: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง

วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2553

'หงา' นำทีมคาราวาน ปักธงสันติสุข..สู่แดนด้ามขวาน

รายงานพิเศษ / อิสรีอิน

'หงา' นำทีมคาราวาน ปักธงสันติสุข..สู่แดนด้ามขวาน
จากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ที่เป็นมาอย่างต่อเนื่องกว่าหนึ่งปีนั้น คนทั้งชาติต่างมีความพยายามที่จะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวทุกภาคส่วน

และหลังจากที่คนไทยได้ร่วมกันพับ 'นกกระดาษ' เพื่อเป็นตัวแทนแห่งความรักความห่วงใยจากคนไทยทั่วไปประเทศไปยังพี่น้องในสามจังหวัดภาคใต้มาแล้ว

ล่าสุดนี้ สุรชัย จันทิมาธร หรือ หงา คาราวาน ร่วมด้วย มูลนิธิดอกไม้และนกกระดาษเพื่อสันติภาพ, ชมรมคนรักดี และกลุ่มชอปเปอร์ Big Biker for Peace ขอชักชวนคนไทยได้ร่วมอกร่วมใจส่งกำลังใจไปกันอีกครั้ง กับโครงการ 'คาราวานปักธงสันติสุข ปลูกต้นไม้สามต้น' ที่จะมีขึ้นในเดือนกันยายนนี้

ด้วยการส่ง 'ธงสีบานเย็น' และ 'ดิน' ไปกับขบวนชอปเปอร์เพื่อนำไปมอบให้กับพี่น้องในพื้นที่สามจังหวัด พร้อมปลูกต้นไม้สามต้น อันเป็นตัวแทนของ มิตรภาพ ภราดรภาพ และสันติภาพ

"อยากไปเยี่ยมยามถามข่าวพี่น้องทางใต้เป็นหลัก"

หงา คาราวาน กล่าวถึงความตั้งใจครั้งนี้ โดยหงาจะเป็น 'แม่ทัพ' นำทีมสันติภาพลงไปด้วยตนเอง พร้อมด้วยเสียงเพลงและศิลปะการแสดงภาควัฒนธรรม

"การเดินทางครั้งนี้เป็นการเยี่ยมเยียนคารวะไถ่ถามทุกข์สุขซึ่งกันและกันด้วยรอยยิ้มด้วยเสียงเพลง ด้วยกิจกรรมที่พึงมีเพื่อเรียกร้องความสงบสุขและสันติภาพให้เกิดขึ้นแก่ดินแดนที่เราคิดว่าเป็นดินแดนแห่งความทุกข์ ทรมานใจ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานับกว่าขวบปี"

กิจกรรมเริ่มต้นใน 2 สัปดาห์แรกนี้ จะเป็นช่วงการรวมธง-รวมดิน โดยพี่น้องประชาชนสามารถส่ง 'ธงสีบานเย็น' และกำดินหน้าบ้านของแต่ละคนเพียง 1 กำมือใส่ถุงแล้วนำไปรวมไว้ที่ 'ศาลหลักเมือง' ของแต่ละจังหวัด ตั้งแต่ 19-23 กันยายน บนพื้นฐานคำขวัญที่ว่า 'มือทำธง มือกำดิน 60 ล้านธง 60 ล้านดิน ร้อยใจ...เป็นไทยเดียว' นั่นเอง

สำหรับธงนั้นประชาชนสามารถจัด 'ทำ' ขึ้นเอง จะขนาดเล็กหรือใหญ่แค่ไหนก็ได้ตามสะดวก (เหมือนเมื่อตอนที่พับนกกระดาษ) แต่ขอเน้นเป็น 'สีบานเย็น' เพื่อแสดงถึงความรักความร่มเย็น

พร้อมกันนั้น อย่าลืมเขียนชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และถ้อยคำอวยพรเพื่อเป็นกำลังใจให้ความสงบสุขและสันติภาพให้เกิดขึ้นโดยเร็ว

