บทความโดย โสภณ องค์การณ์
ขอเพียงผู้กล้า 251 เสียง!?
ขนาดยังไม่ได้ตั้งคณะผู้บริหารประเทศ ปัญหาต่างๆ ก็ทะลักเข้ามาท้าทายความสามารถกันแทบไม่เว้นแต่ละวัน ชัยชนะจากเสียง 19 ล้านคน ท่วมท้นจนคุยโอ่ไม่ยอมหยุดนั้น แท้ที่จริงแล้วช่วยอะไรไม่ได้
โดยเฉพาะเรื่องวิกฤติไฟไต้ ซึ่งกำลังลามต่อไปชนิดที่หาใครดับก็ไม่ได้!
ยิ่งใช้ประกาศนโยบายป้ายสีอย่างเอิกเกริก อย่างไม่ยอมเข้าใจยุทธวิธีของฝ่ายทหาร ก็ยิ่งทำให้ภารกิจในการแก้ปัญหายุ่งยาก ซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม
เกือบสายเกินไปแล้วที่จะไปขอรับฟังความเห็นจากฝ่ายอื่นๆ ในหลวงท่านทรงชี้แนะให้ใช้หลักเมตตาธรรม ความเข้าใจ ก็ไม่เห็นผู้มีอำนาจหน้าที่บริหารบ้านเมืองรับไปปฏิบัติ
พร่ำพูดอยู่นั่นแหละว่า "ผมมีข้อมูล มาถูกทางแล้ว คนอื่นไม่รู้ข้อมูล" พอหนักข้อเข้า ก็ออกทั้ง 'ไอ้' 'มัน' ล่าสุดก็ถึงขั้น 'แม่ง..'
อีกไม่นานก็คง 'พ่อง...' ถือว่าสุดยอดจริงๆ กับวาทะและวจีกรรมยุคผู้นำบริหารประเทศแบบพรรคเดียว
ชาวบ้านประเภท 'ขาประจำ' มีข้อมูลมากหรือน้อยก็ไม่รู้ แต่เห็นกันชัดๆว่า 'โจรกระจอก' ได้กลายเป็นกองโจรปล้นปืนจากค่ายทหาร จนถึงขั้น 'คาร์บอมบ์' ทำให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ดูเหมือนเป็น 'อิรักย่อส่วน' ไปแล้ว!
จะเต็มส่วน กลายเป็นมิคสัญญี ถึงขั้นแบ่งแยกดินแดนเมื่อไหร่ คงใช้เวลาไม่นาน หากว่าการแก้ปัญหายังเป็นไปแบบ 'ข้ารู้ เก่ง อยู่คนเดียว'
หลังจากหลุด 'แม่ง..' ความคิดก็เริ่มกระจ่าง จะให้รัฐมนตรี 20 กว่าคนเข้าไปจัดการดูแล รวมทั้งจะให้เปิดสภา 500 อภิปรายทั่วไป ใครอยากพูด เสนอความคิดเห็นอย่างไรก็ว่าได้เต็มที่
ก็เป็นการเปิดรูปากระบายได้อีกแบบ ก็น่าดูเหมือนกันว่า 'ผู้ทรงเกียรติ' และ 'ผู้ทรงเกี๊ยะ' จะแสดงให้เห็นความเป็นอัจฉริยะกระฉูดได้มากแค่ไหน!
นี่แหละหนา ถ้าไม่สิ้นท่าหรือจนแต้มจริง จะยอมฟังผู้อื่นหรือ? ก็แปลก หากว่ามีแต่นักวิชาการชอบติ คงลืมไปว่าข้อเสนอต่างๆ ตลอดกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ถ้ารวมพิมพ์เป็นเล่ม ก็คงจะมากกว่าหนังสือที่ท่านผู้นำแนะให้บรรดาเสนาบดีได้อ่านด้วยซ้ำมั้ง?
