: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง

วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ปลอดภัยไว้ก่อน มารู้เรื่องโจรกรรมรถยนต์(ยนตรกรรม / ยุทธพงษ์ ภาษี)

ปลอดภัยไว้ก่อน มารู้เรื่องโจรกรรมรถยนต์(ยนตรกรรม / ยุทธพงษ์ ภาษี)

ที่ผ่านมา สถิติรถหายในแต่ละปี เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างน่าใจหาย แม้ว่ารถยนต์รุ่นใหม่ๆ จะมีการพัฒนาด้วยการติดตั้งระบบความปลอดภัยต่างๆ ให้ยากต่อการโจรกรรมยิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งเจ้าของรถเอง ภายหลังการซื้อรถ ต่างก็นำรถไปติดตั้งระบบสัญญาณกันขโมยที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงแล้วก็ตาม

แต่ดูเหมือนว่ายังไม่สามารถป้องกันรถหายได้สมบูรณ์แบบ ในทางกลับกัน บางครั้งดูเหมือนว่าบรรดามิจฉาชีพ กลับมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเทคโนโลยี เพราะจากจำนวนรถที่ถูกโจรกรรมที่เจ้าของรถยนต์แจ้งความไว้ และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ทำการรวบรวมสถิติ พบว่า มากกว่า 50% การขโมยเกิดขึ้นในเขตกรุงเทพมหานคร และรถที่ถูกโจรกรรมมากว่า 60% เป็นรถปิกอัพ

เพราะเหตุผลใดรถปิกอัพจึงมีสถิติการถูกโจรกรรมมากที่สุด คำตอบก็คือ ปิกอัพเป็นรถที่โจรกรรมได้ง่ายที่สุดนั่นเอง และปิกอัพยังเป็นรถที่มีประชากรมากสุดบนถนนด้วย

ทั้งนี้ การโจรกรรมรถยนต์ของเหล่ามิจฉาชีพนั้น มีด้วยกันหลายรูปแบบ เริ่มตั้งแต่ แบบพื้นฐาน โดยการใช้ไขควง หรือลวดสอดเข้าไปที่รูกุญแจประตูรถ หรือบริเวณฝาเติมน้ำมันด้านข้างตัวถัง เพื่อดูกลไกของกุญแจว่าเป็นแบบใด จากนั้นก็จะใช้กุญแจผี ฝนตะไบให้ได้รอยเขี้ยวตรงกับกุญแจตัวจริง

เพื่อไขเข้าสู่ตัวรถต่อไป

แบบที่สอง คือ การปั๊มกุญแจดอกใหม่ขึ้นมา ซึ่งวิธีนี้จะต้องมีกุญแจดอกจริงอยู่ในมือ โดยมิจฉาชีพกลุ่มนี้จะแฝงตัวในรูปแบบของพนักงาน หรือมีการร่วมมือกันกับพนักงานตามสถานบริการท่องเที่ยว โรงแรม หรือร้านอาหารที่มีบริการจอดรถสำหรับลูกค้า ซึ่งพนักงานจะทำการก๊อบปี้กุญแจตัวจริงไว้

แบบที่สาม เป็นลักษณะของการลอกเลียนแบบกุญแจรถ ซึ่งเป็นอุปกรณ์พิเศษที่ทำขึ้นมาใหม่ ลักษณะคล้ายปีกเครื่องบิน ปลายข้างหนึ่งมีลักษณะแบนและยาว ส่วนปลายอีกด้านเป็นเหลี่ยม

วิธีการนี้จะใช้ปลายด้านที่แบนและยาว สอดเข้าไปในรูกุญแจ จากนั้นใช้คีมหนีบปลายอีกด้านหนึ่งไว้ หมุนคว้านภายในรูกุญแจเพื่อทำลายสลักภายใน ซึ่งวิธีนี้จะเปิดประตูรถได้อย่างรวดเร็ว

แบบที่สี่ เป็นลักษณะของการขโมยรถปิกอัพที่นิยมมากที่สุด และถือว่าเป็นจุดอ่อนของรถปิกอัพ เพราะวิธีนี้ใช้เวลาไม่ถึง 3 นาที ก็สามารถเข้าตัวรถได้ นั่นก็คือ การกรีดขอบยางที่กระจกหลัง ซึ่งเป็นรอยต่อของกระจกกับตัวถังรถ เพื่อที่จะเข้าไปในรถได้อย่างง่ายดาย

แบบล่าสุด ที่มีการเปิดโปงกันมาคือ การทำให้วงจรไฟฟ้าของระบบกันขโมย ลัดวงจร

ก่อนจะงัดรถเข้าไป ซึ่งสัญญาณกันขโมยติดรถยนต์ส่วนใหญ่จะใช้ไฟฟ้าและนำมาเชื่อมวงจรกับไฟเลี้ยวหรือไฟหรี่ เพื่อส่งสัญญาณกะพริบเตือนเมื่อมีผู้บุกรุก แต่โครงสร้างไฟเลี้ยวของกระบะ สามารถถูกแกะออกมาได้ง่าย คนร้ายสามารถจัดการขั้วไฟเลี้ยวให้เกิดการช็อตได้ วงจรกันขโมยก็จะเสียหายใช้การไม่ได้

เรียกว่า แม้จะมีการติดตั้งระบบสัญญาณกันขโมยมากับตัวรถ และสามารถป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพสตาร์ตรถออกไปได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปกป้องทรัพย์สินภายในรถไม่ให้หายได้ ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สุด ก็คือ การปกป้องรถของตนเอง

การป้องกันที่ดีที่สุด คือ อย่าจอดรถในที่ที่ลับตาคน โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน ซึ่งช่วงที่รถหายมากที่สุดคือตั้งแต่เวลา 24.00-03.00 น.