ส่วน 'ดิน' ละคนหนึ่งกำมือ ก็มีความหมายว่าจะเป็นดินจากที่ไหน ล้วนแล้วเป็นผืนแผ่นดินไทยเหมือนกัน

จากนั้น ฝ่ายอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.), สโมสรไลออนส์ และชมรมบิ๊กไบเกอร์เพื่อสันติภาพทั่วทุกภูมิภาค ภายใต้การนำของ ปรัชญา ศรีธัญรัตน์ จะรวบรวมนำมายังกรุงเทพฯ ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ในค่ำคืนที่ 24 กันยายน และเช้าวันที่ 25 กันยายนถึงจะมีการเคลื่อนขบวนใหญ่กันจริงๆ

โดยเน้นย้ำว่าไปอย่าง 'สันติ' จริงๆ แม้จะเป็นขบวนชอปเปอร์ก็ตามที

แต่ก่อนจะถึงพื้นที่สามจังหวัดจะมีการหยุดพัก 3 จุดด้วยกัน วันแรก 25 กันยายนเดินทางจาก กรุงเทพฯ พักที่ จ.ชุมพร วันที่สอง 26 กันยายน พักที่ จ.นครศรีธรรมราช วันที่สาม 27 กันยายน พักที่ จ.สงขลา และวันที่สี่ 28 กันยายน เคลื่อนเข้าสู่พื้นที่ จ.ปัตตานี จ.ยะลา และสิ้นสุดที่ จ.นราธิวาส (ซึ่งวันสุดท้ายนี้ นอกจากปลูกต้นไม้และปักธงสันติภาพแล้ว จะมีการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษในช่วงบ่ายและการแสดงดนตรีในช่วงค่ำด้วย)

โดยแต่ละจุดที่แวะพักนั้น จะมีการตั้งเวทีแสดงดนตรีแห่งสันติภาพด้วย 3 วงดนตรีหลักที่จะบรรเลงในแต่ละค่ำคืน ได้แก่ วงหงา คาราวาน, อี๊ด ฟุตบาธ และมาลีฮวนน่า ส่วนจะมีการแสดงภาคศิลปวัฒนธรรมมากน้อยเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับเพื่อนพ้องน้องพี่ศิลปิน-กวี ที่ไปร่วมงานในแต่ละจุดนั้นๆ ซึ่งเบื้องต้นที่มาร่วมมือร่วมใจกันบนเวทีแถลงข่าวก็เช่น ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี, เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์, แนบ โสตถิพันธุ์ เป็นต้น

0 0 0

พิเศษสำหรับงานนี้ หงา ได้เขียนบทกวีไว้บทหนึ่งชื่อ 'ต้นไม้สามต้น' กล่าวถึง ต้นไม้ที่ตั้งใจจะนำไปปลูกยังกลางเมืองลังกาสุกะ 3 ต้น ก็คือ มิตรภาพ, ภราดร และ สันติภาพ

เนื่องจากเห็นว่าแค่เพียงต้นไม้ที่ชื่อ 'สันติภาพ' ยังไม่พอ แต่การจะนำความสุขสงบคืนกลับมานั้น ที่สำคัญที่สุด จำเป็นต้องมีเสริมสร้าง 'มิตรภาพ' และ 'ภราดรภาพ' ด้วย ซึ่งต่างคนต้องช่วยกัน โดยเฉพาะภาครัฐ ที่มิใช่เน้นให้เกิดแค่ 'สันติภาพ' เพียงอย่างเดียว

ดังนั้นจุดใหญ่ใจความของการเดินทางในเชิงสร้างสรรค์และเป็นจริงที่สุดท่ามกลางธงสีบานเย็นโบกสะบัด ก็คือ การปลูกต้นไม้ นั่นเอง

