: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง

วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2553

หักเหลี่ยมมาเฟีย บ่อนข้าใครอย่าแตะ!

จากนิตยสารเนชั่นสุดสัปดาห์

หักเหลี่ยมมาเฟีย บ่อนข้าใครอย่าแตะ!

ทำไปทำมาข่าวขบวนการโกงเป็นทีม โดยเครื่องมือสุดยอดไฮเทคของ 9 นักพนันชาวไทย ซึ่งถูกจับได้ในบ่อนกาสิโน 'สตาร์เวกัส' อ.โอวโจวโรว จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ก็มีอะไรที่สลับซับซ้อนมากกว่าตัวนักพนันที่มีนามสกุลดัง และพ้องกับนักการเมืองบางคนเสียอีก

ล่าสุดมีรายงานข่าวแจ้งว่า บริเวณบ่อนกาสิโนต่างๆ ในฝั่งปอยเปต ทั้ง 9 แห่ง ประกอบด้วย ฮอลิเดย์พาเลซ, ฮอลิเดย์ปอยเปต, โกลเด้นคราวน์, ปริ้นเซสคราวน์, แกรนด์ไดม่อนซิตี้, โฮวาเกนติ้ง, ทร็อปปิคคาน่า, จีคลับปอยเปต รีสอร์ท และสตาร์เวกัส

มีการนำภาพ 'ตี๋ เชียงใหม่' หรือ พงศ์พล ศักดิ์ถาวร อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 263 ถ.มูลเมือง ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มาแจกจ่าย โดยระบุว่าเป็นภาพของหัวหน้าแก๊งโกงเงินบ่อนสตาร์เวกัส โดยเจ้าของบ่อนตั้งค่าหัวไว้ 10 ล้านบาท

ตี๋ เชียงใหม่ เป็นใคร? ทำไมจึงมีการตั้งค่าหัวสูงมากมายขนาดนั้น?

เป็นที่น่าสังเกตว่าในเบื้องต้นข่าวคราวที่ข้ามมาจากฝั่งปอยเปต คือการจับกุมคนไทย 9 คนที่เล่นพนันโกงเงินจากบ่อน 90 ล้านบาท ประกอบด้วย สมทรง วงศ์สวัสดิ์ ผู้มีนามสกุลเดียวกับ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์, ช่อแก้ว วิสุทธิ์เสรีวงศ์ อายุ 61 ปี มีศักดิ์เป็นหลานเจ้ากอแก้ว ประกายกาวิล ณ เชียงใหม่, ธนะชัย ฉายแสง อายุ 20 ปี ผู้มีนามสกุลเดียวกันกับ จาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรี

รวมไปถึง วีรวรรณ ไชยศักดิ์เดช, กาญจนา จักรษุตน, สุวรรณา สันติภาพ อาย จำรัส บัวเกตุธรรม, พงษ์เทพ บุญโสภา และบุญเกื้อ เตชอภิชาติ

ส่วนอีก 3 คนที่หลบหนีเข้าประเทศไทยพร้อมเงินที่โกงได้นั้น ทราบชื่อเพียงคนเดียวและยังถูกระบุว่าเป็นหัวหน้าแก๊ง คือ พงษ์พล ศักดิ์ถาวร

ต่อมาเจ้าหน้าที่ระดับบริหารของบ่อนกาสิโน ได้เปิดแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดและขั้นตอนการโกงการพนันบักคาร่าว่า เริ่มจากการใช้ชิพแลกเงินราคา 1 แสนบาท ที่มีลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมบางๆ ไปติดแผ่นไมโครชิพ เพื่อใช้อ่านข้อมูลจากไพ่ทั้งหมด

จากนั้นหนึ่งในแก๊งจะนำชิพแลกเงินดังกล่าวติดตัวไปเล่นการพนันบนโต๊ะ แต่ก่อนเล่นจะใช้ชิพราคา 1 แสนบาทแผ่นนั้น ไปเคาะบนกองไพ่ที่รอการตัดอยู่ 3 ครั้ง เพื่อให้แผ่นไมโครชิพอ่านข้อมูลจากไพ่ทั้งหมด โดยขณะเคาะจะทำทีพูดว่า "ขอให้เฮงๆๆๆ"

