สุทธิชัย หยุ่น
บทสนทนาข้างถนน...
วันก่อน ผมแอบได้ยินคนสองคนคุยกัน ในร้านกาแฟริมถนนที่พลุกพล่านสายหนึ่ง เขาถกกันเรื่องการบ้านการเมืองอย่างถึงอกถึงใจ พูดถึงเรื่องบ้านเมือง และ 'ความเป็นประชาชน' ของคนไทย
นี่ ไม่ใช่เทปบันทึกเสียง ดังนั้นผมไม่ต้องพิสูจน์ว่ามีการตัดต่อเพื่อจุดประสงค์ทางการเมืองหรือไม่ แต่นี่เป็นส่วนที่ผมจำได้ และคงจะประทับใจไปอีกนาน
นาย ก...ผมเบื่อคนไทยที่ได้แต่บ่น แต่ไม่เห็นทำอะไร บ่นได้ทุกเรื่อง แต่เชื่อไหมว่าพอจะให้ตัดสินใจมีจุดยืนทางการเมือง ก็ไม่กล้า เห็นใครโกงก็เฉย พวกโกงกินบ้านเมืองถึงได้ใจทุกวันนี้
นาย ข...เราเชื่อผู้ใหญ่ เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
นาย ก...เพราะคนไทยเป็นอย่างนี้ไง บ้านเมืองถึงได้เป็นอย่างนี้ เพราะเราหน้าไหว้หลังหลอกไง เราจึงไม่ได้คนดีๆ เป็นนักการเมือง
นาย ข...คุณจะให้คนไทยทำตัวอย่างไร?
นาย ก...ถ้าจะสร้างประเทศให้มีคุณธรรม มีศีลธรรม และเลิกเล่นเส้น เลิกคอร์รัปชัน คนไทยเวลาเห็นสิ่งไม่ถูกไม่ต้องในสังคม จะต้องลุกขึ้นมาพูด จะต้องไม่ยอมให้มันผ่านเฉยๆ
นาย ข...ผมเล่าเรื่องที่เกิดกับผมให้คุณฟัง คุณช่วยบอกผมทีว่าผมควรจะทำอย่างไร?
นาย ก...ว่ามาเลย
นาย ข...เมื่อไม่นานมานี้ ผมกำลังเข้าคิวซื้อของในห้างสรรพสินค้าอยู่ มีชายร่างใหญ่หน้าตาน่ากลัวคนหนึ่งลัดคิว แซงทุกคนไปข้างหน้า ผมเดินไปหาแก บอกแกว่าแกต้องเข้าคิวเหมือนคนอื่น แกยอมถอยไปเข้าคิวที่ปลายแถว แต่หน้าตาบอกบุญไม่รับ กระฟัดกระเฟียดเหมือนจะกลืนกินผมลงไปที่นั่นเดี๋ยวนั้น
นาย ก...คุณทำถูกแล้ว คนคนนั้นอาจจะโกรธคุณตอนที่เกิดเหตุ แต่แกกลับบ้านแล้ว แกคงจะคิดขึ้นมาได้ว่าได้ทำสิ่งที่ไม่ควรทำไปแล้ว แกคงคิดขึ้นมาได้ว่าถ้าหากคนอื่นมาแซงคิวแกบ้าง แกจะรู้สึกอย่างไร และบางทีในอนาคต แกอาจจะทำอย่างคุณก็ได้ คือถ้าใครแซงคิวแก แกก็จะเดินไปบอกอย่างสุภาพว่า คุณกำลังแซงคิว คุณกำลังเอาเปรียบคนอื่น สังคมไทยจะเจริญไม่ได้ถ้าเรายังไม่ยอมแม้กระทั่งจะเข้าคิว เพราะนั่นเท่ากับว่าเราไม่เคารพในสิทธิของคนอื่น ระบอบประชาธิปไตยจะเข้มแข็งได้ต่อเมื่อเราเคารพในสิทธิของคนอื่น และเสรีภาพของเรานั้นสิ้นสุดลงเมื่อเราไปข้ามเส้นคนอื่นเขา
นาย ข...แต่ปัญหาของผมไม่ใช่กับคนคนนั้นครับ
นาย ก...อ้าว, แล้วมีปัญหากับใครหรือ?
นาย ข...เมียผมยืนอยู่กับผมวันนั้นด้วย หลังจากเป็นพยานของเหตุการณ์วันนั้นแล้ว เธอบอกว่าเธอมีคำถามที่ผมต้องตอบเธอ
1.ผมต้องการพิสูจน์อะไร? คนไทยเขาไม่พิสูจน์อะไรกันอย่างนั้น?
2.ถ้าชายคนนั้นทำร้ายร่างกายผมตอนที่ผมไปเตือนให้แกอย่าลัดคิว ผมคิดว่าคนไทยคนอื่นๆ ที่ถูกลัดคิวด้วยจะช่วยผมหรือเปล่า?
3.ทำไมผมไม่อยู่เฉยๆ หรือทำเป็นมองไม่เห็นเหมือนคนส่วนใหญ่อื่นๆ เล่า?
4.ตอนที่ผมตัดสินใจเดินไปเตือนชายลัดคิวหน้าตาน่ากลัวคนนั้น ผมคิดหรือเปล่าว่าถ้าผมถูกกระทืบจนพิการ ใครจะดูแลรับผิดชอบเมียและลูกของผม?
นาย ก.... แล้วคุณตอบเมียคุณว่าอย่างไร?
นาย ข....จนถึงวันนี้ ผมยังคิดไม่ออกเลย สาบานได้
: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง
วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553
บทสนทนาข้างถนน...
เขียนโดย
Thai Writer
ที่
06:53

ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปยัง Xแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest