บทความโดย โสภณ องค์การณ์
พูดได้ คนเชื่ออ๊ะป่าว?
เอาอีกแล้ว! เจ้าภาพงานมหกรรมเซ็งลี้ประเทศไทยในยุค 'ไทยเคยรวย' ออกมาพูดกล่อมให้คนเชื่ออีกแล้วว่า 'อีก 3 ปีหายจน' คราวนี้คนฟังก็คือชาวสมาชิกก๊วนแกงโฮะ ต่างก็ฟังหูผึ่งถึงวิสัยทัศน์สวนกระแสขาลง
ทุกวันนี้คนเป็นหนี้แทบจะล้นออกมานอกคอหอย ยังหลงละเมอเพ้อพกว่าความยากจนจะหมดไป พูดแบบนี้ใครจะเชื่อ
ก็แม้แต่รัฐบาลแท้ๆ ก็ยัง 'ถังแตก' ต้องวิ่งออกตั๋วเงินคลังมาจ่ายเงินเดือนให้ข้าราชการ เอาตัวรอดไปแต่ละเดือน
ถ้าเป็นภาคเอกชน ก็ถึงขั้นวิ่งแลกเช็คนั่นแหละ!
ชาวแกงโฮะคงฟังด้วยความทึ่ง ถึงความกล้าหาญของนายใหญ่ในการตอกย้ำว่าเมืองไทยจะหายจน ไม่กี่วันก่อนหน้าที่เชิญทูตกว่า 50 ประเทศมาฟังโครงการเซ็งลี้ประเทศไทย จนป่านนี้หัวเราะคิกคักกันไม่เลิก
เห็นเขาชมกันว่า 'นายแน่มาก' บ้องตื้นไร้เทียมทานจริงๆ
ถ้าชาวแกงโฮะมีอิสรเสรีภาพในการพูดท้วงติงหรือขัดคอนาย ป่านนี้คงยกมือ ขอถามดังๆ ว่าที่นายใหญ่พูดไปนั้น เดี๋ยวนี้ไม่มีใครเชื่อถือแล้ว
ก่อนนั้นบอกว่า 'เซ็กซ์เสื่อม' คนฟังได้ แต่จะหาคนเชื่อยากเช่นกัน
ฉะนั้น ยุทธศาสตร์การปั่นหัว เป่าหูชาวบ้านยามที่ปัญหาหนี้สินครองเมืองนั้น จะเป็นนิทานบนศาลาโกหก ต้องใช้ลูกเล่นเหนือชั้นกว่าแขกเป่าปี่ให้งูเห่า หรือเชือกเต้นระบำได้นั่นแหละ อาจจะยังพอขายได้ตามงานวัดบ้านนอก
นายใหญ่คงยังเป็นผู้ไม่ปรับเปลี่ยนความเชื่อของตนเองที่ว่า ยิ่งโกหกคำโตได้บ่อยครั้งเมื่อไร ต้องมีคนเชื่อ เพราะคนบ้องตื้นเกิดมาในโลกทุกๆ 1 นาที
พูดปลอบขวัญให้ลูกน้องว่าอย่าเชื่อกระแส 'ขาลง' เพราะโครงการเซ็งลี้ประเทศไทย ให้ฝรั่งมังค่าหอบเงินเข้ามาพัฒนาชาตินั้น จะเป็นการแปลงเมืองไทยให้ทันสมัย มีรถไฟฟ้าใช้อีก 10 สาย
ถ้าเป็น 3-4 ปีก่อนนั้น คงได้รับการปรบมือ นำโดยขันทีลิ่วล้อ กลุ่มเชลียร์ ลิ้นกระดาษทราย น้ำลายชะแล็ก เป็นอันตรายต่อขนหน้าแข้งสุดๆ
ปัจจุบันนี้ ชาวบ้านหูตาสว่าง ท้องหิว ควักกระเป๋า เงินก็ไม่เพิ่มทุก 6 เดือน มีแต่ตั๋วจำนำและใบแจ้งหนี้ ถ้าแย่หน่อย ก็เป็นโนติ๊สทนายกับหมายศาล
คนถังแตกพูดจาอะไร ย่อมไร้น้ำหนัก จะกู้เงินคนอื่นก็ยาก กว่าจะได้ ดอกเบี้ยก็อัตรามหาโหด ในเมื่อตัวเองยังเอาตัวแทบไม่รอด จะหวังให้เตี้ยไปอุ้มค่อมได้อย่างไร
ก่อนหน้านี้เคยเตือนไว้แล้ว ว่าถ้าความยากจนหมดไปจริงๆ ก็จะเปลี่ยนไปเป็นคนยากไร้ ถึงขั้นสิ้นไร้ไม้ตอกนั่นเชียว
เหมือนคนตัวล่อนจ้อน แต่ดันเสนอจะเอาเสื้อให้คนอื่น!
