: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง

วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ยอดขายรวมปี 48 มีลุ้น 7 แสนคัน (ยนตรกรรม / ยุทธพงษ์ ภาษี)

ยอดขายรวมปี 48 มีลุ้น 7 แสนคัน (ยนตรกรรม / ยุทธพงษ์ ภาษี)

ตลาดรถยนต์ปี 2547 ปิดตัวลงไปแล้ว รวมรถทุกประเภทที่ขายกันทั้งหมด สูงสุดเป็นประวัติการณ์ นั่นคือตัวเลขที่ 626,026 คัน ยอดสูงสุดในเดือนธันวาคม ขายถึง 73,251 คัน



รถทุกประเภทนั้น หมายถึง รถเก๋ง รถกระบะ รถเพื่อการพาณิชย์ ไม่ว่าจะเป็น 10 ล้อ 6 ล้อ หรือรถหัวลาก



ถ้าถามว่าในปีที่ผ่านมา รถอะไรขายมากสุด จากตัวเลขคือรถกระบะ ที่มียอดขายรวม 368,911 คัน เป็นกระบะของ 7 ยี่ห้อรวมกัน สำหรับรถกระบะปีที่ผ่านมา มีสองยี่ห้อใหญ่ที่ขับเคี่ยวกันชนิดไม่ยอมแพ้ นั่นคือ อีซูซุ ในฐานะเจ้าตลาด กับ โตโยต้า ในฐานะผู้ท้าชิง เกมต่อเกมเป็นการแก้กันในทุกตลาดอย่างน่าดูชม



สองยี่ห้อนี้ รวมกันแล้ว กินตลาดไปราว 71.3% ที่เหลือ 5 ยี่ห้อไปแย่งกันเอา 28.7% ปีนี้โตโยต้าบอกว่าจะขายให้ได้ 40% จาก 33.4% ซึ่งอีซูซุที่ทำได้ 37.9% คงไม่ปล่อยให้โตโยต้ากวาดไปคนเดียว 40% แน่ ทั้งไม่คิดเหลือเผื่อ 5 ยี่ห้อ ว่าจะกินอะไร จะอยู่รอดอย่างไร เห็นที 5 ยี่ห้อที่เหลือจะต้องมีของใหม่ออกมาแข่งให้แรงแบบสุดๆ ไปเลยเสียแล้ว



นิสสัน มิตซูฯ ฟอร์ด มาสด้า แน่นอนว่ามีรถใหม่เป็นรถออลนิว คือปรับโฉมใหม่หมดทั้งคัน แต่ ผมไม่รวมเอาเชฟโรเลตไปด้วยในแง่ว่าจะมีของใหม่หรือไม่ เพราะว่าเชฟโรเลตใช้แพทฟอร์มของอีซูซุ ลำพังอีซูซุเพิ่งไมเนอร์เชนไป หน้าตาเพิ่งปรับ ไม่มีทางที่จะปรับในเร็วๆ นี้



ส่วนรถเก๋งขายกันทั้งหมดไม่น้อย นั่นคือ 209,110 คัน ในจำนวนนี้เป็นรถของค่ายญี่ปุ่น ครองตลาดไปเสีย 91% รถญี่ปุ่น 5 ยี่ห้อหลัก คือ โตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน มิตซูบิชิ และ มาสด้า ปล่อย 9% ที่เหลือให้กับรถยุโรปและเกาหลี 8 ยี่ห้อหลักแย่งกัน



เก๋งญี่ปุ่นนั้น น่าดูชม เพราะว่าสองยี่ห้อ คือ โตโยต้า กับ ฮอนด้า รวมกันแล้วกินตลาดไป 83.3% รถ 100 คัน ตีว่าเป็นรถโตโยต้า 49 คันครึ่ง และเป็นฮอนด้า 37 คัน



ในปีที่ผ่านมา รถเก๋งมีรถญี่ปุ่น 2 ค่ายที่ถือว่าตัวเลขขายถดถอย คือ มิตซูบิชิ กับ นิสสัน สาเหตุก็มาจากเรื่องของการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรมากกว่าอย่างอื่นๆ ทำให้แผนต่างๆ ล่าช้าไป มิตซูบิชิหนักหน่อย ถึงกับพับแผนหลายอย่างไป เพราะว่าปัญหาอยู่ที่บริษัทแม่ในเมืองนอก ส่วนนิสสัน ก้าวมาสู่จุดเปลี่ยน เพราะว่าญี่ปุ่นเข้ามาบริหารตลาด ทำให้ต้องรอให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเสียก่อน ในปีนี้นิสสันน่าจะคืนฟอร์มได้ไม่ช้า ในแง่ของการจัดการภายใน เพราะว่าปัญหาไม่ได้ใหญ่โต ส่วนมิตซูบิชิ ต้องรอดูลูกอึดจากสินค้าใหม่อย่างพี คาร์



หันมาดูรถเก๋งยูโรป และเกาหลีบ้าง ตลาดรถยุโรปอยู่ในภาพที่ไม่สวยงามเหมือนในอดีต เรียกว่า มีผู้เล่นที่มีกำลังจริงๆ นั้น 3-4 รายเท่านั้น คือตลาดพรีเมี่ยมเป็นเบนซ์ กับบีเอ็มดับเบิลยู ตลาดแมสก็เป็นฟอร์ด เชฟโรเลต และมีรถเกาหลียี่ห้อเกีย เข้ามาสอดแทรก ซึ่งรถเกาหลีรายใหญ่อย่างฮุนได ก็ไม่มีขายในเมืองไทยนานแล้ว เหลือแต่เกีย และซังยอง สำหรับเกีย มีรถราคาต่ำจนถึงราคาสูง แต่ซังยอง เป็นรถราคาสูงทั้งหมด ตลาดแคบ การขายจึงไม่มากมายนัก และชื่อชั้นก็อาจจะเป็นรอง ยิ่งการสื่อสารการตลาดไม่เข้มข้น โอกาสก็น้อยลง



รถยุโรปอย่างเปอโยต์ โฟล์ก ออดี้ เป็นกลุ่มที่เคยใหญ่โต แต่ตัวเลขปิดปลายปีค่อนข้างน่าตกใจ เพราะว่ามีการขายรถปีละไม่ถึง 200 คัน หายไปครึ่งต่อครึ่ง ซึ่งรถที่เคยเป็นเจ้ายุโรปอย่างเปอโยต์คงจะเป็นอดีต รถอย่างวอลโว่ก็มียอดขายลดลง ไม่ต่างไปจากฟอร์ด ซึ่งดูเหมือนรถเก๋งยังเป็นขาลงตามเพื่อนไปด้วย



ส่วนประมาณการปีนี้ ยักษ์ใหญ่อย่างโตโยต้า อีซูซุ ประเมินสถานการณ์ใกล้กันมาก นั่นเพราะเชื่อมั่นในภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2548 ว่าจะยังมีเสถียรภาพและขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี และคาดว่าปี 2548 ตลาดรถรวมจะมียอดขายรวม 690,000 คัน หรือมีอัตราการเจริญเติบโต 10% ผมเห็นตัวเลขแล้วดูเหมือนว่าจะเป็นการตั้งแบบอนุรักษนิยมมากๆ



โตโยต้าเขาประเมินแยกแบบนี้...



ประมาณการยอดขายรถยนต์ ในปี 2548



ปริมาณการขายรวม 690,000 คัน เติบโต 10%



รถยนต์นั่ง 215,000 คัน เติบโต 2.8%



รถเพื่อการพาณิชย์ 475,000 คัน เติบโต 13.9%



รถกระบะขนาด 1 ตัน 412,000 คัน เติบโต 11.7%



ที่จริงหากว่าบรรยากาศดีๆ 7 แสนคัน น่าจะเป็นเป้าจริงมากกว่า เพราะว่า รถแม่เหล็ก อีกหลายตัว กำลังจะออกมา จึงต้องมาลุ้นว่าจะทะลุหลัก 7 แสนคันหรือไม่