บทความโดย โสภณ องค์การณ์
'ธรรม' ในการเมือง
ผู้บริหารบ้านนี้ เมืองนี้ ประกาศก่อนสิ้นปีว่า 2548 จะเน้นการสร้างคุณธรรม ศีลธรรม และจริยธรรม จากนั้นก็ให้เห็นผลว่าธรรมทั้ง 3 ประการนี้อยู่ในสภาวะเสื่อม บกพร่อง ฯลฯ
ก็น่าจะเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะช่วง 4 ปีที่ผ่านมานั้น โครงสร้างของการเมือง เศรษฐกิจ สังคม รวมทั้งค่านิยมหลายประการ ผุกร่อน ถูกบ่อนทำลายด้วยเหตุอย่างน้อย 2 อย่าง
นั่นก็คือ อำนาจ และ เงิน
ใครก็ตามที่มี 1 หรือทั้ง 2 อย่าง และใช้ไปในทางที่ผิดในสังคมใด ย่อมสร้างความเสียหายมหาศาล เพราะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความโลภ ทะเยอทะยาน ไม่สิ้นสุด
อำนาจ และเงินที่ถูกพลังแห่งความเลวร้ายครอบงำ จะนำไปสู่ความวิปริต และวิบัติ เพราะเกิดความเสื่อมด้านคุณธรรม ศีลธรรม และจริยธรรม
ใครขาดคุณสมบัติที่ว่านี้ จะมีสภาพเป็นทุรชน ไร้ยางอาย ขาดความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ทำความชั่วได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ ไม่รู้สึกว่าเป็นความผิด
ผู้ไร้ยางอาย ย่อมไม่คำนึงถึงคุณธรรม กล้าโกหกพกลม เอารัดเอาเปรียบ หากทำธุรกิจก็มุ่งเน้นแต่ความร่ำรวย ขูดรีดเพื่อนร่วมแผ่นดินได้อย่างไม่รู้สึกเมตตา เพราะมีพลังโลภเป็นแรงขับดัน
แผ่นดินไหนคนแบบนี้เป็นนักการเมือง อยู่ในอำนาจเป็นระยะเวลานาน จะเป็นสังคมเผด็จการ ใครคัดค้าน ไม่เห็นด้วย ก็จะถูกมองว่าเป็นศัตรูโดยผู้มีอำนาจซึ่งปราศจากคุณธรรม
แม้แต่กระบวนการยุติธรรมก็จะถูกอำนาจและเงิน บังคับหรือชี้นำให้บิดเบือนได้ หากสังคมนั้นมีโครงสร้างอ่อนไหว ยอมสยบง่ายๆ ต่อความชั่วร้าย
นักการเมืองเหลิงอำนาจ เหิมเกริม เห็นประชาชนเป็นเพียงลูกจ้าง หรือเป็นภาระที่ต้องดูแลด้านชีวิต ความเป็นอยู่ ทำอะไรก็จะอ้างบุญคุณอยู่เสมอ
สมัยนี้มีข้ออ้างง่ายๆ ว่า 'เก่งกาจ มีความสามารถ จนหาคนมาแทนไม่ได้' ขาดอยู่อย่างเดียวก็คือ ไม่ได้เอ่ยปากว่าตัวเองเหนือมนุษย์
หรืออาจคิดในใจ ปากยังไม่กล้าพูดเช่นนั้นก็ได้!
นักการเมืองหลงตัวเองจะมองเพื่อนเป็นเพียงสมุนคอยรับใช้ จัดการทุกอย่างให้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเลวทรามต่ำช้า
คนแบบนี้จะไม่มีเพื่อนแท้จริง เพราะความบ้าอำนาจจะทำให้ลดระดับเพื่อนให้เป็นเพียงสมุนรับใช้ ดังนั้น จะอยู่ในสภาพแวดล้อมของคน 2 ประเภท คือศัตรู และลูกน้องเชิงทาสอำนาจ และทาสน้ำเงิน
หากหนักข้อขึ้น ก็จะตั้งเงื่อนไขว่า 'ต้องยืนอยู่ข้างเดียวกับข้า ไม่อย่างนั้นก็เป็นศัตรูกับข้า' แม้จะเป็นกลางก็ไม่ได้ ต้องเลือกข้างให้ชัดเจน ถ้าใครคิดจะแทงกั๊ก ก็จะยิ่งซวยหนัก!