เดี๋ยวนี้คนจนไม่ได้เพียงยากจนเฉยๆ ยังเป็นหนี้อีกด้วย ไม่ใช่เรอะ?
การพูดเอามัน ปลุกปลอบขวัญให้ก๊วนแกงโฮะฟังแล้วคึกคักนั้น ย่อมทำได้ แต่ถ้าสื่อเอามาขยายความแล้ว นั่นหมายถึงการแปรสภาพเพื่อสร้างความขบขันบันเทิงโดยไม่ต้องจี้เอว
ซ้ำร้าย ถ้ามีกลุ่มแกงโฮะมันสมองยังไม่ถูกครอบงำ คิดเองเป็น ได้ฟังแล้วอาจจะตกใจ เมื่อเห็นนายใหญ่ยังจมปลักอยู่กับฝันค้างเดิมๆ
ไม่ได้มองรอบด้าน ฟังกระแสชาวบ้านว่าคิดอย่างไร ถ้าจะให้ดีลองไปนั่งแท็กซี่ยุคนี้ คนขับขอเริ่มต้นด่าเอง ทุกวันนี้หาเงินได้ไม่พอกิน ยังถูกญาติพี่น้องต่างจังหวัดขอเงินไปปลดหนี้กองทุน และหนี้นอกระบบ
ล่าสุด ยังมีลูกเล่นทีเด็ด นายใหญ่ประกาศก้อง ไม่ขอเชื่อทฤษฎีที่ว่าคนบ้านนอกตั้งรัฐบาล แต่คนเมืองหลวงเป็นคนล้ม!
ไม่แยแสคำเตือนให้คำนึงถึงเศรษฐกิจพอเพียง อย่าใช้จ่ายเกินตัว
ท่านเจ้าภาพงานเซ็งลี้ประเทศไทยมั่นใจสุดๆ ในฐานเสียงบ้านนอกรากหญ้าชนบทนาดอน คงนึกว่าโยนเศษเงินให้ไป เสียงบ่นก็เงียบ!
พูดอย่างนี้เป็นการท้าทายคนเมืองหลวงชัดๆ ลืมไปแล้วมั้ง ตอน 'เสี่ยสนธิ ลิ้มทองกุล' ขาใหญ่ค่ายผู้จัดการ ชักชวนคนให้มาฟังการเปิดโปงขบวนการกังฉินกินเมืองนั้น มีใครร้อนรุ่มกลุ้มใจ กลัวจะไม่มีแผ่นดินอยู่
ถ้ายังแน่จริงก็ต้องตอบคำถาม 'เสี่ยสนธิ' เกี่ยวกับพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจทั้งหลาย โดยเฉพาะประเด็นเงินทองของแผ่นดิน
ที่ผ่านมาปล่อยให้ขันที ลิ่วล้อ ออกหน้า ตัวเองไม่กล้าแม้จะตอบคำถามสื่อ ความเก่งกล้าจะมีเฉพาะอยู่ในกลุ่มก๊วนเดียวกัน
ตอนนี้ดันมีเรื่องภาษีโอนหุ้นพิสดารหลายพันล้านบาทมาเป็นไฟลนก้น
เงินทองที่พวกกังฉินกินเมืองขนเอาไปซุกไว้เมืองนอก อาจช่วยได้ยามตกระกำลำบาก แต่ว่าเคยได้ยินมั้ย พวกฝรั่งมังค่าพูดไว้
You can run, but you cannot hide แปลว่า เอ็งหนีไปได้ แต่จะเอ็งซุกซ่อนที่ไหนก็ไม่พ้น เพราะกรรมตามทันเสมอ แม้มือกฎหมายจะต้องใช้เวลานาน หรือเอื้อมไม่ถึงก็ตาม
คิดดูดิ ก่อนนี้นึกหรือว่าสภาพขาลงจะมารวดเร็วแบบนี้? อิอิอิ!!!
: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง
วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553
พูดได้ คนเชื่ออ๊ะป่าว?
เขียนโดย
Thai Writer
ที่
01:32

ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปยัง Xแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest