ตม.หนองคาย
สนธิกำลังตำรวจ ทหาร บุกช่วยสาวชาวลาว
หลังย่าร้องขอช่วยหลานสาวถูกหลอกขายประเวณี
พร้อมคุมตัวเอเย่นต์หนุ่มแจ้งข้อหาค้ามนุษย์
ส่วนเหยื่ออยู่ในความดูแลของพัฒนาสังคมฯ
ร.ต.อ.อภิชาติ คลธา รองสารวัตรตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ร.ต.อ.คพัชร คงสูงเนิน รองสว.สส.ภ.จ.หนองคาย ร.ต.อ.ภาคภูมิ ปลุกปลื้ม รองสว.สส.สภ.เมือหนองคาย พร้อมกำลัง จ.ส.อ.อลงกรณ์ กล้าหาญ ผู้บังคับหมวด กอ.รส.จ.หนองคาย นายโชคชัย วิเชียรชัยยะ ผอ.สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.หนองคาย ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ทหารชุดรักษาความสงบจังหวัดหนองคาย ร่วมกันจับกุม นายยานันท์ แสงสุวรรณ อายุ 42 ปี ชาวบ้าน ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมให้ความช่วยเหลือ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และนางซี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ทั้งหมดเป็นชาวนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว สืบเนื่องจาก นางมี (นามสมมติ)อายุ 70 ปี ชาวจังหวัดมหาสารคาม เข้าขอความช่วยเหลือจาก ร.ต.อ.อภิชาติ รองสว.ตม.หนองคาย ว่า ด.ญ.เอ หลานสาว ถูกล่อลวงให้ค้าประเวณีในจังหวัดหนองคาย
นางมี แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า ลูกชายตนได้ภรรยาชาวลาวมีลูกสาวด้วยกัน นางมีจึงข้ามไปอยู่ฝั่งลาวช่วยเลี้ยงหลานจนเริ่มโตเป็นสาวแล้ว นางมีจึงเดินทางไปๆ มาๆ ตลอด กระทั่งล่าสุด เมื่อข้ามไปเยี่ยมด.ญ.เอ (หลานสาว) ที่ประเทศลาว ถึงได้ทราบว่า ด.ญ.เอถูกหลอกให้ขายประเวณี และพยายามโทรศัพท์ต่ิดต่อ ด.ญ.เออยู่หลายครั้ง แต่กลับได้รับการปฏิเสธห้ามไม่ให้ติดต่อ เพราะด.ญ.เอกล่าวว่า ถูกข่มขู่ทำร้ายร่างกาย
จากนั้น ร.ต.อ.อภิชาติ จึงติดตามสืบสวนทราบว่า ด.ญ.เอ อยู่ในความดูแลของนายยานันท์ จึงติดต่อล่อซื้อให้นายยานันท์ พาด.ญ.เอ มาส่งที่โรงแรมริมฝั่งแม่น้ำโขง ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ปรากฏว่านายยานันท์ ขี่รถจักรยานยนต์พา ด.ญ.เอ และน.ส.บี มาพบ โดยติดต่อชื่อประเวณีคนละ 500 บาท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ ซึ่งนางบี บอกว่า น.ส.ซี เพื่อนที่มาด้วยกันถูกขังอยู่ที่บ้านเช่าสองชั้น เลขที่ 179/3 ซอยดอนมน 2 ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปช่วยเหลือนำตัวออกมา
จากการสอบสวนทราบว่า ด.ญ.เอ เดินทางเข้ามาในไทย เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ส่วนน.ส.บี กับน.ส.ซี มาพร้อมกันเมื่อ 5 เดือนก่อน โดยด.ญ.เอ กล่าวว่า เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีชายไทยไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 35 ปี ไปตระเวนหาหญิงสาวที่หมู่บ้านซำบอน นครหลวงเวียงจันทน์ ที่ตนพักอยู่กับพ่อแม่ โดยชายคนดังกล่าวบอกว่าต้องการหาพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร ที่ จ.อุดรธานี เป็นงานสบาย รายได้ดี ตนกับเพื่อนอีก 3 คนได้ขึ้นรถมาด้วย หลังจากมาถึงหนองคายแล้ว ได้พาพวกตนมาให้นายยานันท์ แต่นายยานันท์เลือกตนไว้คนเดียว ส่วนเพื่อนอีก 3 คนไม่ทราบว่าไปไหน หลังจากนั้นนายยานันท์ได้บังคับให้ขายประเวณี วันละ 6-7 ครั้ง โดยไม่เคยได้เงิน แถมยังถูกนายยานันท์ข่มขู่ถ้าไม่ยอมจะทุบตีและไม่ให้กลับบ้าน