นอกจากนี้ ในการติดตั้งระบบสัญญาณกันขโมย ประเด็นสำคัญที่สุดคือ อย่าคำนึงถึงเรื่องของราคาเป็นหลัก เพราะทุกวันนี้มีสินค้านำเข้าราคาถูกจำนวนมากที่ทะลักเข้าไทย ทั้งที่ถูกต้องตามกฎหมายและหนีภาษี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้านำเข้าจากจีน ราคาถูก แต่บางทีบางสินค้าก็มีคุณภาพที่ไม่ดีนัก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผู้บริโภคที่ต้องหาข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อ และใช้รถปิกอัพก็ควรซื้อสัญญาณกันขโมยของรถปิกอัพ รถเก๋งก็ควรใช้ที่เป็นแบบรถเก๋ง และช่างที่ติดตั้งควรเป็นผู้ที่ชำนาญด้านนี้โดยตรง

ปัญหาเรื่องการโจรกรรมรถยนต์ เป็นสิ่งที่ยังไม่มีใครสามารถเข้ามาแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์แบบ

จึงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคเอง จำเป็นจะต้องหาทางป้องกันตัวเอง ในหลายๆ วิธีการ การติดตั้งสัญญาณกันขโมย อาจเป็นส่วนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์

แต่อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ก็อาจจะมีในส่วนที่สามารถยืดระยะเวลา และทำให้เกิดความกลัวที่จะโจรกรรมได้ แต่ทั้งนี้ การเลือกซื้อสินค้าก็จำเป็นที่จะต้องพิจารณาดูรายละเอียดต่างๆ ประกอบ ทั้งตัวสินค้า ตัวบริษัทผู้ทำธุรกิจ และที่สำคัญก็คือ ควรจะมีการรับประกัน อย่างน้อย 2 ปี สำหรับอายุการใช้งานของสัญญาณกันขโมย 5 ปีขึ้นไป

ส่วนว่าจะทำอย่างไรเมื่อรถหาย มันเป็นประสบการณ์ที่เลวร้าย ทันทีที่คุณรู้ว่ารถยนต์สุดที่รักได้อันตรธานหายไป ผมมีคำแนะนำ ดังนี้

1.เตรียมหากระดาษ ปากกา ไว้ให้พร้อม เพื่อบันทึกข้อมูลการประสานงานนับจากนี้ไป

2.ค้นหาเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยฉุกเฉินต่างๆ ญาติพี่น้องที่ช่วยเหลือได้

3.โทรศัพท์หาเพื่อนหรือญาติเพื่อช่วยในการประสานงาน (การมีโทรศัพท์มากกว่า 1

เครื่อง จะทำให้การประสานงานรวดเร็วขึ้น)

4.รวบรวมเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับรถ เช่น ทะเบียน สี ระยะเวลาใช้ สภาพ ตำหนิ

หาข้อมูลว่ารถหายไปเวลาประมาณเท่าไร มีใครเห็นคนสุดท้ายก่อนหาย เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้ช่วยเหลือนำไปสังเกตและค้นหา

5.การติดต่อหน่วยงานช่วยเหลือ ต้องรีบติดต่อโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

6.หากท่านไม่ใช่เจ้าของรถ การแจ้งความกับตำรวจ จำเป็นต้องใช้ใบมอบอำนาจ (ตำรวจสามารถลงบันทึกไว้ก่อนได้)

7.รีบประสานงานต่างๆ ด้วยตัวเองดีกว่ารอเจ้าหน้าที่ เช่น โทรศัพท์ไปสกัดรถที่หน่วยงานชายแดน ตำรวจทางหลวง

8.สถานีวิทยุชุมชน มีบทบาทมากในการช่วยเหลือ ควรเลือกโทรที่นี่ก่อน สอบถามเบอร์และ

คำแนะนำหรือหมายเลขหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จากสถานีวิทยุเหล่านั้น

หลังเวลาผ่านไป รถที่มีประกันภัยประเภทที่ 1 เจ้าหน้าที่ประกันภัยจะเข้ามาลงบันทึกเพื่อหาข้อเท็จจริง

9 การกระทำใดๆ ที่พยายามตามหารถ จะทำให้ประกันเชื่อว่ารถไม่ได้ถูกขโมยไปโดยเจ้าของ

10.มีสมาธิและทำใจ หลังแจ้งความ..หากมีแต่ความเงียบมาเยือน ไม่ต้องแปลกใจ ยกเว้นแต่คุณจะนามสกุลดังคับฟ้า หรือเป็นดาราใหญ่ อาจจะได้รถคืนเร็ว

11.หากเวลาผ่านไป คุณไม่มีความหวังใดๆ โปรดหาเพื่อนหรือคำปลอบใจ หวังว่าคุณจะไม่โชคร้ายเกินไป

ระวัง เวลา 02.00-06.00 น. คือช่วงอันตรายที่สุดสำหรับรถที่ขโมยชอบ