชั่นอากาศเข้าให้ทำงานบ้าง อากาศภายนอกจะผ่านเข้ามาเป็นการถ่ายเทอากาศที่อับในห้อง ก็นับว่าดีครับ
หวังว่าร้อนนี้จะมีความสุขกับรถที่แอร์เย็นฉ่ำใจนะครับ
: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง
วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553
โลกของความร้อน..กับแอร์รถยนต์ (ยนตรกรรม / ยุทธพงษ์ ภาษี)
เขียนโดย
Thai Writer
ที่
00:13
ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปยัง Xแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest
เรื่องน่าสนใจเกี่ยวเนื่องกัน:
ป้ายกำกับ:
ข่าวยานยนต์