หลังจากเก็บข้อมูลของไพ่ได้ทั้งหมดแล้ว ก็จะนำชิพแลกเงินที่มีไมโครชิพติดอยู่ ไปเก็บไว้ในอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่ดัดแปลงมาจากสมุดไดอารี่ แล้วคอยดูจังหวะให้พรรคพวกร่วมแก๊งนำขึ้นไปให้พรรคพวกอีกทีมหนึ่งในห้องพักภายในโรงแรม ที่ตั้งเป็นศูนย์บัญชาการรับส่งข้อมูล

จากนั้นจึงใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ดึงข้อมูลไพ่ทั้งหมดจากสมุดไดอารี่ที่บรรจุแผ่นไมโครชิพ ก่อนให้ทีมงานอีกชุดหนึ่ง เรียงไพ่ตามที่ได้เก็บข้อมูลมาจากบนโต๊ะบักคาร่าดังกล่าว แล้วแจกไพ่เหมือนกับการแจกไพ่บนโต๊ะการพนันภายในบ่อนทุกประการ จึงสามารถบอกได้ว่ารอบการแทงแต่ละรอบไพ่จะออกมาอย่างไร แล้วจึงส่งซิกผ่านสัญญาณโทรศัพท์มือถือไปยังนักพนันที่เล่นอยู่ที่โต๊ะ

กลโกงดังกล่าวนี้ ไม่เคยมีปรากฏในภาพยนตร์เรื่องใดมาก่อน แต่ทางบ่อนก็ส่งภาพจากทีวีวงจรปิดแจกนักข่าวทีวีไทยทุกช่อง

สำหรับกาสิโน 'สตาร์เวกัส' นั้น มีนักธุรกิจพนันชื่อดัง 'ตือ คอสโม' เป็นเจ้าของ ซึ่งตัวเสี่ยตือเองเคยถูกออกหมายจับในคดีบ่อนลอยน้ำ 'โอลิเวีย' เมื่อประมาณปี 2547

ฉะนั้น มหกรรมการโกงพนันครั้งมโหฬาร จึงไม่ธรรมดา น่าจะมีปมความขัดแย้งในกลุ่มนักพนันชาวไทยซ่อนลึกอยู่

ดังคำบอกเล่าของเซียนพนันวัย 54 ปีคนหนึ่ง ที่ตระเวนเล่นพนันตามบ่อนกาสิโนใหญ่ๆ ทั่วโลก เปิดเผยว่า 'ตี๋ เชียงใหม่' เป็นเซียนพนันมือเติบ วางชิพแทงครั้งละหลายแสนบาท จนเจ้ามือบ่อนในเมืองไทยต่างเริ่มพากันขยาดในความใจถึง

ประมาณ 2 ปีที่แล้ว ตี๋มีโอกาสได้รู้จักกับ 'นาย ต.' หุ้นส่วนใหญ่เรือสำราญลำหนึ่ง และหุ้นส่วนใหญ่คนนี้แนะนำให้รู้จักกับ 'นาย ก.' ผู้กว้างขวางอีกคนในฐานะหุ้นส่วนบ่อนกาสิโนในปอยเปต ซึ่งมีความสนิทสนมกับราชวงศ์ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกัมพูชา

ทั้งสองเริ่มเจรจากับ 'ตี๋ เชียงใหม่' ถึงธุรกิจใหม่ที่พวกเขาวางโครงร่างไว้แล้ว ยังขาดเพียงลูกมือเท่านั้น ธุรกิจที่ว่าคือการตระเวนเล่นการพนันตามบ่อนชายแดนต่างๆ รวมไปถึงบ่อนกาสิโนในฝั่งปอยเปต ยกเว้นบ่อนของหุ้นส่วนผู้กว้างขวางทั้งสองแห่ง จากนั้นรายได้ทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน 2 ส่วนแรกผู้กว้างขวางทั้งสองคนจะได้รับไป 40% แบ่งที่เหลืออีก 20% ให้กับ 'ตี๋ เชียงใหม่' กับพรรคพวก

ว่ากันว่า หลังการเจรจาครั้งนั้น 'ตี๋ เชียงใหม่' กับเพื่อนที่สนิทสนมในวงการเกือบ 10 คน ได้ตระเวนไปเล่นพนันทุกบ่อนในปอยเปตและเกาะกงทั้งหมด ไม่เว้นกระทั่งบ่อนสามเหลี่ยมทองคำฝั่งพม่า ด้วยกลโกงชั้นเซียนจึงได้เงินมาเบ็ดเสร็จก็มากกว่า 2,000 ล้านบาท

