: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง

วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

วิบากกรรมซ้ำรอยเดิม

บทความโดย โสภณ องค์การณ์

วิบากกรรมซ้ำรอยเดิม
ชะตากรรมของคนบ้านนี้ เมืองนี้ ซึ่งมีหนี้ท่วมหัวเห็นท่าว่าจะต้องเผชิญกับวิบากกรรมซ้ำรอย ไม่ว่าจะหนักหนาสาหัสเหมือนพิษโรค 'ต้มยำกุ้ง' หลังจากลดค่าเงินบาทเมื่อ 7 ปีก่อนหรือไม่ก็ตาม

วิบัติภัยจากพิษเศรษฐกิจคราวนี้มีแน่ แม้จะไม่เกี่ยวกับค่าเงินบาท หรือเงินทุนสำรองแห้งเหือดเหมือนครั้งแรก เศรษฐกิจของประเทศอาจยังดูดี เพราะผู้บริหารบ้านเมืองยังใช้ยุทธศาสตร์การตลาดปั่นหัว เป่าหู บังตาชาวบ้านให้เห็นว่าการเป็นหนี้คือหนทางสร้างฐานะ

คำพูดที่ว่า 'หากไม่เป็นหนี้แล้วจะรวยหรือ' เมื่อเริ่มโครงการประชานิยมและเอื้ออาทรช่วง 4 ปีก่อนนั้น กำลังส่งผลให้เห็นถึงสภาพหนี้ทุกระดับ ทั้งส่วนตัวและครัวเรือน ตัวเลขหนี้พุ่งกระฉูดให้เห็นกันชัดๆ

แต่ก็ยังมีคนเป่าหูชาวบ้านอยู่นั่นแหละว่า ไม่น่าห่วง!

วิญญูชนต่างก็รับรู้ว่าเศรษฐกิจล่มจมครั้งแรกนั้น จำกัดความเสียหายโดยตรงต่อกลุ่มเศรษฐี นักธุรกิจ ชนชั้นกลางผู้สนุกกับรายได้จากการปั่นราคาอสังหาริมทรัพย์สลับกับการปั่นราคาหุ้น ใช้จ่ายเกินตัว จนหายนะกันทั่วหน้า

ต้องเปิดท้ายรถขายของ ตลาดนัดคนเคยรวย สร้างประวัติศาสตร์ว่าคนไทยเริ่มใช้สินค้ามือสองของบรรดาเศรษฐีตกยากทั้งหลาย

ยุคนั้นพนักงาน คนงานถูกเลิกจ้าง ก็กลับคืนสู่ชนบท ไปพึ่งพาอาศัยญาติพี่น้องภาคการเกษตร ยังเอาตัวรอดได้ มีผักปลาหากินยังชีพ แม้จะขาดเงินก็ยังไม่เดือดร้อน ถ้าไม่มีภาระหนี้สิน

คราวนี้จะแตกต่างกว่าเดิม 4 ปีที่ผ่านมา เพราะชาวบ้านถูกปั่นหัว เป่าหูให้สร้างหนี้ กู้ยืมจากกองทุนหมู่บ้านและเงินนอกระบบ เอาเงินมาจับจ่ายใช้สอย เพราะผู้บริหารบ้านเมืองต้องการกระตุ้นให้บริโภคใช้เงินเกินตัว เอารายได้จากอนาคตมาใช้วันนี้ ให้ตัวเลขเศรษฐกิจ 'จีดีพี' ดูดี

คนจะได้แห่กันเล่นหุ้น สร้างความร่ำรวยให้ครอบครัวผู้บริหารประเทศแบบก้าวกระโดด นอกเหนือจากพฤติกรรมบริโภคตามน้ำ ทวนน้ำ และแห้งๆ แบบไร้น้ำก็ยังเอา ถึงขั้นแก้กฎหมายให้การโกงเป็นธรรมชาติของนักธุรกิจการเมือง หรือการทุจริตคอร์รัปชันเชิงนโยบายแบบมีชั้นเชิงนั่นเอง

บัดนี้ทั้งรากหญ้าป่าคอนกรีต และรากหญ้าชนบทนาดอนภูธรทั่วหล้า ต่างก็มีหนี้สิน ทั้งหนี้กองทุน หนี้ส่วนตัว บัตรเครดิต หนี้นอกระบบ

ถ้าเกิดปัญหาเศรษฐกิจซ้ำรอย ต้องตกงาน จะซมซานไปพึ่งพาญาติพี่น้องภาคชนบทเหมือนแต่ก่อน เห็นทีจะยาก เพราะไปหาใครก็มีหนี้กันถ้วนหน้า

พวกเศรษฐีหรือชนชั้นกลางที่เคยเจ็บตัว และฟื้นฟูสถานภาพหลังจากล้มบนฟูก ต่างก็จดจำบทเรียน กว่า 7 ปีที่ผ่านมาได้ก่อร่างสร้างฐานะใหม่ ตั้งใจไว้เลยว่า ถ้าเกิดวิบัติภัยเศรษฐกิจฟองสบู่แตก หรือด้วยเหตุใดก็ตาม จะไม่ยอมลำบากเหมือนวิกฤติรอบแรก

ยิ่งนักธุรกิจการเมืองต่างก็เร่งกอบโกย ลูกหลานมีกี่คนก็ให้เร่งสร้างเครือข่ายธุรกิจโดยอาศัยเส้นสาย อิทธิพลของพ่อแม่พี่น้องเดินทางลัด ตัดเส้นทางย่นระยะ ไม่ให้มีคู่แข่ง

เงินร้อนๆ ทั้งหลายก็ผ่องถ่ายไปหมู่เกาะปลอดภาษี หนีกฎหมายฟอกเงิน พวกที่ฉลาดก็ไปลงทุนซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ซื้อง่ายขายคล่อง ตามจับมือดมได้ยาก มีเรื่องเมื่อไร ก็เผ่นหนีได้ทัน รับรองว่าตามยึดไม่ได้ง่ายเหมือนรัฐบาลฟิลิปปินส์ไล่ล่าสมบัติตระกูลมาร์กอส

เชื่อเหอะ วิกฤติเศรษฐกิจรอดยาก ดูตอนนี้ตัวเลขการค้าก็ไม่ดี ขาดดุลกันยืดเยื้อ น้ำมันแพง วิกฤติใต้ รายได้การท่องเที่ยวหาย ไข้หวัดนกยังรุมเร้า ข้าวยากหมากแพง ค้าขายก็ลำบาก เพราะพลังการซื้อของผู้บริโภคลดต่ำลง

เป็นเพราะระดับหนี้ล้นบัตรเครดิต หรือระวังด้วยการเริ่มประหยัด เพราะกลัวลำบาก ผู้บริหารบ้านเมืองก็ยังบิดเบือนโครงสร้างราคาน้ำมัน ขึ้นเบนซินตามราคาตลาดโลก พยุงดีเซลไว้ ไม่ยอมปรับ ต้องการช่วยเหลือค่ายรถยนต์ปิกอัพ และเอาใจกลุ่มผู้ใช้ดีเซล

ใครไม่เตรียมตัวรับวิกฤติรอบใหม่ รับรองว่าเผชิญกับความยากแค้นลำเค็ญแน่ๆ คนยากจนจะหมดไป เหลือแต่คนสิ้นไร้ไม้ตอก

ถ้าตลาดหุ้นยังเผชิญภาวะความไม่มั่นใจ ราคาหุ้นและดัชนีอ่อนล้าอย่างนี้เรื่อยๆ เจ้าของหุ้นก็จะจนลง รวมทั้งความรวยที่กระจุกอยู่กับ 27 ตระกูลอย่างที่รู้ๆ กันนั่นแล ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของ 'ป๋าดัน' และ 'ป๋าปั่น' เพื่อป้องกันราคาหุ้นตกทุกวิถีทาง

หัวใจของผู้บริหารบ้านเมืองอยู่ที่ตลาดหุ้น รู้ไว้ด้วยดิ! อิอิอิ!!!