ศุลกากรหนองคายรวบสาวใต้ลอบขนโคเคน 3 กก.มูลค่า 12 ล้านบาทจากฝั่งลาวเข้าประเทศ สารภาพแชตคุยกับหนุ่มแคนาดาแต่ไม่เคยเห็นหน้ากัน ก่อนถูกหนุ่มจ้างไปรับกระเป๋าหรูที่ลาว มาส่งที่หมอชิตให้เงินค่าจ้าง 2 หมื่นบาท ด้าน ตร.คาดถูกหลอก...
ที่ด่านศุลกากรหนองคาย อ.เมืองหนองคาย นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นายอัสนี เรืองบุญ นายด่านศุลกากรหนองคาย, นายสมบัติ ฆ้อนทอง หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปรามศุลกากรหนองคาย, พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นางสาวมลษวรรณ เทียนแย้ม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 8 ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร โดยจับกุมขณะที่ น.ส.มลษวรรณ ถือกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ลงจากรถโดยสารประจำสะพานมิตรภาพไทย – ลาว เข้าทำพิธีการผ่านแดน
เมื่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรเรียกตรวจสอบตามปกติ พบภายในกระเป๋าเดินทาง มีกระเป๋าสะพายแบบสตรี 4 ใบ สภาพใหม่ แต่มีร่องรอยการถูกงัดแงะ ผ้าที่ซับด้านในเย็บไม่ละเอียด และน้ำหนักมากผิดปกติ เมื่อแกะดูจึงพบว่ามีกระดาษสีน้ำตาลแบบเรียบบรรจุโคเคนปิดทับด้วยเทปกาวแน่น หนา โดยซ่อนโคเคนไว้ทั้งสองด้านของกระเป๋า 4 ใบ น้ำหนักโคเคนรวมสิ่งหุ้มห่อ 3.5 กก. มูลค่าประมาณ 12 ล้านบาท
สอบสวน น.ส.มลษวรรณ เทียนแย้ม ให้การทั้งน้ำตาว่า ตนว่างงาน ได้คุยแชตกับ นายมิเชล ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 40 ปี ชาวแคนาดา โดยไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน ได้เห็นเพียงรูปด้านหน้าโปรไฟล์ของนายมิเชล เป็นคนหน้าตาดี ผิวขาว ใส่สูท คุยกันนาน 1 สัปดาห์ จนเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายมิเชลได้ว่าจ้างให้ตนไปรับของที่นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว โดยอ้างว่าเป็นกระเป๋าหรูหนีภาษีซึ่งจะมีคนมาวางกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไว้ที่ เสาข้างลานจอดรถในตลาดเช้าเวียงจันทน์ เมื่อตนไปรับกระเป๋ามาแล้ว นายมิเชลให้นำไปวางไว้ที่ที่สถานีรถโดยสารหมอชิตแล้วจะมีคนมารับกระเป๋าไป จากนั้นจะให้ค่าจ้างตน 20,000 บาท โดยตนไม่ทราบว่ามีการซุกซ่อนยาเสพติดไว้ นึกว่าเป็นแค่กระเป๋าหนีภาษีธรรมดา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อคำให้การเรื่องนายมิเชลที่กล่าวอ้าง และอาจไม่ใช่ชาวแคนาดาจริง เพราะเป็นการพูดคุยผ่านโลกออนไลน์ อาจมีการนำรูปชายหนุ่มหน้าตาดี ผิวขาว ใส่สูท ดูมีฐานะมาหลอกให้เหยื่อที่ต้องการหาเพื่อนหรือหาคู่มาร่วมขบวนการกระทำผิด ก็เป็นได้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้คุมตัว น.ส.มลษวรรณ ส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองหนองคาย ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