เรื่องน่าจะจบลงด้วยดีหากทั้งสามฝ่ายมีการทำตามข้อตกลง แต่แล้วจะด้วยอะไรก็แล้วแต่ ทำให้หุ้นส่วนบ่อนกาสิโนปอยเปตกับหุ้นส่วนบ่อนกาสิโนลอยน้ำ กลับไม่ยินยอมจ่ายเงินส่วนแบ่งให้

จากสัญญาว่าจะให้ 20% ของรายได้ทั้งหมด กลับสัญญาว่าจะให้ 10% สร้างความไม่พอใจให้กับนักพนันกลุ่มเชียงใหม่อย่างมาก จากความไม่พอใจกลายเป็นความบาดหมาง ระหว่างนี้นาย ต.กับนาย ก. หวาดระแวงว่าหากข่าวการโกงพนันแพร่กระจายไปเข้าหูเจ้าของบ่อนต่างๆ อาจจะทำให้เสียชื่อ จึงเริ่มหาทางกำจัด

ระหว่างที่หาวิธีกำจัด 'กลุ่มเชียงใหม่' ได้ฉวยจังหวะนี้เข้ากอบโกยเงินจากบ่อนกาสิโนที่นาย ก. มีหุ้นส่วนอยู่ ด้วยการส่งนักพนันหน้าใหม่เข้าไปใช้กลเม็ดกลโกงที่ได้รับการพร่ำสอนและตกลงกันมาแล้วอย่างน้อย 3 ครั้ง ดูดเงินจากบ่อนไปได้กว่า 90 ล้านบาท กระทั่งพนักงานบ่อนเกิดความสงสัยดำเนินการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนจนพบความผิดปกติ เมื่อ นาย ก. และนาย ต. รู้เรื่องถึงกับตะลึงแทบทำอะไรไม่ถูก เมื่อต้องมาถูกลบเหลี่ยมกันซึ่งๆ หน้า

ก่อนที่จะได้รับความเสียหายจากกลุ่มเชียงใหม่มากกว่านี้ หุ้นส่วนใหญ่บ่อนกาสิโนทั้งสองคน ตกลงใจใช้ไม้เด็ดจัดการจับกุมแก๊งเชียงใหม่ ดังที่เป็นข่าวในเวลานี้

มีข้อมูลจาก สภ.ต.คลองลึก ที่น่าสนใจคือ สถิติคนไทยถูกบ่อนจับตัวและคนหายในบ่อนฝั่งปอยเปต มีทั้งหมด 5 ราย ในช่วงปีที่ผ่านมา

21 มีนาคม 2547 มนต์ชะตา แป้นแก้ว อายุ 32 ปี ถูกบ่อนกาสิโนแกรนด์ไดม่อน จับตัวไว้โดยกล่าวหาว่าร่วมกับสามี ชื่อ นายชอง พลง ซก ชาวเกาหลี โกงเงินกว่า 50 ล้านบาท

15 กันยายน 2547 นิตยา เจริญผล อายุ 38 ปี ถูกบ่อนโฮวาเกนติ้ง จับกุมตัวข้อหาโกงเงินบ่อน 50,000 บาท

11 พฤศจิกายน 2547 บ่อนสตาร์เวกัส จับกุมตัวเสถียร อุตราภิรมย์สุข หรือตี๋ เต็นท์รถ ข้อหาโกงบ่อน 4 ล้านบาท และญาตินำเงินมาไถ่ตัวไป 1 ล้านบาท

3 ธันวาคม 2547 ดิศกุลย์ หนุนภักดี, วิรัตน์ พงษ์ศิริภัทร, ชุนหลี แซ่ลิ้ม, ปรัชญา กอุพาณิชานนท์ ได้หายตัวไปในบ่อนฝั่งปอยเปต

ไม่ว่าข่าวคดีจับกุมนักพนันคนไทยจะครึกโครมอย่างไร แต่นักแสวงโชคที่ได้กลิ่นเงินกาสิโนลอยข้ามคลองลึก ก็ยังเดินทางเข้าไปเล่นพนันกันเป็นปกติ เพียงแต่ช่วงนี้อาจจะเลี่ยงไม่ไปเสี่ยงดวงที่บ่อนสตาร์เวกัส เท่านั้นเอง