บทความโดย โสภณ องค์การณ์
ให้เขาไปเถอะ 400+1
ปี่กลองศึกเลือกตั้งการเมืองกระหึ่มก้อง สำหรับการประลองความนิยมในวันกาเบอร์ 6 กุมภาพันธ์ ค่ายหลักทั้ง 4 ต่างก็เตรียมพร้อมทั้งกำลังคนและเสบียง กระสุนกัน ทั้งแบบไม่อั้น และตามมีตามเกิด ขึ้นอยู่กับสปอนเซอร์และเงินบริจาคจากนักลงทุนธุรกิจการเมือง
ณ บัดนี้ จะมีใครกล้าหาญทาบศักยภาพของ 'ค่ายแก๋งโฮะ' ซึ่งหวังกวาดเก้าอี้ในสภา 500 ให้ได้มากที่สุด จะเหลือไว้ให้ฝ่ายค้านเป็นสัญลักษณ์ประดับรัฐสภา เพื่อให้ได้ชื่อว่าบ้านนี้ เมืองนี้ ยังมีซากประชาธิปไตยให้เห็น
แรงกระตุ้นจากนกกระดาษกว่า 100 ล้านตัว หนุนด้วยคลื่นยักษ์สึนามิ ส่งผลให้สภาวะ 'ขาลง' ของบรรดาหมู่เฮาชาวแก๋งโฮะ สิ้นสุดลงอย่างเด็ดขาด กลายเป็นขาขึ้นรอบใหม่ ฟื้นฟูความนิยมด้วยความเร็วกว่าคลื่นด้วยซ้ำ
ทำให้อภิมหาผู้นำได้เดินยืดรอบใหม่ หน้าตาผ่องใส ใหญ่กว่าเดิม ถึงขนาดไม่ยอมรับเงินช่วยเหลือเหยื่อคลื่นยักษ์สึนามิจากประชาคมโลก
4 ปีซ่อม 4 ปีสร้าง 4 ปีกร่างกว่าเดิม! นั่นมันแน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง!
คลื่นใต้น้ำจากวังน้ำเย็น ไม่ได้สร้างความกระเพื่อมต่อ 'ค่ายแก๋งโฮะ' แม้แต่น้อย ถ้าจะมีอะไรเคลื่อนไหว ก็เป็นเพียงลูกกระเดือกวิ่งขึ้นวิ่งลงของ 'ป๋าเหนาะ' เพราะต้องกลืนน้ำลายเหนียวปนเลือดหลายรอบซ้ำซากเท่านั้น
จนมีความเชื่อกันในกลุ่มวังน้ำเย็น ว่าทักษะในการกลืนเลือดนั้น จะหาใครเก่งเกินหน้า 'ป๋าเหนาะ' ยุคนนี้ รับรองไม่มี
'ค่ายแก๋งโฮะ' จึงผงาด แม้จะยังไม่ถึงคืนหมาหอน ก็ได้มีการเลือกตัวเสนาบดีสำหรับทำงานสมัยที่ 2 กันแล้ว
ชนะแน่ เชื่อขนมแป๊ะกินก่อนได้เลย 'ค่ายแก๋งโฮะ' เป็นเจ้าของวันมามากแน่ๆ เพียงแต่จะมาก หรือน้อยกว่า 400 เสียงเท่านั้น
ยิ่งมีการประชุมเสนาบดีสัญจรในเชียงราย เสนาบดีได้รับคำสั่งให้ไปนอนบ้านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สำรวจก้นครัว ศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านอย่างใกล้ชิดด้วยแล้ว อะไรจะมาต้านพลังของ 'ค่ายแก๋งโฮะ'
'ค่ายสะตอ' เรอะ? โดนถล่มด้วยคลื่นน้ำลายหลายระลอกจนหายใจหายคอแทบไม่ทัน ความสามารถในการตามเกมการเมืองผสมการตลาดเหมือนกับเต่าวิ่งไล่รถสปอร์ตของเสี่ยโอ๊กอ๊าก สร้างความรู้สึกน่าสมเพชเวทนาให้แฟนๆ และผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง
โดนปิดกั้นทั้งสื่อภาพและเสียง ไปฟ้องร้องแรกแหกกระเชอกับใครก็ไม่ได้ สภาวะเช่นนี้ 'ค่ายสะตอ' มีสิทธิถูกทิ้งให้ฝ่อตาย เว้นแต่จะมีปาฏิหาริย์ช่วยเท่านั้น
แม้กระทั่ง 'ค่ายสัจจะนิยมพกเช็ค' ของ 'ป๋าเติ้ง' ที่ท่องจำความดีงามของสัจจะนิยมชูเป็นจุดขาย 3 เวลาหลังอาหารก็ตาม เดี๋ยวนี้ 'ป๋าเติ้ง' มีความสามารถในการกลืนเลือดไม่แพ้ 'ป๋าเหนาะ' แม้จะอยู่ต่างค่าย แต่ก็ตกอยู่ในชะตากรรมคล้ายกัน
'ค่ายมหาชน' นั้นเล่า พยายามเข้าวิ่งชนขอวัดดวง หวังล้มโต๊ะ 'ค่ายแก๋งโฮะ' หลายครั้ง แต่ก็ยังถูกเมินว่าไร้ราคา ไม่อยู่ในสายตา
พวกที่เหลือ 30 กว่าพรรคนั้น ถือว่าเป็นไม้ประดับ เอาไว้เปลืองเงินเลือกตั้งและเสียเวลาเจ้าหน้าที่จัดทำเอกสาร บัตรเลือกตั้งเถอะ
แต่ทั้งหมดนี้ก็ใช่ว่าจะเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับการใช้สิทธิของชาวบ้าน และจิตสำนึกว่าถ้ามองกันในระยะยาว ใครสมควรได้รับความไว้วางใจให้บริหารประเทศ
ถ้าตัดสินด้วยความรู้สึกฉาบฉวย หรือกระแส ก็ไม่ต้องคิดมาก แต่ถ้าเหลียวหลังแลหน้า ดูว่าใครสร้างความบรรลัยให้โครงสร้างการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ศีลธรรม ความรู้สึกสำนึกถึงความถูกต้องดีงาม สุมหัวกันโกงกินไม่บันยะบันยัง ระดับชูชกเรียกพี่ มันก็ต้องใช้เวลา 2-3 นาทีในคูหาเลือกตั้งก่อนกาเบอร์
แต่ถ้ามองไม่เห็นความเลวร้าย จมอยู่ในความงมงาย โดนมอมเมาจากหวยบนดินและเอสเอ็มเอส แล้วละก้อ ให้เขาไปเถอะ 400+1 เอาไปให้พอ เมื่อเขากล้าใช้วิธีการทุกรูปแบบเพื่อสานต่ออำนาจครองเมือง
ปลงเสียเถิดว่าบ้านนี้ เมืองนี้ ยังมีเคราะห์อีกนาน ชาวบ้านต้องได้รับบทเรียนเจ็บๆ อีกรอบถึงจะรู้สึก
หรือจะเอามากกว่านั้น เหลือฝ่ายค้านไว้พรรคละคนก็ได้นิ! อิอิอิ!!!
: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง
วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553
ให้เขาไปเถอะ 400+1
เขียนโดย
Thai Writer
ที่
01:17

ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปยัง Xแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest