ซินเดอเรลลาพาเหรด(บุคคลโลก / นฤมล คนึงสุขเกษม)
ปี 2547 สมควรได้รับการบันทึกว่ามีงานสมรสหลวงเกิดขึ้นมากที่สุดปีหนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อมกุฎราชกุมารอย่างน้อย 4 พระองค์ ตัดสินพระทัยสละโสดในปีนี้ และเจ้าสาว 3 ใน 4 เป็นหญิงสามัญชน
ตำนานบทแรกของซินเดอเรลลาหน้าใหม่ เริ่มจาก 'แมรี โดนัลสัน' นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชาวออสเตรเลีย ที่กลายเป็นเจ้าสาวของเจ้าชายเฟรเดอริก มกุฎราชกุมารเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม และกลายเป็นว่าที่ราชินีเดนมาร์กไปโดยปริยาย ทั้งสองพบกันครั้งแรกที่ซิดนีย์เมื่อปี 2543 ช่วงที่ออสเตรเลียเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิปิก และพัฒนาความสัมพันธ์จนกระทั่งมีการประกาศอย่างเป็นทางการจากสำนักพระราชวังเมื่อปี 2546
ชาวเดนมาร์กชื่นชมเจ้าหญิงองค์ใหม่เป็นอย่างมาก และเชื่อว่าพระองค์จะทรงเป็นราชินีที่ดีในอนาคต
สามัญชนรายที่สองที่แปลงสภาพเป็นเจ้าหญิงในปีนี้ ได้แก่ 'เลติเซีย ออร์ติซ' ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ชาวสเปน ซึ่งพบกับเจ้าชายเฟลิเป มกุฎราชกุมารสเปน ระหว่างทำข่าวเรือน้ำมันล่มทางตอนเหนือของประเทศเมื่อ 1 ปีก่อน แม้เป็นหญิงที่เคยผ่านการสมรสมาแล้ว แต่ออร์ติซก็ได้รับการยอมรับจากกษัตริย์ฮวน คาลอส และพระราชินีโซเฟีย รวมทั้งประชาชนชาวสเปน
พระราชพิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าชายเฟลิเปและออร์ติซ ซึ่งกลายเป็นเจ้าหญิงแห่งอัสตูเรียส มีขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นใหม่ของสเปน หลังจากเกิดเหตุการณ์ลอบวางระเบิดรถไฟในกรุงมาดริดเมื่อสองเดือนก่อนหน้านั้น
ต่อมาในเดือนกันยายน เป็นคราวที่ชาวบรูไนได้เฉลิมฉลองข่าวมงคลบ้าง เมื่อเจ้าชายอัล-มูห์ทาดี บิลเลาะห์ โบลเกียห์ มกุฎราชกุมารบรูไน ว่าที่กษัตริย์ของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย ทรงอภิเษกสมรสกับสาวน้อยลูกครึ่งบรูไน-สวิส นาม 'ซาราห์ ซัลเลย์' ผู้ได้รับการขนานนามในเวลาต่อมาว่า 'เจ้าหญิงเปงกิราน อานัค อิสเตรี เปงกิราน อานัค ซาราห์'
เจ้าสาวที่ตกสวรรค์อย่างไม่ทันตั้งตัวในปีนี้ เห็นจะเป็น 'เจ้าหญิงนูร์' พระชายาในเจ้าชายฮัมซาห์ อดีตมกุฎราชกุมารจอร์แดน ซึ่งรั้งตำแหน่งว่าที่ราชินีอยู่ได้เพียงไม่กี่เดือน
เจ้าชายฮัมซาห์ และเจ้าหญิงนูร์ พระญาติห่างๆ ทรงเข้าพิธีอภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ขณะนั้นเจ้าชายฮัมซาห์ยังทรงดำรงตำแหน่งผู้สืบทอดบัลลังก์จอร์แดน ต่อจากกษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แต่แล้วเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 ก็ทรงถอดพระยศมกุฎราชกุมารของเจ้าชายฮัมซาห์อย่างกะทันหัน ด้วยเหตุผลว่าเป็นการเปิดโอกาสให้พระอนุชาต่างมารดามีอิสระมากขึ้น ในการรับตำแหน่งอื่น ที่อาจทำไม่ได้ในฐานะรัชทายาท
