: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง

วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2553

แรงจูงใจในการจัด 'ชมโน-โชว์นม' (ธรรมาภิวัฒน์ / ว.วชิรเมธี)

แรงจูงใจในการจัด 'ชมโน-โชว์นม' (ธรรมาภิวัฒน์ / ว.วชิรเมธี)

ปุจฉา

ดูข่าวบริษัทเครื่องสำอางที่มีดาราคนหนึ่งเป็นผู้ถือหุ้น มาสาธิตวิธีการขายสินค้าด้วยการโชว์ 'ตบถัน' แล้ว ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า การทำธุรกิจของคนเราเดี๋ยวนี้ เขาไม่คำนึงถึงความถูกต้อง ศีลธรรม หรือผลกระทบทางสังคมหรืออย่างไร อยากได้เงินจากลูกค้ากันถึงขนาดยอมเปลือยอกกันอย่างโจ๋งครึ่มกลางเมืองอย่างนั้นเชียวหรือ สงสารก็แต่คุณมีสุข แจ้งมีสุข ที่ไปร่วมงานแล้วพลอยให้พลาดรางวัลสตรีดีเด่นไปด้วย

ท่าน ว. คิดอย่างไรคะกับการทำโฆษณาเกินจริง โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อคนรอบข้าง ต่อศักดิ์ศรีของผู้หญิง ต่อศีลธรรม และต่อสังคมไทย

แม่น้องพลอย


วิสัชนา

เรื่องผลกระทบ เรื่องศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิง เรื่องศีลธรรม มีคนวิจารณ์กันมากแล้ว จะแสดงความเห็นอีกก็จะซ้ำกับคนอื่น ผู้เขียนสนใจ 'แรงจูงใจ' ที่ทำให้มีการ ชมโน กลางกรุงมากกว่าปรากฏการณ์ที่ตกเป็นข่าว

อะไรคือแรงจูงใจให้มีการกระทำที่ถือกันว่า อุกอาจทางศีลธรรม บางทีคำตอบอาจอยู่ในนิทานปรัชญาจีนต่อไปนี้

ชายหนุ่มรุ่นกระทงคนหนึ่ง เพิ่งแต่งงานใหม่ ช่วงที่ยังข้าวใหม่ปลามันภรรยาว่าอะไรก็เออออห่อหมกตามไปหมด ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ ชี้น้ำน้ำไหล ชี้ไฟไฟสว่าง ไปฮันนีมูนกันภรรยาแทบไม่ต้องเอามือไปด้วยก็ได้ เพราะคุณพี่เธอยินดีบริการทุกอย่าง

วันหนึ่งภรรยาเกิดอยากได้เครื่องประดับที่ทำด้วยทองขึ้นมา เพราะเบื่อเครื่องเพชรเต็มประดา จึงป้องปากกระซิบบอกความต้องการของตนที่หูของสามีสุดที่รัก ฝ่ายสามีอยู่ในช่วงหลงเสน่ห์ภรรยาสาว ก็รับปากว่าอย่างไรเสียวันสองวันนี้ คนดีของพี่ต้องมีทองประดับพราวไปทั้งตัวแน่

เจ้าหนุ่มนั่งคิดนอนคิดหาวิธีที่จะได้เครื่องประดับจำพวกทองมาสนองความประสงค์ของภรรยาสาวอยู่หลายวัน แล้วอยู่มาวันหนึ่งเขาก็เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมา จึงเดินทื่อๆ เข้าไปในใจกลางเมือง พลางตรงรี่ไปที่ร้านขายทอง ทั้งๆ ที่ในร้านขายทองแห่งนั้นพลุกพล่านไปด้วยลูกค้านับสิบคน มีตำรวจคอยยืนอารักขาอีกสองนาย เจ้าของร้านทองเองก็อยู่กันครบทั้งสามีภรรยา แต่ทุกคนที่อยู่ในร้านทองแห่งนั้น ดูเหมือนไม่มีตัวตนในสายตาของเจ้าหนุ่มผู้อยากได้ทองคำขึ้นสมองคนนั้นเลย

เขาเดินทื่อๆ เข้าไปในร้านเหมือนคนใจลอย ค่อยๆ ฝ่าฝูงชนที่กำลังเลือกทองกันอยู่ พอได้โอกาสก็หยิบเอาเครื่องประดับทองคำติดมือมากำใหญ่ แล้วเดินออกมาจากร้านเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนในร้านนับสิบมองเขาเป็นตาเดียว ทุกคนงงกับสิ่งที่เขาทำลงไปอย่างชนิดไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม ตำรวจเองก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะไม่เคยเห็นคนร้ายที่ไหนทำการอุกอาจขนาดนี้มาก่อน พอทุกคนได้สติก็วิ่งกรูตามเจ้าหัวขโมยออกมา เจ้าของร้านและตำรวจช่วยกันจับหัวขโมยได้โดยละม่อม จากนั้นจึงมัดมือไพล่หลังอย่างแน่นหนา ลากถูลู่ถูกังไปหาผู้พิพากษาประจำเมือง

"เธอรู้ไหมว่าทำอะไรลงไป"

"เพิ่งรู้ตัวก็ต่อเมื่อมาอยู่ในศาลนี่แหละครับ"

"ตอนที่เดินเข้าไปในร้านทอง เธอเห็นเจ้าของร้าน หรือเห็นตำรวจอีกสองนายไหม"

"ไม่เห็นใครเลยครับท่าน"

"สองตาเธอยังปกติดีใช่ไหม"

"ครับท่าน"

"ถ้าเช่นนั้น ทำไมจึงมองไม่เห็นตำรวจ มองไม่เห็นเจ้าของร้าน มองไม่เห็นคนในร้านนับสิบ"

"ผมมองไม่เห็นใครในร้านเลยครับท่าน นอกจาก 'ทอง'..."