: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง

วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ปิดตำนานกษัตริย์นักบุกเบิก(บุคคลโลก / นฤมล คนึงสุขเกษม)

ปิดตำนานกษัตริย์นักบุกเบิก(บุคคลโลก / นฤมล คนึงสุขเกษม)
เจ้าชายเรนิเยร์ ที่ 3 หรือพระนามเต็มว่า เจ้าชายเรนิเยร์ หลุยส์ อองรี มักซอง แบร์ทรองด์ กริมัลดี กษัตริย์แห่งโมนาโก ซึ่งเสด็จสวรรคตไปเมื่อวันที่ 6 เมษายน ขณะพระชนมายุ 81 ชันษา ทรงขึ้นปกครองโมนาโกมาตั้งแต่ปี 2492 ถือเป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดของยุโรป และครองราชย์ยาวนานที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทย ซึ่งพระองค์ทรงทำให้ราชอาณาจักรเล็กๆ ในเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้ กลายเป็นที่รู้จักของโลก หลังอภิเษกสมรสกับเกรซ เคลลี ดาราสาวขวัญใจชาวอเมริกัน

พระองค์ทรงประสูติเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2466 ทรงเป็นพระโอรสในเจ้าชายปิแอร์ เดอ ปอลยัค ที่ทรงหันมาใช้ราชสกุลกริมัลดี หลังอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ แห่งโมนาโก ทรงเข้ารับการศึกษาที่ประเทศอังกฤษ, สวิตเซอร์แลนด์ และฝรั่งเศส โดยทรงศึกษาด้านอักษรศาสตร์ที่มงต์เปลิเยร์ และการเมืองที่ปารีส

ในเดือนกันยายน 2487 พระองค์ได้อาสาสมัครเข้าร่วมกองทัพฝรั่งเศส และมีส่วนร่วมในการยึดคืนเมืองอัลซาคจากกองทัพเยอรมนี จนทำให้เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ทรงได้รับเหรียญ ครัวซ์ เดอ เกอร์ โดยในขณะที่อยู่ในกองทัพนั้น พระองค์ทรงสังกัดหน่วยที่รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจของกองทัพฝรั่งเศส ที่เข้ายึดกรุงเบอร์ลิน และทรงได้ประดับยศพันเอก

เมื่อเจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ พระมารดา ประกาศสละสิทธิในการครองราชย์ ส่งผลให้เจ้าชายเรนิเยร์ ในวัย 26 ชันษา กลายเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์โดยอัตโนมัติ โดยพระองค์ทรงมีพระโอรส และพระธิดา รวม 3 พระองค์ คือ เจ้าชายอัลเบิร์ต เจ้าหญิงแคโรไลน์ และเจ้าหญิงสเตฟานี่ และเมื่อเจ้าหญิงเกรซ สิ้นพระชนม์ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อปี 2525 พระองค์ก็ทรงต้องเลี้ยงดูพระโอรส และพระธิดาเพียงลำพัง โดยไม่คิดจะอภิเษกสมรสใหม่

ผลงานในช่วง 5 ทศวรรษที่ผ่านมา ก็ทำให้ดินแดนที่ปกครองโดยเจ้าชายแห่งนี้ กลายเป็นอาณาจักรที่สำคัญของโลกแห่งหนึ่ง โดยตลอดระยะเวลาที่ทรงดำรงพระชนม์ชีพ เจ้าชายเรนิเยร์ทรงพยายามยกระดับอาณาจักรเล็กๆ ของพระองค์ ผ่านทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อแบ่งปันอำนาจระหว่างกษัตริย์กับสมาชิกสภาแห่งชาติที่มาจากการเลือกตั้ง 18 คน

ทั้งยังทรงยกเลิกระบอบเทวราชา หรือการนับถือกษัตริย์เทียบเท่ากับเทพ จากนั้นทรงหันไปให้ความสำคัญกับโครงการก่อสร้างต่างๆ ทั้งการสร้างตึกสูงระฟ้า ถมที่ในทะเล เพื่อขยายแผ่นดินโมนาโกออกไปอีก 20% แต่ขณะเดียวกันก็ทรงงานหนักเพื่อสนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมทางทะเล

ในวันที่ 7 มีนาคม พระองค์ต้องเข้ารับการรักษาพระอาการประชวรด้วยโรคพระหทัยและการติดเชื้อที่พระปับผาสะ (ปอด) ที่โรงพยาบาล ซึ่งพระอาการมีแต่ทรุดหนักตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จนต้องทรงย้ายเข้าห้องไอซียูเมื่อวันที่ 22 มีนาคม และทรงอยู่ในโคม่าจนถึงวันเสด็จสวรรคต

เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา สภาองคมนตรีได้ลงมติว่าสืบเนื่องจากเจ้าชายเรนิเยร์ทรงพระประชวร ไม่สามารถปฏิบัติพระราชกรณียกิจได้อีกต่อไป จึงทูลเชิญเจ้าชายอัลเบิร์ต มกุฎราชกุมาร พระชนมายุ 47 พรรษา ให้ปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

เจ้าชายอัลเบิร์ตทรงมีพระนามเต็มว่า เจ้าชายอัลเบิร์ต อเล็กซานเดอร์ หลุยส์ ปิแอร์ กริมัลดี ทรงเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมที่สุดคนหนึ่งของโลก โดยพระองค์ประสูติเมื่อปี 2501 และสำเร็จการศึกษาจากโมนาโก และมหาวิทยาลัยในสหรัฐ โดยพระองค์ทรงฝึกงานที่บริษัทการเงินในนครนิวยอร์ก ก่อนจะเสด็จนิวัตโมนาโกหลังเจ้าหญิงเกรซ พระมารดา สิ้นพระชนม์

เจ้าชายอัลเบิร์ตทรงมีพระปรีชาสามารถด้านกีฬาอย่างมาก ทรงเป็นนักกีฬาทีมชาติเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวถึง 5 ครั้ง แต่การที่พระองค์ทรงครองตัวเป็นโสด และทรงระมัดระวังในการวางพระองค์ทำให้ทำให้หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งของฝรั่งเศสเรียกพระองค์ว่า 'คนดังที่ไม่มีใครรู้จัก'