ส่วนนายยานันท์ สารภาพว่า ได้เช่าบ้านหลังดังกล่าวให้ทั้ง 3 สาว พักอาศัยอยู่ เมื่อมีลูกค้าต้องการใช้บริการ ก็จะนัดแนะสถานที่ จากนั้นขี่รถจักรยานยนต์พาไปให้ส่งลูกค้า
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบร้านต้นคูณ คาราโอเกะ ใน ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย พบหญิงสาวชาวลาว อายุระหว่าง 16-26 ปี จำนวน 7 คน และเด็กชายชาวลาวอายุ 16 ปี เป็นน้องภรรยาของนายยานันท์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่กองกำกับการตรวจคนเข้าเมือง พบว่าหญิงชาวลาวทั้งหมดมีหนังสืออนุญาตทำงานอย่างถูกต้อง จึงได้ปล่อยตัวไป
หลังจากเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จังหวัดหนองคาย ได้สอบถามข้อมูลหญิงชาวลาวทั้งหมด อย่างละเอียดแล้วพบว่าอยู่ในข่ายของการตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ จึงนำตัวทั้งหมดให้อยู่ในความดูแลของพัฒนาสังคมฯ ระหว่างนี้จะพาไปส่งที่บ้านนารีสวัสดิ์ จ.นครราชสีมา จนกว่าคดีจะสิ้นสุด ส่วนนายยานันท์ จะถูกแจ้งข้อหาในฐานความผิดค้ามนุษย์ คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ร.ต.อ.อภิชาติ คลธา รองสารวัตรตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ร.ต.อ.คพัชร คงสูงเนิน รองสว.สส.ภ.จ.หนองคาย ร.ต.อ.ภาคภูมิ ปลุกปลื้ม รองสว.สส.สภ.เมือหนองคาย พร้อมกำลัง จ.ส.อ.อลงกรณ์ กล้าหาญ ผู้บังคับหมวด กอ.รส.จ.หนองคาย นายโชคชัย วิเชียรชัยยะ ผอ.สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.หนองคาย ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ทหารชุดรักษาความสงบจังหวัดหนองคาย ร่วมกันจับกุม นายยานันท์ แสงสุวรรณ อายุ 42 ปี ชาวบ้าน ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมให้ความช่วยเหลือ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และนางซี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ทั้งหมดเป็นชาวนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว สืบเนื่องจาก นางมี (นามสมมติ)อายุ 70 ปี ชาวจังหวัดมหาสารคาม เข้าขอความช่วยเหลือจาก ร.ต.อ.อภิชาติ รองสว.ตม.หนองคาย ว่า ด.ญ.เอ หลานสาว ถูกล่อลวงให้ค้าประเวณีในจังหวัดหนองคาย
นางมี แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า ลูกชายตนได้ภรรยาชาวลาวมีลูกสาวด้วยกัน นางมีจึงข้ามไปอยู่ฝั่งลาวช่วยเลี้ยงหลานจนเริ่มโตเป็นสาวแล้ว นางมีจึงเดินทางไปๆ มาๆ ตลอด กระทั่งล่าสุด เมื่อข้ามไปเยี่ยมด.ญ.เอ (หลานสาว) ที่ประเทศลาว ถึงได้ทราบว่า ด.ญ.เอถูกหลอกให้ขายประเวณี และพยายามโทรศัพท์ต่ิดต่อ ด.ญ.เออยู่หลายครั้ง แต่กลับได้รับการปฏิเสธห้ามไม่ให้ติดต่อ เพราะด.ญ.เอกล่าวว่า ถูกข่มขู่ทำร้ายร่างกาย