และจะมีการปลูกจริงๆ และเป็นการปลูกต้นไม้ยืนต้นอีกต่างหาก

ที่สำคัญ ต้นไม้ที่นำมาปลูกทั้ง 3 ชนิดนี้ล้วนแล้วเป็นไม้ที่มีประโยชน์ มีความหมาย และเป็นมงคลยิ่ง นั่นคือ ตะเคียนชันตาแมว, กันเกรา และ ราชพฤกษ์ โดยผู้จัดงานได้ให้ความหมาย ดังนี้

ต้นที่ 1 'มิตรภาพ' หมายถึง ความรักความห่วงใย ปลูกต้น 'ตะเคียนชันตาแมว' ต้นไม้ประจำ จ.นราธิวาส เป็นไม้เนื้อแข็ง นิยมนำมาสร้างบ้าน โรงเรียน ศาลาวัด มัสยิด ปลูกขึ้นจำเพาะในพื้นที่ภาคใต้

ต้นที่ 2 'ภราดรภาพ' หมายถึง ความผูกพันฉันญาติมิตรของคนในชาติเดียวกัน ปลูกต้น 'กันเกรา' ต้นไม้ตระกูลวรรณคดีโบราณ ประเภทสมุนไพร นำมาต้มดื่มเป็นยารักษาโรคได้

ต้นที่ 3 'สันติภาพ' หมายถึง ความร่มเย็นผาสุกภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ปลูกต้น 'ราชพฤกษ์' ต้นไม้สิริมงคลชั้นสูงของปวงชนชาวไทย เจริญเติบโตทุกพื้นที่ในประเทศไทย เป็นต้นไม้สักการะที่รวมใจไทยทั้งชาติเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งนำมาทำเป็นเสาหลักเมือง

ทั้งนี้ จะปลูกจำนวนเท่าใดหรือฝ่ายใดจะเป็นผู้จัดเตรียมต้นกล้านั้น คงต้องประสานกันอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะมูลนิธิดอกไม้ฯ ซึ่งทำงานอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว

อย่างไรก็ดี แม้จะเป็นศิลปินที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสันติภาพมายาวนานก็ตาม แต่รูปแบบกิจกรรมดังกล่าวนี้ ครูใหญ่เพลงเพื่อชีวิตบอกว่ายังไม่เคยทำมาก่อนเหมือนกัน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในชีวิต

คำถามที่หงาเจอะเจอมากเป็นพิเศษในช่วงนี้ก็เห็นจะเป็นเรื่อง 'ความปลอดภัย' นั่นเอง

"เรื่องความรุนแรง เราไม่ค่อยห่วง เพราะจะพูดไปแล้วนะ ความรุนแรงเกิดทุกเมื่อในสังคม ไม่ใช่เฉพาะสามจังหวัดหรอก ฉะนั้น การยิงกันก็ไม่ใช่ว่าเกิดขึ้นทุกตารางเมตร ก็คงมีพื้นที่ให้เราไปทำกิจกรรมอะไรได้บ้าง ถ้าเราไปในทางที่ดี มันก็น่าจะดี เขาน่าจะรับเราได้ในจุดนี้"

หงาตอบด้วยความเชื่อมั่น พร้อมฝากไปถึงยังพี่น้องทางใต้ด้วยว่าไม่ต้องทำอะไรมากมายเลย เพียงแค่ขอให้ 'เปิดประตู' และ 'เปิดใจ' ต้อนรับในวันที่ขบวนการแห่งเสียงเพลงและสันติภาพเหล่านี้ ได้ผ่านไปถึงหน้าบ้านของพี่น้องก็เพียงพอแล้ว

"อย่าทำอะไรพวกเราเลย พวกเราไปดี เพื่อเยี่ยมยามถามข่าวพี่น้องเท่านั้นเอง"

ส่วนเราๆ ท่านๆ ที่ไม่สามารถร่วมขบวนคาราวานไปได้นั้น 'ธง' และ 'ดิน' ย่อมมีความหมายแทนความห่วงใยได้ดีที่สุดได้เช่นกัน!!