แม่ไม้การเมือง / ไพศาล สังโวลี
'ปชป.' แนวรากหญ้า
ขณะที่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร '2/1' กำลังอยู่ในช่วงหวานมันฉันและเธอ อยู่นี้
ทางด้านพรรคประชาธิปัตย์ ก็คึกคักไม่เบา
คึกคักถึงขนาดว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรต่อมิอะไรตามมาหลายอย่าง เพื่อให้ทันสมัยตรงตามความต้องการของผู้คนมากขึ้น
ส่วนที่ว่าจะปรับโลโก้พรรคด้วยนั้น 'หัวหน้ามาร์ค' อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมาอธิบายทำความเข้าใจแล้วว่าเป็นความเข้าใจผิด
แต่ก็นับว่าคึกคักได้อารมณ์ดี ไม่แพ้ซีกรัฐบาล
ที่น่าสนใจ นอกจากจะเร่งให้สาขาพรรค เป็นกลไกที่โดดเด่นในการเป็นตัวแทนของพรรคในพื้นที่ ทั้งในด้านบริการ และให้ความรู้ความเข้าใจทางการเมือง แล้ว
ยังมีความคืบหน้าในการจัดตั้งสมัชชาพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากตัวแทนของกลุ่มคนที่หลากหลายกว่า 2,000 คน ด้วย โดย 'อภิสิทธิ์' เผยว่า จะทำใน 2 ขั้นตอน คือ ภายใต้ข้อบังคับพรรคที่มีอยู่แล้ว และหากจำเป็นก็อาจแก้ไขข้อบังคับพรรค ซึ่ง 'นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ' ส.ส.เขต 2 พัทลุง กรรมการบริหารพรรค จะเป็นประธานยกร่างข้อบังคับที่จำเป็นต้องแก้ไข เชื่อว่าจะเห็นเป็นรูปธรรมได้ภายใน 6 เดือน
เห็นพรรคประชาธิปัตย์ มีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง แฟนพันธุ์แท้ ก็คงรู้สึกปลอดภัยหายห่วงเสียที
ขณะเดียวกัน ก็เริ่มมีเสียงขานรับกับแนวทางที่กำลังก้าวเข้าหาภาคประชาชนมากขึ้น
เห็นได้จากข้อเสนอ อาจารย์ นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการ จากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ในการปาฐกถา เรื่อง 'ความจำเป็นของกระบวนการภาคประชาชนในการตรวจสอบรัฐบาล' ที่กลุ่มสมัชชาคนจน เปิดเวทีที่บริเวณหน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 15 มีนาคม
โดยอาจารย์นิธิ ชี้ให้เห็นว่า สังคมไทยปัจจุบัน ชนชั้นนำเชื่อว่า อำนาจรัฐไม่ควรถูกจำกัด การคัดค้านโครงการที่คิดโดยรัฐ ของประชาชน อาทิ การต่อต้านเขื่อน, เหมืองแร่โปแตช ที่ จ.อุดรธานี, การคัดค้านโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย ถูกมองว่า เป็นเรื่องผิดปกติ ต่อต้านอำนาจรัฐ ทั้งที่รัฐธรรมนูญระบุว่าสามารถทำได้ ดังนั้น การตรวจสอบรัฐบาลโดยใช้รัฐธรรมนูญ จึงเป็นเรื่องยากสำหรับประชาชน และการเคลื่อนไหวของประชาชนถูกมองว่า วุ่นวายขัดขวางการพัฒนา
ขณะที่นักธุรกิจก็ไม่ตรวจสอบรัฐบาลร่วมกับประชาชน เพราะถือว่า เป็นนายทุน ที่คอยควบคุมรัฐอยู่แล้ว ส่วนองค์กรอิสระก็ถูกแทรกแซง รวมทั้งวุฒิสภาด้วย รัฐบาลก็มีเสียงเด็ดขาด ฝ่ายค้านก็เป็นนักการเมืองพันธุ์เดียวกับรัฐบาล ไม่สนใจประชาชน เล่นการเมืองกับชนชั้นนำในสังคม คนที่มีเงินทุนจ่ายให้พรรค เล่นการเมืองภาคประชาชนไม่เป็น และที่ผ่านมาไม่เคยทำอะไรเมื่อเกิดปัญหากับประชาชน
"พรรคไทยรักไทย เป็นพรรคแรกที่พยายามเล่นการเมืองกับประชาชน ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ได้รับชัยชนะท่วมท้น ซึ่งเราไม่รู้ว่าฝ่ายค้านที่มีเสียงน้อยมาก จะปรับตัวได้แค่ไหน ฝ่ายค้านต้องเล่นการเมืองกับประชาชน เอาประเด็นประชาชนมาผลักดัน ซึ่งทำนายไม่ถูกว่า ฝ่ายค้านมีกึ๋นที่จะเล่นการเมืองกับประชาชนหรือเปล่า และช่วงนี้ต้องคิดถึงบทบาทนอกสภามากกว่า"
แล้วดูเหมือน 'อภิสิทธิ์' จะรับช่องสัญญาณของอาจารย์นิธิได้อย่างแจ๋ว จึงรีบเดินทางไปร่วมรับฟังปัญหา และอาสาทำงานร่วมกับภาคประชาชน ทันที
ทั้งบรรยากาศของการพบปะกันระหว่างหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านกับสมัชชาคนจนก็เป็นไปอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ผิดกับอดีตหน้ามือเป็นหลังมือ ถ้ายังจำกันได้ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์นี่เอง เคยปล่อยให้ 'หมากัดคนจน' ที่ทำเนียบรัฐบาล
แสดงว่า 'แรงยุ' ของอาจารย์นิธิได้ผล และมีพลังอย่างเหลือเชื่อ
เหลือเชื่อว่า 'ประชาธิปัตย์' ก็ 'แนวรากหญ้า' กับเขาเป็นเหมือนกัน
ที่อาจารย์นิธิ ปรามาสกึ๋นฝ่ายค้านเอาไว้น่ะ เป็นอดีตไปแล้ว..จารย์!?
: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง
วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553
'ปชป.' แนวรากหญ้า
เขียนโดย
Thai Writer
ที่
01:15

ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปยัง Xแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest