อนาคตประเทศไทย

บทความโดย โสภณ องค์การณ์

อนาคตประเทศไทย
ถ้าผลการเลือกตั้งหลังจากวันที่ 6 กุมภาพันธ์เป็น 'วันมามาก' สำหรับ 'ค่ายแกงโฮะ' ที่หวังจะโซ้ยให้ได้มากกว่า 400 เสียงในสภา 500 แล้ว เราไม่ต้องพึ่งพาโหร หรือหมอดู มาทำนายอนาคตประเทศไทยว่าจะเป็นอย่างไรหรอก

ใครก็เดาไม่ยาก หากไม่หน้ามืดตามัวกับคำมั่นสัญญา หรือโฆษณาชวนเชื่อที่กรอกหูชาวบ้านผ่านสื่อของรัฐทุกวัน

สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ ผู้มีอำนาจในบ้านเมือง ทั้งเจ้านายและลูกจ๊อก จะเพิ่มความเหลิงลม เหิมเกริมกันสุดๆ จะใช้ทั้งอำนาจกฎหมายโดยเจ้าหน้าที่ซึ่งขาดศีลธรรมและคุณธรรม รวมทั้งอำนาจมืด เข้าจัดการผู้คัดค้านพฤติกรรมและนโยบายต่างๆ

พวก 'ขาจร' และ 'ขาประจำ' ก็จะเป็นเป้าหมายหลัก ใครที่เคยแทงกั๊ก ยึกๆ ยักๆ ไม่ยอมเลือกข้าง ก็จะต้องติดร่างแหไปด้วย

"ถ้าเอ็งไม่อยู่ข้างเดียวกับข้า ก็ต้องเป็นศัตรูกับข้า" นี่เป็นคำอหังการที่ไม่ต้องประกาศ พวกที่เป็นเหยื่อของการจองล้างทุกรูปแบบ ย่อมรู้ซึ้งถึงใจ

คำพูดของใครก็ไม่รู้ก่อนหน้านั้นที่ว่า "ผมไม่ต้องการให้สื่อมาเชียร์ผม" ก็จะมีการต่อเติมเสริมให้รู้ชัดๆ ว่า "แค่เลียอย่างเดียวก็พอแล้ว"

ใครทำอาชีพสื่อ หากไม่เชียร์และเลียเป็นงานหลักแล้ว ก็อย่าหวังว่าจะอยู่ดีกินดี ขนาด 4 ปีแรก ผู้มีอำนาจและสมุนยังไล่บี้ไล้ทุบคนทำสื่อหมดทางทำมาหากินทางทีวีและวิทยุของรัฐ

4 ปีหลังจะมีการให้พวกพ้องจ้องยึดคลื่นสถานีต่างๆ สร้างความร่ำรวยไม่หยุด ขนาดยังไม่ตั้งรัฐบาลใหม่ ก็แย่งกันเข้าไปให้เห็นหลังลายแล้ว!

เมื่อมีอำนาจล้นแผ่นดิน การโกงกินทั้งงาบหนัก งาบเนียน หรือการทุจริตคอร์รัปชันอย่างมีเชิง ผ่านนโยบายต่างๆ ก็จะหนักข้อยิ่งขึ้น เพราะโครงการใช้เงินมหาศาลต้องมีมากขึ้น

การโกงกินโดยระบบพวกพ้องและเครือญาติ อย่างที่เรียกว่า Cronyism นั้น จะเป็นไปอย่างมูมมาม เมามัน หน้ามืดตามัว ใครขืนทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง หรือก้างขวางคอ รับรองว่าแหลก

เงินที่ต้องใช้อัดฉีด กลบความเน่าผุกร่อนของโครงสร้างเศรษฐกิจ เช่นปัญหาหนี้ส่วนบุคคล และหนี้ครัวเรือน ซึ่งสั่งสมมาเพราะการใช้จ่ายเกินตัว การกระตุ้นในรูปแบบต่างๆ ก็จะเริ่มปะทุให้เห็น ทั้งระดับรากหญ้าในเมือง รากหญ้าป่าคอนกรีต และมนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย

ถ้าไม่ตายหยังเขียดก็ต้องรอเงินอัดฉีดผ่านโครงการประชานิยมผสมกับความเอื้ออาทรไม่หยุดหย่อน ชาวบ้านหมดความคิดจะทำมาหากิน ต้องตากหน้าพึ่งพาการเจือจานในรูปแบบของเศษเนื้อข้างเขียง

โครงสร้างของการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และภาคอื่นๆ นั้น จะสูญเสียดุลยภาพ ถูกความชั่วร้ายเข้าครอบงำ ความรู้สึกนึกคิดของชาวบ้านด้านการแยกแยะว่าอะไรดี อะไรชั่ว ก็จะมืดมัวเพราะการปั่นหัว ปั่นหูชาวบ้าน

4 ปีแรก เอาหวยบนดินมาไว้บนดิน สร้างกำไรกลายเป็นเงินใช้จ่ายอเนกประสงค์ตามแต่ท่านต้องการ ปรนเปรอชาวบ้านให้หน้ามืดตามัว

เมื่อเห็นความดีของเงินจากหวย จากนี้ไปก็จะมีขบวนการสร้างกระแสว่าถ้าจะให้เจ๋งกว่านั้น เงินก้อนโตกว่าเอามาช่วยชาวบ้านได้ ก็ต้องให้เปิดบ่อนกาสิโนและซ่องโสเภณี ในรูปแบบของ 'เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์'

แปลงอบายมุขให้เป็นทุนการเมืองต่อไปนั่นเอง! ศีลธรรม ความเสื่อมทรามจะเกิดขึ้นในบ้านเมืองอย่างไร ไม่มีใครแยแส ขอให้เงินเป็นใหญ่ก็พอ

เมื่อโครงสร้างผุกร่อน ก็ต้องซ่อมต่อ ฮ่า! 4 ปีซ่อม 4 ปีสร้าง ก็จะกลายเป็น 4 ปี เหลือแต่ซาก หรือกินกันจนซากไม่เหลือให้ซ่อมก็ไม่รู้ หากจะดั้นเมฆกันแบบกู่ไม่กลับ เหมือนที่ทำกันทุกวันนี้

ชาวบ้านที่ไปใช้สิทธิวันที่ 6 กุมภาพันธ์ จะเป็นผู้เลือกชะตากรรมของตัวเอง ถ้าดีก็ดีไป ถ้าไม่ดี เสียงข้างมากนั่นแหละจะช่วยกันมอบอำนาจให้คนลากพาประเทศชาติเข้าสู่ความหายนะ ถ้าบริหารจัดการโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน เน้นแต่เรื่องผลประโยชน์ของพวกพ้อง

หรือจะมีรูปแบบของการขายชาติแบบใหม่? อย่างที่เกิดขึ้น 4 ปีแรก ทั้งบัตรอภิสิทธิ์ เขตการค้าเสรี หรือความพยายามเซ็งลี้แผ่นดินให้นักลงทุนจีนเข้ามาตั้งนิคมอุตสาหกรรมในอำเภอเชียงแสนนั่นไง

คราวนี้จะมีเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อความพิเศษสำหรับคนกลุ่มอภิสิทธิ์ได้ทำมาหากินกันให้เต็มคราบ

6 กุมภาพันธ์ ถ้าเลือกคนไม่ดีให้มีอำนาจครองเมือง ความเลวร้ายที่ว่ามาทั้งหมดนี้ อีกไม่นานก็จะได้เห็นนิ! อิอิอิ!!!