: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง

วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ใครใหญ่กว่าใคร?

บทความโดย โสภณ องค์การณ์

ใครใหญ่กว่าใคร?
อื้อฮือ...หลงเข้าใจผิดมาตั้งนาน นึกว่าท่านผู้นำนั้นเป็นผู้ยิ่งใหญ่ มีอำนาจมากที่สุดในแผ่นดินซะอีก โดยเฉพาะเบื้องหน้า เบื้องหลังของความพยายามเสริมอำนาจให้มากล้นยิ่งขึ้นไปอีก

ก็เรื่องร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับที่คนพูดกันทั้งบ้านทั้งเมือง เพื่อให้ท่านผู้นำประชุมคณะรัฐมนตรีไม่กี่คนก็ได้ หากมีภาวะฉุกเฉิน และให้ถือว่าเป็นมติของคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ นั่นแหละ!

โดยแปลงสภาพของ 'รัฐบาลพรรคเดียว' ให้เป็น 'รัฐบาลคนเดียว' ในทางปฏิบัติสมบูรณ์แบบบูรณาการ เพื่อจะได้ตัดสินใจทำอะไรฉับไว ทันอกทันใจ ไม่ต้องรอให้ ครม. มานั่งกันหน้าสลอน

ที่ผ่านมา ก็ไม่ค่อยจะเห็นรัฐมนตรีคนไหนได้แสดงความคิดเห็นกันอย่างอิสรเสรีเหนือสิ่งอื่นใดอยู่แล้ว เห็นนั่งฟังกันเงียบสงัดเป็นมนุษย์ไม้ประดับ ปล่อยให้คนนั่งหัวโต๊ะจ้อเดี่ยว มีทั้งการสั่งสอน แนะนำ ยำเล็ก ยำใหญ่

ทำเอาพวกเสนาบดีมีผลงานน้อยเกือบหยุดหายใจโดยไม่รู้ตัว!

ตอนแรกชาวบ้านที่คัดค้านแนวโน้มของการรวบอำนาจก็นึกว่าท่านผู้นำแอบสั่งให้บรรดา 'เนติบริกร' ทั้งหลายไประดมพลังสมอง ทั้งนำร่อง เล่นร่อง ตามร่อง หาช่องหารูโหว่เหมาะๆ สำหรับการเพิ่มพลังอำนาจซะอีก

ที่ไหนได้! เลขาธิการคณะรัฐมนตรี 'นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ' ยืดยกอรชร ประกาศชัดเจนว่า การยกร่าง พ.ร.ฎ. ฉบับนั้นมาจากความคิดของตัวเอง ไม่ได้หมกเม็ด หรือได้รับใบสั่งจากใครทั้งสิ้น

ก็หมายความว่าท่านผู้นำไม่ได้สั่งในเรื่องนี้แต่อย่างใด เป็นไอคิวอันกระฉูด คิดเอง ทำเอง ชงเอง เสนอเอง หากมีใครวิพากษ์วิจารณ์ นายบวรศักดิ์ก็จะแอ่นอกรับเองด้วย ว่างั้นเถอะ?

แถมนายบวรศักดิ์ ยังประกาศเพิ่มเติม เอาตำแหน่งตัวเองเป็นประกันว่าจะไม่ยอมให้ท่านผู้นำเรียกประชุม ครม. ฉุกเฉิน ใช้บทบัญญัติพร่ำเพรื่อ หากไม่มีภาวะจำเป็น หรือเรื่องคอขาดบาดตายจริงๆ

งั้นเชียวเรอะ? ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็ทำให้ประชาชนยิ่งงงหนักขึ้นไปอีก! ใครใหญ่กว่าใคร ระหว่างท่านผู้นำ กับเลขาธิการคณะรัฐมนตรี?

