: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง

วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

สูงสุดคืนสู่สามัญ (ชน)(บุคคลโลก / นฤมล คนึงสุขเกษม)

สูงสุดคืนสู่สามัญ (ชน)(บุคคลโลก / นฤมล คนึงสุขเกษม)
เจ้าหญิงซายาโกะ พระธิดาพระองค์เดียวในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และจักรพรรดินีมิชิโกะแห่งญี่ปุ่น ทรงสละฐานันดรศักดิ์เพื่อเข้าพิธีสมรสกับโยชิกิ คุโรดะ ข้าราชการสำนักผังเมืองกรุงโตเกียว
งานแต่งงานเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกที่พระธิดาของจักรพรรดิญี่ปุ่นสมรสกับคนธรรมดา และออกจากพระราชวังไปใช้ชีวิตสามัญชนที่อพาร์ตเมนต์ของฝ่ายชายที่อาศัยอยู่กับมารดา และอยู่ไม่ไกลจากพระราชวังอิมพีเรียล

พิธีสมรสของเจ้าหญิงซายาโกะ มีขึ้นอย่างเรียบง่าย ณ ห้องจัดงานซึ่งได้รับการตกแต่งเพียงเล็กน้อยในโรงแรมอิมพีเรียล โรงแรมหรูในกรุงโตเกียว มีญาติใกล้ชิดเข้าร่วมพิธีแต่งงานแบบชินโต ซึ่งดำเนินการโดยเจ้าอาวาสจากศาลเจ้าอิเซ ทางตอนกลางของญี่ปุ่น จำนวน 31 คน รวมถึงสมเด็จพระจักรพรรดิ สมเด็จพระจักรพรรดินี เจ้าฟ้าชายนารุฮิโตะ และเจ้าหญิงมาซาโกะ พระชายา ขณะที่ญาติฝ่ายเจ้าบ่าวมี 8 คน

เจ้าหญิงซายาโกะ พระชันษา 36 ปี ซึ่งสวมชุดเจ้าสาวทำจากผ้าซาตินสีขาวเรียบง่ายตามแบบตะวันตก และนายคุโรดะ เจ้าบ่าว วัย 40 ปี ที่อยู่ในชุดทักซิโดสีดำ ไม่ได้แลกแหวนแต่งงานกัน มีเพียงการจิบเหล้าสาเกตามธรรมเนียมเท่านั้น ขณะที่ตัวแทนจากสำนักพระราชวังได้จดทะเบียนสมรสให้ทั้งคู่ระหว่างการแต่งงาน ซึ่งทำให้เจ้าหญิงกลายเป็นนางซายาโกะ คุโรดะ อย่างเป็นทางการ

รายงานข่าวแจ้งว่า ตลอดเส้นทางจากพระราชวังอิมพีเรียลไปยังโรงแรมชื่อเดียวกัน ที่ต้องใช้เวลาเดินทางราว 7 นาที เต็มไปด้วยพสกนิกรหลายพันคนยืนเรียงรายตลอดทางเพื่อร่วมแสดงความยินดี พร้อมปรบมือให้ในขณะที่ขบวนรถเจ้าหญิงซายาโกะ และพระบรมวงศานุวงศ์เคลื่อนผ่าน ซึ่งเจ้าหญิงก็ทรงโบกพระหัตถ์ให้ผู้ที่มารอรับเสด็จด้วย

หลังเสร็จสิ้นพิธีสมรสในช่วงเช้า เจ้าหญิงซายาโกะซึ่งเปลี่ยนมาสวมชุดกิโมโนของพระมารดา และคุโรดะ ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงช่วงบ่ายที่โรงแรมอิมพีเรียล ซึ่งมีแขกเหรื่อผู้ทรงคุณวุฒิจากคณะรัฐบาล และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้าร่วมราว 150 คน โดยทั้งคู่ได้ตัดสินใจนั่งร่วมกับแขกที่มางานมากกว่าที่จะแยกขึ้นไปบนเวทีเหมือนพิธีแต่งงานของคู่แต่งงานอื่นๆ ส่วนอาหารที่จัดเลี้ยงเป็นแบบฝรั่งเศส มีไข่ปลาคาเวียร์ กุ้งมังกร และแกะ เป็นอาหารจานหลัก

ตำนานรักวังอิมพีเรียลเริ่มต้นขึ้นเมื่อเจ้าชายอากิชิโนทรงเชิญคุโรดะซึ่งเป็นพระสหายเข้าร่วมงานเลี้ยงเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทำให้ได้พบเจ้าหญิงซายาโกะ ก่อนจะคบหาดูใจกัน และหมั้นกันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้เจ้าหญิงทรงเตรียมพร้อมรับชีวิตสามัญชนด้วยการไปเรียนขับรถ และฝึกจับจ่ายซื้อของตามซูเปอร์มาร์เก็ต

นอกจากนี้ เจ้าหญิงและพระคู่หมั้นยังช่วยกันเลือกเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าบ้านใหม่ ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมที่ทั้งคู่จะย้ายไปอยู่หลังสร้างเสร็จในปีหน้า

เจ้าหญิงซายาโกะ อาจเป็นเจ้าหญิงคนสุดท้ายที่ต้องสละฐานันดรออกจากราชวงศ์ไป หากรัฐบาลผ่านร่างกฎหมายแก้ไขกฎมณเฑียรบาล ที่จะให้สมาชิกราชวงศ์ฝ่ายหญิง มีสิทธิเท่าเทียมกับฝ่ายชายในการขึ้นครองบัลลังก์ และคงฐานันดรไว้ในกรณีที่แต่งงาน

สิ่งที่บ่งบอกเป็นนัยถึงอนาคตที่น่าตระหนกที่รอคอยเจ้าหญิงอยู่ น่าจะมาจากบทสนทนาตอนหนึ่งของพระองค์ กับสุภาพสตรีรายหนึ่ง ที่กล่าวกับพระองค์ว่า งานทำความสะอาดต่างๆ เป็นงานหนัก ที่พระองค์ต้องเผชิญหลังจากย้ายเข้าไปอยู่ที่ใหม่ ซึ่งเจ้าหญิงก็ทรงตอบว่า "อะไรนะ คุณต้องทำความสะอาดด้วยหรือ"