นี่ เป็นเพียงปัญหา 1 เรื่อง จากนี้ไปก็จะเกี่ยวพันกับค่าครองชีพล้วนๆ ปัญหาที่บ่มเพาะมานานภายไต้โครงการลดแลกแจกแถม กำลังจะทยอยโผล่มาให้เห็นว่าศักยภาพของการทำลายนั้นรุนแรงแค่ไหน
นั่น เพราะคำแนะนำวิธีการดำรงชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงถูกเมินเฉย มุ่งเน้นแต่โหมกระแสกระตุ้นให้เกิดการบริโภคไม่หยุดหย่อน สร้างหนี้สินให้เกิดทุกหย่อมหญ้าโดยนโยบาย 'ประชานิยม' ให้คนชื่นชม
อยากจะให้ตัวเลข 'จีดีพี' ดูดีกว่าประเทศอื่น คนจะได้แห่กันมาซื้อหุ้น กิจการต่างๆ ของคนไม่กี่ตระกูลก็จะรวยเกินหน้าเพื่อนร่วมแผ่นดินผู้ยากไร้!?
แล้วเป็นไง หลังจากหลอกล่อให้คนซื้อรถกระบะเป็นแสนๆ คัน ด้วยการชะลอการขึ้นราคาน้ำมันดีเซล จนกว่าชาวบ้านจะไปลงคะแนนเลือกให้พรรคพวกกลับมาเป็นสมัยที่ 2
ท่านก็สนองคุณชาวบ้านด้วยการขึ้นราคาน้ำมันดีเซลกระฉอกแรก 60 สตางค์ต่อลิตร แค่นี้ก็มีเสียงร้องกันระงม หุ้นก็รูดไปกว่า 11 จุด
ถ้าจะทยอยขึ้นให้เท่าราคาจริง หรืออีกอย่างน้อย 3 บาทต่อลิตร จากนี้ไป ก็คงจะดูไม่จืด เพราะผู้ใช้กระบะทั้งหลายจะได้รู้ซึ้ง
พ่อค้าก็จะได้โอกาสปรับราคาให้เหมาะสมกับต้นทุน!?
นั่น หมายถึงต้นทุนชีวิตของชาวบ้านทุกคนจะเพิ่มขึ้น รายได้นั้นคงอยู่ที่เดิม แต่ค่าของเงินในกระเป๋าจะด้อยค่า เพราะอัตราเงินเฟ้อก็จะเขยิบขึ้นเช่นกัน
อีกไม่นาน ราคาโทลล์เวย์ รถไฟฟ้า ก็จะหวนคืนสู่ค่าบริการระดับเดิม!
ถ้าท่านผู้นำยังเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางแบบนี้เพราะถือดีว่ามี 19 ล้านคนเลือกเบอร์ 9 ก็คงจะเป็นไปในรูปแบบนี้แหละ
ยิ่งยังดันทุรังเร่งขายรัฐวิสาหกิจ สมบัติของชาติ ข่มขู่ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจอย่างไม่ละอายแก่ใจแล้ว วันแห่งความหายนะคงอยู่ไม่ไกล
ขนาดธนาคารกรุงไทย รัฐวิสาหกิจ ก็ยังถูกเร่งปล่อยกู้กว่า 5 แสนล้านภายใน 3 ปี จนมีคุณนายนักงาบหัวคิวร่ำรวย อวบอ้วนสมบูรณ์พูนสุข
แนวโน้มของความหายนะของเศรษฐกิจและโครงสร้างสังคมของบ้านเรา จะถูกหยุดยั้งได้หรือไม่?
แน่นอน หากว่ามีคนจำนวนหนึ่งมีจิตสำนึกถึงความถูกต้องดีงาม ไม่เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตน เป็นห่วงอนาคตของชาติ
ใครหรือ? มีจำนวนมากน้อยเท่าไร?
ไม่มากหรอก ขอ 'ผู้ทรงเกียรติ' เพียง 251 คนก็พอแล้ว ในวันนั้นแหละ! หากทำให้สิ่งเหลือเชื่อเป็นจริง ก็จะมีเหล่าผู้กล้าวีรบุรุษประชาธิปไตย ผู้รักชาติกลุ่มใหม่ซึ่งอีก 40 ล้านคนในประเทศจะไม่ลืมพระคุณ
ขอเพียงแค่นี้แหละ ทำได้มั้ย กล้าๆ หน่อยดิ! อิอิอิ!!!
: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง
วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553
ขอเพียงผู้กล้า 251 เสียง!?
เขียนโดย
Thai Writer
ที่
01:21

ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปยัง Xแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest