: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง

วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ยังเชื่อคำลวงอีกหรือ?

บทความโดย โสภณ องค์การณ์

ยังเชื่อคำลวงอีกหรือ?
มาถึงขั้นนี้แล้ว เราจะยังหลงละเมอเพ้อพกอยู่อีกหรือ ว่าสภาวะเศรษฐกิจบ้านเราจะไม่เผชิญปัญหาอย่างรุนแรง!?

หรือจะยังหลงเชื่ออีกว่า 'ความยากจนจะหมดไปจากแผ่นดินในปี 2551' ตามที่ผู้บริหารบ้านเมืองพยายามพูดกรอกหูเราอยู่เป็นประจำซ้ำซาก ทั้งๆ ที่สภาพเศรษฐกิจไม่มีอะไรดีขึ้น

พูดครั้งแรกนั้นราคาน้ำมันเบนซินต่ำกว่า 15 บาทต่อลิตร ตอนนี้เฉียด 26 บาทแล้ว แถมยังมีแนวโน้มจะไต่ขึ้นเรื่อยๆ บริษัทน้ำมันฉวยโอกาสโกยกำไรกันจนน่าเกลียด

นี่เป็นผลตอบแทนให้ชาวบ้าน 19 ล้านคน หลังจากลงคะแนนเลือกตั้งให้คนหน้าเดิมกลับมารอบ 2 ทำเอาพวกไม่ได้เลือกต้องเดือดร้อนไปด้วย

นอกจากการไต่ระดับของราคาน้ำมัน ค่าครองชีพ ต้นทุนของการมีชีวิตในแต่ละวัน ชาวบ้านสะสมแต่ความทุกข์ระทม จมอยู่ในสภาพอกไหม้ไส้ขม

ที่มีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย ร่ำรวยจากการกอบโกยไม่ยอมเลิก ก็มีเพียงไม่กี่ตระกูล เกี่ยวดองกันทางญาติมิตรและสายสัมพันธ์ทางธุรกิจ หุ้นส่วนการเมือง แต่พวกนักธุรกิจนอกเครือข่ายอำนาจมีอาการหน้าซีด หน้าเหลือง

ถ้าใครยังเชื่อว่าเศรษฐกิจจะดี มีผู้บริหารบ้านเมืองรับประกัน ต้องถามตัวเองว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง บ้านเมืองจะเสื่อมถอยจนร่นมาอยู่ปากขอบเหวของความหายนะอย่างเช่นทุกวันนี้หรือ

ไม่ต้องมองอื่นไกล ถามดังๆ ว่าทำไมขุนคลังมือฉมังด้านการตลาด 'เสี่ยสมคิด จาตุศรีพิทักษ์' จึงอยากรีบไปให้พ้นๆ กระทรวงการคลัง ทั้งๆ ที่สมัยแรกนั้นต้องการนักหนา

แต่สมัยที่ 2 ออกอาการอิดออด ไม่อยากอยู่ แต่ท้ายที่สุดทนแรงบีบของหัวหน้าไม่ได้ ต้องจำใจรับตำแหน่ง

ที่ไม่อยากอยู่เพราะรู้ดีว่าสภาวะการเงิน การคลังของประเทศเป็นอย่างไร ง่อนแง่นแค่ไหน เพราะการบริหารผิดพลาด มุ่งเน้นการตลาด สร้างหนี้สินให้ชาวบ้าน

'เสี่ยสมคิด' รู้ดีว่าในที่สุดเศรษฐกิจบ้านเราจะอยู่ในสภาพใด จึงไม่อยากอยู่ให้ชาวบ้านรุมยำในฐานะรัฐมนตรีคลังผู้ล้มเหลว ต้องรีบเด้งตัวเองให้พ้นก่อน ให้คนอื่นรับเละแทน

คราวนี้ไม่เห็นมีใครอยากนั่งเก้าอี้ตัวนี้ แม้ว่าจะเป็นคนนอกก็ตาม คงได้กลิ่นตุๆ โชยมาแรงทุกวัน รอให้เกิดปรากฏการณ์โลงแตก เมื่อนั้นแหละ ใครต่อใครจะเผ่นหนีกันไม่ทัน

โฮ่ย! ปล่อยกู้กันมันในอารมณ์ หลายแสนล้านบาท จนสถาบันการเงินของรัฐ เช่น ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเกษตรฯ อยู่ในสภาพลูกผีลูกคน จะอยู่รอดได้นานหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้ามีวิกฤติเศรษฐกิจ

ปล่อยกู้จนเงินแทบเกลี้ยงหน้าตัก ต้องเร่งออกพันธบัตรเสริมฐานเงินทุน โดยหวังว่าจะมีเม็ดเงินมาต่ออายุโครงการประชานิยม และเอื้ออาทร เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ชาวบ้านระดับกลางจนถึงรายได้ระดับล่างต้องเผชิญกับค่าครองชีพสูงเกินกว่ารายได้หลายเท่า แต่ยังพยายามกลบเสียงโวย ปิดกั้นอารมณ์เดือดไม่ให้ผู้ใช้แรงงานเดินขบวนเรียกร้องค่าแรง เดี๋ยวจะลุกลามไปเหมือนการขับไล่ผู้นำรัฐบาลเหมือนในฟิลิปปินส์

ก็เลยเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำให้อีก 6 บาทต่อวัน จาก 175 บาทจนถึง 181 บาท แต่กรรมกรก็ขอให้ได้ถึง 233 บาท ความเดือดร้อนกระจายไปทุกหย่อมหญ้า พวกมีรายได้ประจำต่างพากันลำบากเช่นกัน

แล้วความยากจนจะหมดไปจากแผ่นดินได้อย่างไร ถ้าหากไม่พากันกอดคอกันฆ่าตัวตายหมู่ เหลืออยู่แต่พวกตระกูลธุรกิจการเมือง

จากนี้ไปต้องใช้เวลาอีกกี่วันราคาน้ำมันจะถึง 30 บาทต่อลิตร? อีกนานเท่าไรกว่าเงินบาทจะอ่อนตัวลงจนถึง 45 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ

ที่ยังเหลือให้ขบคิดก็คือ สภาวะเลวร้ายจะเท่ากับยุคหลังลดค่าเงินบาทในปี 2540 หรือไม่ แม้จะมีปัจจัย เงื่อนไข และส่วนประกอบแตกต่างจากคราวนั้นก็ตาม ที่เห็นชัดก็คือ คราวนี้คนล้มก็คือคนจน และชนชั้นกลางระดับล่าง

คราวก่อนนั้น 'คนเคยรวย' ล้มบนฟูก คราวนี้ถึงเวลาแจ้งเกิดของ 'คนเคยจน' เพราะจะกลายเป็นคนสิ้นไร้ไม้ตอก หนี้สินพอกพูน หมดทางดิ้นรน กระเสือกกระสนหนีตาย

คนจนจะล้มบนฟาก กลายเป็นซากของนโยบายประชานิยม ผสมกับเอื้ออาทร เพราะถูกยัดเยียดให้เป็นหนี้แท้ๆ

ถึงเวลาความหายนะมาเยือน เรารู้ใช่หรือไม่ ว่าต้องคิดบัญชีกับใคร เตรียมตัวได้แล้วนิ! อิอิอิ!!