ปิดฉากชีวิต 'จ้าว จื่อหยาง' (บุคคลโลก / นฤมล คนึงสุขเกษม)
จ้าว จื่อหยาง อดีตผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งได้รับการยกย่องจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนและกลุ่มต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย จากการกล้าคัดค้านการใช้กำลังเข้าปราบปรามนักศึกษาที่ชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ในกรุงปักกิ่ง เมื่อปี 2532 ได้ถึงแก่อสัญกรรมจากอาการเส้นเลือดในสมองตีบ ที่โรงพยาบาลในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา
ชีวิตของจ้าวนับว่าผ่านทั้งช่วงรุ่งเรืองที่สุดและตกต่ำที่สุด โดยเขาเคยเป็นนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ก่อนถูกขับลงจากตำแหน่ง และถูกกักบริเวณที่บ้านนาน 15 ปี จนสิ้นชีวิตอย่างเงียบๆ ขณะอายุได้ 85 ปี
วันสุดท้ายที่ภาพของจ้าวปรากฏต่อสายตาสาธารณชน คือ วันที่ 19 พฤษภาคม ปี 2532 เมื่อเขาเดินทางไปเจรจากับนักศึกษาที่อดอาหารประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน โดยเขากล่าวขอโทษนักศึกษาทั้งน้ำตาว่า "ผมมาช้าเกินไป"
หนึ่งวันต่อมา ทางการจีนได้ประกาศกฎอัยการศึกในกรุงปักกิ่ง มีการใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่มีนักศึกษาเป็นแกนนำ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน จ้าวถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สร้างความแตกแยกให้กับพรรค ฐานสนับสนุนผู้ประท้วง และถูกปลดลงจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคในวันที่ 24 มิถุนายน ปี 2532
แต่ในอีกแง่มุม จ้าวได้รับการนับถือว่ามีบทบาทสำคัญในการปฏิรูปจีนยุคใหม่ หลังช่วงปฏิวัติทางวัฒนธรรมปี 2509-2519 โดยเขามีส่วนผลักดันให้เศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงเปิดประเทศจีนสู่โลกภายนอก เขาเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีระหว่างปี 2523-2530 และเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระหว่างปี 2530-2532 แม้ตำแหน่งดังกล่าวถือว่ามีอำนาจสูงสุดในจีน แต่เขายังเป็นรอง เติ้ง เสี่ยว ผิง ซึ่งได้รับการยกย่องในฐานะรัฐบุรุษและผู้นำสูงสุดของชาติ
"เขาเป็นคนนำระบบทุนนิยมสู่จีน" เดวิด แชมเบา ผู้อำนวยการโครงการนโยบายจีนแห่งมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน กล่าว
จ้าว จื่อหยาง เกิดในครอบครัวเจ้าของที่ดินที่มณฑลเหอหนานเมื่อปี 2462 เขาเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มสันนิบาตยุวชนคอมมิวนิสต์ในปี 2475 และกลายเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์อย่างเต็มตัวเมื่อปี 2481
จ้าวมีบทบาทในพรรคมากขึ้น โดยได้รับมอบหมายให้จัดการเจ้าหน้าที่ในมณฑลกวางตุ้งที่ถูกกล่าวหาว่าฉ้อฉลและมีพฤติกรรมต่อต้านแผนปฏิรูปที่ดิน ซึ่งต่อมามีเจ้าหน้าที่ราว 80,000 คนถูกส่งตัวไปทำงานในชนบท
ในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมปี 2510 จ้าวต้องประสบกับความอัปยศเมื่อกลุ่มยุวชน 'เรด การ์ด' ของเหมา เจ๋อตุง ลากตัวเขาออกจากบ้านในนครกวางเจา และขับเขาไปทำงานในชนบทที่มองโกเลียใน จากข้อกล่าวหาฐานสนับสนุนขบวนการปฏิวัติ
หลังจากถูกเนรเทศนาน 4 ปี จ้าวกลับสู่อำนาจอีกครั้งในปี 2514 ในฐานะเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำมองโกเลียใน เขาสร้างผลงานจากการบริหารภาคการเกษตรในมองโกเลียในและในมณฑลกวางตุ้ง ระหว่างปี 2514-2518
จ้าวได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการพรรค และผู้ว่าการประจำมณฑลเสฉวนในปี 2518 ภายใต้การหนุนหลังจากเติ้ง เสี่ยวผิง เขามีส่วนช่วยล้มเลิกระบบเกษตรแบบคอมมูน ฟื้นฟูชนบท เพิ่มพูนรายได้กับประชาชน ทำให้ในช่วงปี 2520-2523 ผลผลิตการเกษตรในเสฉวนที่เคยผลิตไม่พอต่อความต้องการ สามารถเติบโตถึง 25% ขณะการผลิตภาคอุตสาหกรรมเติบโต 81%
การดำเนินการดังกล่าว ซึ่งรู้จักในชื่อ 'บทเรียนเสฉวน' กลายเป็นแบบอย่างสำหรับนำไปปรับใช้ทั่วประเทศ
เติ้ง เสี่ยวผิง นำจ้าวเข้าสู่การเมืองระดับชาติในกรุงปักกิ่งเมื่อปี 2523 โดยจ้าวได้รับตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี และสมาชิกกรมการเมืองแห่งพรรคคอมมิวนิสต์อันทรงอิทธิพล อีก 6 เดือนต่อมา เขาได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเติ้งต้องการให้จ้าวเป็นผู้นำการผลักดันจีนสู่ความทันสมัย
ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2530 จ้าวก้าวสู่ตำแหน่งสูงสุดด้วยการได้รับเสนอชื่อเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ต่อจากนายหู เหยาปัง ซึ่งถูกปลดจากการสนับสนุนนักศึกษาที่ก่อความไม่สงบเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม จ้าวก็ไม่พ้นประสบชะตากรรมเดียวกับหู เมื่อเขาเรียกร้องให้มีการประนีประนอมและแสดงความเห็นใจกับผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในปี 2532 เปิดทางให้ศัตรูการเมืองของเขาซึ่งนำโดยนายกรัฐมนตรีหลี่ เผิง ได้โอกาสโจมตีจ้าว พร้อมเรียกร้องให้กองทัพใช้กำลังบดขยี้ผู้ประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน จนนำมาสู่การปลดจ้าวพ้นตำแหน่งและกักบริเวณเขาอย่างไม่มีกำหนด
: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง
วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553
ปิดฉากชีวิต 'จ้าว จื่อหยาง' (บุคคลโลก / นฤมล คนึงสุขเกษม)
เขียนโดย
Thai Writer
ที่
10:22
ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปยัง Xแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest
เรื่องน่าสนใจเกี่ยวเนื่องกัน:
ป้ายกำกับ:
บุคคลโลก