: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง

วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

70 ปี ความหวังแห่งทิเบต(บุคคลโลก / นฤมล คนึงสุขเกษม)

70 ปี ความหวังแห่งทิเบต(บุคคลโลก / นฤมล คนึงสุขเกษม)
เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 70 ปี เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา 'ทะไล ลามะ' สัญลักษณ์แห่งความหวังของชาวทิเบตทั้งที่อยู่ในดินแดนบ้านเกิด และที่พลัดถิ่นไปอยู่ในต่างประเทศ ร่วม 5 ล้านคน ยังมีความหวังอยู่เต็มเปี่ยมว่าสักวันหนึ่งพระองค์จะได้เดินทางกลับไปยังทิเบต

เรื่องราวของผู้นำทางด้านจิตวิญญาณแห่งพุทธศาสนาของทิเบตรายนี้ เคยถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดมาแล้วถึง 2 ครั้ง พระองค์ยังเขียนหนังสือมาแล้วถึง 40 เล่ม

การเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักกันไปทั่วทุกมุมโลกของพระองค์ ต้องแลกมาด้วยการลี้ภัย หลบหนีออกจากทิเบต ผ่านทางเทือกเขาหิมาลัย เพื่อให้หลุดพ้นจากเงื้อมมือของรัฐบาลจีน ที่เข้ามาปกครองทิเบต ช่วงปี 2512 ก่อนจะเข้าพำนักที่เมืองธรัมศาลา ในอินเดีย สถานที่ที่พระองค์ได้ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นขึ้นมา และรณรงค์เพื่อปลดปล่อยทิเบตให้เป็นอิสระ

ปัจจุบัน องค์ทะไล ลามะ ได้เลิกล้มความต้องการดั้งเดิมที่จะให้ทิเบตเป็นเอกราชไปแล้ว พระองค์เพียงต้องการแค่สิทธิในการปกครองตนเองสำหรับประชาชนของพระองค์เอง โดยมีพระองค์เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ และไม่มีส่วนร่วมในการบริหารบ้านเมืองแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ทางการทูตของจีน และทิเบต ได้เปิดหารือถึงข้อเสนอของพระองค์มาแล้วถึง 4 รอบ แต่หลายฝ่ายยังตั้งข้อสงสัยว่าทางการแผ่นดินใหญ่จะยอมอ่อนข้อในเรื่องนี้หรือไม่

แม้ว่าชาวทิเบต ทั้งที่ลี้ภัยอยู่ในต่างแดน และที่ยังพำนักอยู่ในถิ่นเดิม จะมีความเห็นแตกต่างไปในเรื่องนี้ เพราะต้องการเห็นบ้านเกิดของตัวเองได้รับเอกราชเท่านั้น แต่องค์ทะไล ลามะ ก็ยังยืนยันในการเดินทางสายกลางของพระองค์ เพื่อผลประโยชน์ที่ดีที่สุดของชาวทิเบต

"ตราบเท่าที่อาตมายังอยู่ที่นั่น อาตมาสามารถทำให้ชาวทิเบตสงบลงได้ แต่ถ้าอาตมาไม่ได้อยู่ อาตมาก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น" องค์ทะไล ลามะ กล่าว

กลุ่มสภารุ่นเยาว์ทิเบต ได้โต้แย้งถึงจุดยืนของผู้นำทางจิตวิญญาณของพวกเขา พร้อมแสดงความต้องการที่จะเห็นทิเบตได้รับอิสรภาพ

"เรายืนหยัดเพื่อความเป็นเอกราชของทิเบต แต่ก็ไม่มีข้อกังขาใดๆ ทั้งนั้น ถึงบทบาทที่สำคัญขององค์ทะไล ลามะ ในการรวมกลุ่มชาวทิเบตไว้ด้วยกัน ขณะที่ต้องอาศัยอยู่นอกประเทศของตัวเองมาร่วม 50 ปี' ธนธับ โดร์ยี โฆษกของทางสภา ระบุ

อย่างไรก็ดี ยังมีกลุ่มที่ทรงอิทธิพลกลุ่มหนึ่งในชุมชนลี้ภัย อย่าง สมาคมผู้หญิงทิเบต ที่เห็นพ้องกับความตั้งใจจริงขององค์ทะไล ลาะ ในความพยายามหาทางออกด้วยการขอสิทธิในการปกครองตัวเอง รวมถึงความพยายามที่จะรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวในชุมชนไว้

"องค์ทะไล ลามะ เป็นผู้มีความรอบคอบ และหลังจากที่พระองค์ได้ศึกษาเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ร่วมถึงสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศของจีน รวมถึงนโยบายที่จีนมีต่อทิเบต พระองค์จึงได้บทสรุปออกมาเช่นนี้ บี. เธริง ประธานสมาคม กล่าว พร้อมเสริมว่า วิสัยทัศน์ขององค์ทะไล ลามะ ในเรื่องที่โลกมีพรมแดนอยู่น้อยมาก และการใช้ชีวิตอย่างสามัคคี ได้ทำให้ชุมชนชาวทิเบต สอดคล้องเป็นหนึ่งเดียวกัน