: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง

วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

50 ปี 'เจมส์ ดีน' อำลาโลก(บุคคลโลก / นฤมล คนึงสุขเกษม)

50 ปี 'เจมส์ ดีน' อำลาโลก(บุคคลโลก / นฤมล คนึงสุขเกษม)
แม้ว่าจะจากโลกไปแล้วถึง 50 ปี แต่ชื่อของ 'เจมส์ ดีน' ก็ยังคงมีมนต์ขลังอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย โดยรอยลิปสติกสีแดงสดใส ที่ประทับอยู่บนป้ายหลุมฝังศพหินแกรนิตสีชมพูของเขา คงเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่า อดีตดาราชื่อดังผู้นี้ ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของวัยรุ่นหัวกบฏทั้งหลาย

นอกจากจะมีแฟนภาพยนตร์รุ่นเก่าที่ยังไม่ลืมเลือนเขาแล้ว เจมส์ ดีน ยังได้สาวกรุ่นใหม่ ที่ชื่นชอบพระเอกผู้หยุดกาลเวลาด้วยความตาย จากตำนานของเขา ในฐานะบุคคลผู้สร้างมนต์วิเศษทางภาพยนตร์ ผู้มีแรงดึงดูดทางเพศ และดาราดังที่สร้างโศกนาฏกรรมให้กับแฟนผู้คลั่งไคล้

ในโอกาสครบรอบ 50 ปีแห่งการเสียชีวิตของพระเอกหนุ่มเจ้าเสน่ห์ จากบุคลิกที่ติดตาคน ด้วยการทำหน้าบึ้งตึง เป็นทองไม่รู้ร้อนผู้นี้ เมืองมาเรียน รัฐอินดีแอนา สหรัฐ สถานที่เกิดของเขา ได้จัดงานระลึกถึงดาราผู้เป็นตำนาน ด้วยการนำภาพยนตร์ 3 เรื่องของเขากลับมาปรับปรุงใหม่ให้เป็นระบบดิจิทัล พร้อมเปิดจำหน่ายเป็นชุดดีวีดีที่ระลึกให้กับแฟนภาพยนตร์จากทั่วโลกที่จะหลั่งไหลมาเข้าร่วมในงานนี้

งานที่ระลึกกำหนด 3 วัน ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา รวมถึงการจัดฉายภาพยนตร์กลางแจ้งทั้ง 3 เรื่อง คือ อีสต์ ออฟ เอเดน, รีเบล วิธเอาท์ คอส และไจแอนท์ บนจอขนาดยักษ์บริเวณสนามบินของเมืองมาเรียน

เสน่ห์ที่คงอยู่อย่างไม่รู้เลือนของอดีตเด็กชาวไร่จากรัฐอินเดียนาผู้นี้ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากเหตุการณ์ในอดีต ที่เขาโด่งดังอย่างมาก แต่มีชีวิตอยู่เพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น

เจมส์ ดีน เข้ามาโลดแล่นบนจอเงินในยุคเคร่งศาสนาของอดีตประธานาธิบดี ดไวท์ เดวิด ไอเสนเฮา ที่ทำให้เหล่าวัยรุ่นออกค้นหาวีรบุรุษนอกรีตของตนเอง โดยรูปแบบการแสดงของเจมส์ ดีน ที่มีทั้งสดชื่น และเต็มไปด้วยความทุกข์ เป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับวงการภาพยนตร์ในสมัยนั้น แสดงให้เห็นพรสวรรค์ที่มีอยู่อย่างล้นหลามของเขา

ทั้งการที่นักแสดงหนุ่มผู้นี้เสียชีวิตตั้งแต่อายุน้อย เพียง 24 ปี ทำให้เจมส์ ดีนไม่เคยต้องผ่านประสบการณ์ที่สร้างความเสียหายให้กับเขา ทั้งในเรื่องวัย และน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเหมือนดาราดังร่วมยุค อย่าง มาร์ลอน แบรนโด และเอลวิส เพรสลีย์

เดวิด ธอมสัน นักประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ แสดงความเห็นว่า เจมส์ ดีนอยู่ในช่วงสูงสุดของชีวิตไปตลอดกาล เขากลายเป็นอมตะสำหรับคนเกือบทุกคน ด้วยเสน่ห์ตรงที่ว่า ทุกคนจะมีความคิดอยู่ในใจของตัวเองว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับเขา ถ้าเขายังอยู่จนถึงทุกวันนี้

เมื่อมารดาของเขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ในขณะที่เขาอายุได้ 9 ปี และพำนักอยู่กับครอบครัวที่แคลิฟอร์เนีย พ่อของเขาได้ส่งตัวเขาไปอยู่กับป้าและลุงที่ฟาร์มในแฟร์เมาท์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียแนโพลิส

มาร์คัส วินส์โลว์ จูเนียร์ ลูกพี่ลูกน้องวัย 61 ปีของเจมส์ ดีน กล่าวว่า ชายผู้ที่เขานับถือเหมือนเป็นพี่ชาย เติบโตขึ้นมาท่ามกลางบ้านที่เต็มไปด้วยความรัก แต่การเสียชีวิตของมารดา ทำให้เขามักจะมีอารมณ์เศร้าหมองอยู่ตลอดเวลา

เจมส์ ดีน เป็นบุคคล ที่ชอบแข่งขัน และทำงานที่เกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ ทั้งยังมีพรสวรรค์ด้านการเขียนภาพ ปั้นรูป และการแสดง ซึ่งเปล่งออกมาขณะที่เล่นละครให้กับโรงเรียนมัธยมปลาย

ทั้งนี้ งานเทศกาลเจมส์ ดีน จะทำให้บรรดาแฟนๆ ของเขา ที่บางคนเดินทางมาไกลจากญี่ปุ่น และออสเตรเลีย มีโอกาสที่จะได้อ้าแขนรับตำนานของเขามาไว้กับตัว ที่มีถึงขั้นการประมูลซื้อบ้าน ที่ครั้งหนึ่งดาราหนุ่มผู้นี้ใช้เป็นที่อาศัย

แพม ครอว์ฟอร์ด ผู้ก้าวขึ้นเป็นประธานกลุ่มแฟนคลับระลึกถึงเจมส์ ดีน ที่มีสมาชิกอยู่ประมาณ 400 คน จาก 20 ประเทศ ระบุว่า เจมส์ ดีน มีลักษณะที่น่าดึงดูดใจอย่างมาก ด้วยท่าทีที่เหมือนจะบอกว่า "ทำไมฉันต้องทำบางอย่าง เพราะทุกคนเขาทำกันแบบนั้น"

"เขาเหมือนกับปลดปล่อยให้เราเป็นตัวของตัวเอง เพราะเขาอยู่ในช่วงเวลาที่ทุกคนยึดถือในขนบธรรมเนียมอย่างมาก เขาแทบจะไม่เคยหวีผม เขาใส่ชุดที่เขาพอใจ แต่เขาก็ยังดูดีสุดๆ" ครอว์ฟอร์ด กล่าว