พวกแทงกั๊กถือว่าไม่จริงใจ เหยียบเรือ 2 แคม พร้อมจะช่วยเหยียบข้างใดที่ออกอาการว่าใกล้จะเสียท่าหรือพ่ายแพ้
สังคมที่ผู้คนยอมสยบต่ออำนาจที่ไร้คุณธรรม ไม่กล้ามีปากเสียง ย่อมเป็นสภาพน่าอเนจอนาถยิ่งกว่าหมูในอวย เพราะหมูยังร้อง ดิ้นสุดขีด เวลาโดนจับเตรียมเข้าโรงเชือด
สังคมใดที่มัวแต่เกี่ยงกันว่า 'เอ็งเริ่มก่อนสิ' ก็ต้องทนก้มหัวให้กับทุรชนคนทราม ที่ใช้เล่ห์เพทุบายทุกอย่าง ไม่เลือกวิธีว่าจะดีหรือต่ำช้าอย่างไร เพื่อให้สำเร็จวัตถุประสงค์ที่ต้องการ
การซ่อมหรือสร้างคุณธรรม ศีลธรรม และจริยธรรมของผู้คนในบ้านเมืองนี้จะสำเร็จได้ก็ด้วยน้ำมือของคนที่มีจิตใจสะอาด มีความยุติธรรมและยางอายเท่านั้น
ทำตัวเป็นโจรปล้นทรัพย์สินชาวบ้าน แต่นั่งฟังพระสงฆ์สวด 3 เวลาหลังอาหาร รดน้ำมนต์ 7 วัด ก็ไม่น่าศรัทธา หรือฟอกตัวให้เป็นคนบริสุทธิ์ได้
เจ้าของเงินบาป ใช้อำนาจกระทำบาป ย่อมไร้ความสงบในจิตใจ เพราะจะเร่าร้อน ทุรนทุราย ใฝ่หาอำนาจและเงินไม่สิ้นสุด เพราะความละโมบ โลภ
ธรรมทั้ง 3 ประการนั้น จู่ๆ จะมาอ้างว่ามีไม่ได้ หากไม่เคยได้รับการปลูกฝังในสำนึกและจิตใจมาก่อน ใครโกงกิน ปล้นทรัพย์สินชาวบ้านไปวันนี้ จะมาอ้างว่าพรุ่งนี้จะดำรงคุณธรรม ถือศีลกินเพล ย่อมเป็นไปไม่ได้
เว้นแต่ใครจะยกเป็นข้ออ้าง สร้างภาพให้พวกชาวบ้าน คนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เล่ห์กล เชื่อถืออย่างงมงาย เพราะความเห็นแก่ได้ในผลประโยชน์เล็กน้อย
จะทึกทักว่าหวยใต้ดินเป็นอบายมุข พอใช้กฎหมายแปลงสภาพเป็นหวยบนดินก็สิ้นความเป็นอบายมุข เช่นนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการให้เหตุผลตามวิธี 'ศรีธนญชัยศาสตร์'
สังคมวันนี้มีคนแสดงออกให้เห็นความเมตตา ใช้มือซ้ายยื่นเศษเงินให้ชาวบ้าน แต่ใช้มือขวารอล้วงกระเป๋าเอาเงินคืน แล้วยังหากำไรอีกด้วย
แบบนี้เป็นนักบุญ เงินบาป หรือว่าคนบาป เงินบุญ กันแน่นิ? อิอิอิ!!!
: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง
วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553
'ธรรม' ในการเมือง
เขียนโดย
Thai Writer
ที่
01:16

ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปยัง Xแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest