: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง

วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

สัญญาณอันตราย

แม่ไม้การเมือง / ไพศาล สังโวลี

สัญญาณอันตราย
คล้อยหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ห้ามปรามในที่ประชุมพรรคไม่ให้ ส.ส.วิพากษ์วิจารณ์กันเองผ่านสื่อมวลชน ไม่ทันไร
ค่ำคืนนั้นเอง กลุ่ม ส.ส.อีสาน ที่ว่ากันว่า จัดประชุมกันทุกเดือนอยู่แล้ว ที่เก่าเวลาเดิม ก็มาเจอกันเหมือนเคย ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ถนนรัชดาภิเษก

การประชุมคืนนี้ แว่วมาว่า คึกคักครื้นเครงเป็นการใหญ่

ไม่รู้เพราะโอวาทของ 'ท่านผู้นำ' หรือน้ำคำของ 'นักการเมืองเมื่อวานซืน' อย่างโฆษกพรรค น.ต.ศิธา ทิวารี ที่ย้อนเอากับ ส.ส.ที่ชอบจ้อว่า "มีผู้สื่อข่าวมาบอกว่า ส.ส.พวกนี้มันหน้าโง่ที่ให้สัมภาษณ์เอง"

แต่พอฟังเหตุผลนี้แล้ว ก็พอเข้าใจได้ "เราอยู่ในที่ประชุมพรรค เราไม่เป็นกันเอง ไม่ได้พูดคุยกันแบบคนคุ้นเคย เพราะพรรคจะมีวาระการประชุมที่เป็นพิธีการ ส.ส.ภาคอีสานหลายคนไม่กล้าที่จะพูดอะไร เราจึงเห็นร่วมกันว่า น่าจะมีการจัดประชุมเฉพาะ ส.ส.อีสาน เพราะเวลาเราอยู่กับพวกเราเอง จะรู้สึกอบอุ่น ใครอยากจะพูดอะไร ก็จะได้พูด และทุกคนเดินทางมาร่วมงานกันอย่างเต็มใจ โดยที่ไม่มีใครบังคับ"

ก่อนหน้าที่นายกฯ ทักษิณจะออกมาห้ามปรามอย่างเป็นกิจจะลักษณะ ก่อนหน้าที่ 'ศิธา' จะวาจาสามหาวเอากับ ส.ส.ของพรรค มีเสียงวิเคราะห์วิจารณ์รัฐบาลอยู่เป็นระลอก โดยเฉพาะที่มาจากตัวแทน 'มุ้ง' การเมือง

อย่าง บุญถึง ผลพาณิชย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค ที่สะท้อนออกมาทีไร ก็มักทำให้ใครต่อใครอดคิดถึง 'ป๋าเหนาะ' เสนาะ เทียนทอง หัวหน้ากลุ่มวังน้ำเย็น ไม่ได้

บุญถึง ออกมายอมรับว่า รัฐบาลกำลังอยู่ในช่วง 'ขาลง' ขณะ สุพล ฟองงาม ส.ส.อุบลราชธานี มุ้งเดียวกัน ขานรับว่า ชาวบ้านกำลังหนีห่างพรรคไทยรักไทย

แล้ว โสภณ เพชรสว่าง ส.ส.บุรีรัมย์ กลุ่มวังน้ำยม ของ 'สมศักดิ์ เทพสุทิน' รมว.แรงงาน ก็ไม่น้อยหน้า เสนอทันควันให้มีการปรับคณะรัฐมนตรีเกลี่ยตำแหน่งตามโควตา ส.ส. เขี่ยลูกไปเข้าทาง 'นาย'

ด้าน บัวสอน ประชามอญ ส.ส.เชียงราย หันมาจวกทีมโฆษกพรรค ว่าล้วนแต่พวกอ่อนหัด ทำให้พรรคเสียศูนย์

ตามติดด้วย เทวัญ ลิปตพัลลภ ส.ส.นครราชสีมา กลุ่มลำตะคอง คนที่สื่อถึง สุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกฯ ได้ดีที่สุด เสนอปรับคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ได้บุคคลที่เหมาะสม และเสนอให้นายกฯ ทักษิณ ตั้งทีมขึ้นมาตอบคำถามค้างคาใจประชาชนให้หมด โดยเฉพาะประเด็นที่อยู่ในกระแสวิพากษ์วิจารณ์ กรณีเครื่องบิน ซี 130 ที่รับ-ส่งแขกเหรื่อของญาตินายกฯ ไปร่วมงานขึ้นบ้านใหม่

ทั้งยังไม่วาย เฉลิมชัย อุฬารกุล ส.ส.สกลนคร กลุ่มพ่อมดดำ ของ สุชาติ ตันเจริญ ออกมาตอกย้ำส.ส.ส่วนใหญ่รู้มานานแล้วว่าพรรคกระแสตก

เท่านั้นยังไม่พอ นิสิต สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด เรียกร้องปรับคณะรัฐมนตรี เอา พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รมว.มหาดไทย แห่งวังจันทร์ส่องหล้า ท้าทายไปถึง 'หลังบ้านนายกฯ' และวัฒนา เมืองสุข รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 'รัฐมนตรีนักสร้างภาพ' ออกไป ข้อหาตัวถ่วง

แม้แต่ในเวทีประชุมพรรค เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา ต่อหน้าต่อตานายกฯ ทักษิณ ก็เอาไม่อยู่

และแค่ข้ามคืนที่นายกฯ ทักษิณร้องขอ นิรันดร์ นาเมืองรักษ์ ส.ส.ร้อยเอ็ด กลุ่มวังน้ำเย็น กับ น.ต.ศิธา ทิวารี โฆษกพรรค ก็เอาอีกแล้ว กรณี 'ศิธา' ตีความพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เข้าข้างนายกฯ ทักษิณ เกินเหตุ

นี่คือสัญญาณที่นับว่าครั้งนี้ปรากฏชัด จากทุกครั้งที่นายกฯ ทักษิณ เผชิญหน้ากับวิบากกรรม 'ขาลง' สิ่งแรกที่เกิดขึ้นก็คือ ความแตกแยก และอำนาจต่อรองของกลุ่มก๊วนการเมืองภายในพรรค

แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า 'เด็กไทยรักไทย' เริ่มไม่อยู่ในคาถาของนายกฯ ทักษิณ อีกต่อไป

แต่กลับไปอยู่ในคาถาของ 'มุ้ง' หรือกลุ่มก๊วน มากขึ้น

สัญญาณเช่นนี้ ใครจะเรียกอะไรก็ตามแต่ แต่ที่เห็นและเป็นอยู่นับว่า 'อันตราย!'