หมายความว่าแผนการทั้งหมดนี้นายบวรศักดิ์ทำไปทั้งๆ ที่รู้ดี หรือคาดการณ์ได้แน่นอน ว่าต้องมีเสียงคัดค้านกันในกลุ่มคนผู้เห็นแววเผด็จการ หรือหนวดฮิตเลอร์เริ่มงอกใต้จมูกท่านผู้นำ?

แล้วยังดันทุรังทำอีก! หรือนายบวรศักดิ์รู้อยู่แล้วว่าการชงร่าง พ.ร.ฎ. ฉบับปลูกหนวดให้ท่านผู้นำนั้น ต่อให้มีเสียงค้านจากประชาชนอย่างไร ก็ไม่มีเสียงด่าจากนายท่านเป็นอันขาด

ถ้าร่างกฎหมายปลูกหนวดฮิตเลอร์ใช้บังคับแล้วก็ยังจะมีบำเหน็จงามๆ ให้ ท่านคงลูบหลัง ตบไหล่ ในฐานะที่อุทิศตัวเป็นหนังหน้าไฟให้อีกด้วยซ้ำ!

คำรับประกันว่าเอาตำแหน่งเป็นเดิมพันของนายบวรศักดิ์ ว่าจะไม่ยอมให้ท่านผู้นำเรียกประชุม ครม. ฉุกเฉินตามใจตัวเองนั้น ถ้าจะมีใครเชื่อ ก็คงเป็นพวกเด็กปัญญาอ่อน สติหน่อมแน้ม หรือคนมองโลกในแง่ดีอย่างน่ากลัว

ใครก็รู้ว่าท่านผู้นำเป็นคนแต่งตั้งเลขาธิการ ไม่ใช่นายบวรศักดิ์แต่งตั้งผู้นำรัฐบาล และนายบวรศักดิ์จะอยู่ หรือจะไปจากตำแหน่ง ประเทศชาติก็ไม่ได้อะไร อ้อ! ถ้าอยู่ต่อไป แล้วมีพฤติกรรมแบบนี้ ไปเสียจะดีกว่ามั้ง?

ถ้าเกิดความเสียหาย หน้าไหนจะรับผิดชอบ?

ที่ชาวบ้านห่วงก็คือจะมีการประชุมฉุกเฉิน ออกพระราชกำหนดเพื่อกระทำการต่างๆ เช่นการขายสมบัติของแผ่นดิน รัฐวิสาหกิจชั้นนำคือการไฟฟ้า ประปา การสื่อสาร หรือรีบตั้งเขตเศรษฐกิจให้ต่างชาติมากอบโกยผลประโยชน์ หรือประชุมฉุกเฉินเพื่อจัดการพวกคัดค้านพฤติกรรมหรือนโยบายที่ไม่ชอบมาพากล หรือทำอะไรที่ไม่ฉุกเฉิน จำเป็นเร่งด่วน แต่เพื่อให้บรรลุผลประโยชน์ทับซ้อน ออกกฎหมายให้มีบูรณาโกง อย่างที่เห็นใน 4 ปีก่อนหน้านี้

นายบวรศักดิ์คงมั่นใจว่าจะอยู่ในตำแหน่ง ไม่ถูกปลด ถ้าทำอะไรให้ประชาชนเห็นว่านั่นเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ

ทำไมนายบวรศักดิ์ไม่ประกาศคัดค้านร่าง พ.ร.ฎ. ที่ว่านั้น หรือไม่ยอมให้มีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ จัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษดูบ้าง

บอกให้ชัดๆ ว่า 'ข้าไม่ใช่เนติบริกร' โว้ย!

หลังจากนั้นประชาชนจะดูว่านายบวรศักดิ์มีเวลากี่ชั่วโมงสำหรับเก็บของออกจากห้องที่ทำเนียบฯ!

ถ้ายังอยู่รอดปลอดภัย ได้ดิบได้ดี ก็จะขอซูฮกว่า 'นายแน่มาก' จริงๆ นิ! อิอิอิ!!!