จากนั้น ร.ต.อ.อภิชาติ จึงติดตามสืบสวนทราบว่า ด.ญ.เอ อยู่ในความดูแลของนายยานันท์ จึงติดต่อล่อซื้อให้นายยานันท์ พาด.ญ.เอ มาส่งที่โรงแรมริมฝั่งแม่น้ำโขง ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ปรากฏว่านายยานันท์ ขี่รถจักรยานยนต์พา ด.ญ.เอ และน.ส.บี มาพบ โดยติดต่อชื่อประเวณีคนละ 500 บาท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ ซึ่งนางบี บอกว่า น.ส.ซี เพื่อนที่มาด้วยกันถูกขังอยู่ที่บ้านเช่าสองชั้น เลขที่ 179/3 ซอยดอนมน 2 ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปช่วยเหลือนำตัวออกมา
จากการสอบสวนทราบว่า ด.ญ.เอ เดินทางเข้ามาในไทย เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ส่วนน.ส.บี กับน.ส.ซี มาพร้อมกันเมื่อ 5 เดือนก่อน โดยด.ญ.เอ กล่าวว่า เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีชายไทยไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 35 ปี ไปตระเวนหาหญิงสาวที่หมู่บ้านซำบอน นครหลวงเวียงจันทน์ ที่ตนพักอยู่กับพ่อแม่ โดยชายคนดังกล่าวบอกว่าต้องการหาพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร ที่ จ.อุดรธานี เป็นงานสบาย รายได้ดี ตนกับเพื่อนอีก 3 คนได้ขึ้นรถมาด้วย หลังจากมาถึงหนองคายแล้ว ได้พาพวกตนมาให้นายยานันท์ แต่นายยานันท์เลือกตนไว้คนเดียว ส่วนเพื่อนอีก 3 คนไม่ทราบว่าไปไหน หลังจากนั้นนายยานันท์ได้บังคับให้ขายประเวณี วันละ 6-7 ครั้ง โดยไม่เคยได้เงิน แถมยังถูกนายยานันท์ข่มขู่ถ้าไม่ยอมจะทุบตีและไม่ให้กลับบ้าน
ส่วนนายยานันท์ สารภาพว่า ได้เช่าบ้านหลังดังกล่าวให้ทั้ง 3 สาว พักอาศัยอยู่ เมื่อมีลูกค้าต้องการใช้บริการ ก็จะนัดแนะสถานที่ จากนั้นขี่รถจักรยานยนต์พาไปให้ส่งลูกค้า
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบร้านต้นคูณ คาราโอเกะ ใน ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย พบหญิงสาวชาวลาว อายุระหว่าง 16-26 ปี จำนวน 7 คน และเด็กชายชาวลาวอายุ 16 ปี เป็นน้องภรรยาของนายยานันท์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่กองกำกับการตรวจคนเข้าเมือง พบว่าหญิงชาวลาวทั้งหมดมีหนังสืออนุญาตทำงานอย่างถูกต้อง จึงได้ปล่อยตัวไป
หลังจากเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จังหวัดหนองคาย ได้สอบถามข้อมูลหญิงชาวลาวทั้งหมด อย่างละเอียดแล้วพบว่าอยู่ในข่ายของการตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ จึงนำตัวทั้งหมดให้อยู่ในความดูแลของพัฒนาสังคมฯ ระหว่างนี้จะพาไปส่งที่บ้านนารีสวัสดิ์ จ.นครราชสีมา จนกว่าคดีจะสิ้นสุด ส่วนนายยานันท์ จะถูกแจ้งข้อหาในฐานความผิดค้ามนุษย์ คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.