: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง

วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ทำไมต้องเป็น 'โภคิน'

แม่ไม้การเมือง / ไพศาล สังโวลี

ทำไมต้องเป็น 'โภคิน'
หลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สมัยนี้ สิ่งที่สังเกตได้ว่าแตกต่างจากสมัยที่แล้ว คือการให้ความสำคัญอย่างสูงกับการ 'วางตัว' ประธานสภาผู้แทนราษฎร

มองอย่างปกติวิสัย อาจด้วยรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน กำหนดให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานรัฐสภา (รวมทั้งสองสภา คือสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา) ด้วย ทำให้ความพิถีพิถันในการเลือก 'บุคคล' ขึ้นดำรงตำแหน่ง มีความจำเป็นอย่างยิ่ง

แต่ก็อีกนั่นแหละ รัฐธรรมนูญฉบับนี้บังคับใช้มาตั้งแต่การเลือกตั้ง ส.ส.สมัยที่แล้ว แต่ก็ไม่เห็นจะเป็นประเด็นสำคัญเท่ากับที่เป็นอยู่ในเวลานี้

หรืออาจเห็นว่า 'อุทัย พิมพ์ใจชน' คนที่ถูก 'วางตัว' แบบไร้คู่แข่ง มีความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวงอยู่แล้ว จึงไม่มีความเป็นห่วงเป็นใยในเรื่องนี้มากนัก

ก็ยังนับว่าน่าวิเคราะห์อยู่ไม่น้อย

น่าวิเคราะห์นับแต่ บทบาทในฐานะประธานสภาผู้แทนฯ และประธานรัฐสภาของ 'อุทัย' มีอะไรเป็นบทเรียนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นำมาสู่การให้ความสำคัญพิถีพิถันมากขึ้นหรือไม่

รวมถึงประมุขฝ่ายนิติบัญญัติคนใหม่ ทำไมต้องชื่อ 'โภคิน พลกุล' รักษาการ รมว.มหาดไทย?

ทั้งที่ ส.ส.ไทยรักไทยอย่างน้อย 2-3 มุ้ง ลุ้นให้ 'สุชาติ ตันเจริญ' อดีตรองประธานสภาผู้แทนฯ สมัยที่แล้ว และว่าที่ ส.ส.เขต 3 ฉะเชิงเทรา เพราะนอกจากเป็นหัวหน้ามุ้งแล้ว ยังเป็น ส.ส.เขตด้วย จึงไม่มีทางขยับขยายตำแหน่งทางการเมืองไปได้ไกลกว่านี้อีกแล้ว

ไม่เท่านั้น ยังมี พงศ์เทพ เทพกาญจนา รักษาการ รมว.ยุติธรรม อีกคน ที่เป็นแคนดิเดตมาตั้งแต่ต้น

จนทำให้ ส.ส.ไทยรักไทย ปลุกกระแสเลือกข้างกันยกใหญ่

ก่อนที่จะอ่อนพลังแรงลงไปเอง เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมายืนยันว่า มีตัวเลือกอยู่ในใจเรียบร้อย

พูดถึงการเป็นประธานสภาผู้แทนฯ และประธานรัฐสภาของ 'อุทัย' เห็นได้ชัดว่า มีความเป็นตัวของตัวเองสูงทีเดียว อาจด้วยพรรษาในการปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาผู้แทนฯ มายาวนาน ความเป็นผู้ใหญ่ในแวดวงการเมือง และเป็นรู้จักมักคุ้นของนักการเมืองกว่าครึ่งค่อนสภา

จึงยากที่จะทำอะไรให้เอื้อประโยชน์กับ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลอย่างมากตามที่ต้องการได้

ความจริง ดูเหมือนว่า 'อุทัย' ก็อึดอัดใจอยู่ไม่น้อย เพราะไม่สามารถให้ความเป็นกลางกับทุกฝ่ายได้ตามหน้าที่ที่ควรจะเป็น

แน่นอน, ย่อมต่างจากคนที่ 'แม่นข้อกฎหมาย' และมอบกายถวายใจให้ นายกฯ ทักษิณไปแล้ว อย่างที่เป็นแคนดิเดตอยู่ในเวลานี้

อยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะหยิบยกเอาใครก็นับว่าใช้ได้เหมือนกัน

เว้นเสียแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการอะไรที่มากกว่านั้น

อะไรที่ว่า อาจเป็นข้อได้เปรียบของ 'โภคิน' นั่นคือ ความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่ประนีประนอมกับใคร

โดยเฉพาะเมื่อต้องมาเจอกับลูกล่อลูกชนของฝ่ายค้าน 'มืออาชีพ' อย่างประชาธิปัตย์ ที่นายกฯ ทักษิณอาจเชื่อว่า ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จะต้องหาช่องเล่นงานรัฐบาลในสภาให้ได้ แม้ว่าที่นั่ง ส.ส.จะไม่ถึง 125 เสียง ทำให้ไม่สามารถอภิปรายรัฐมนตรีในข้อหาทุจริตได้ตามรัฐธรรมนูญกำหนด ก็ตาม

การกำหนดตัวประธานสภาผู้แทนฯ ได้ ก็เท่ากับกำหนดเกมของฝ่ายนิติบัญญัติได้ในระดับหนึ่งเช่นกัน!

ทั้งยังสะดวกใจ และอุ่นใจได้ หากจะตั้ง 'หัวหน้ามุ้ง' บางคนที่สังคม 'ยี้' และมีภาพลักษณ์ 'สีเทา' เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล 'ทักษิณ 2/1' ด้วย

เห็นหรือยัง ทำไมต้อง 'โภคิน'!?