บทความโดย โสภณ องค์การณ์
พักรบ พบรักรอบใหม่?
อ่า! หลังจากอยู่ในสภาวะใจหายใจคว่ำ ทำท่าจะไปแหล่มิไปแหล่ ในที่สุดนายใหญ่ 'บ้านจันทร์ส่องหล้า' ก็สามารถผ่อนการตั้งรับแนวรุกโดยขาใหญ่ 'บ้านพระอาทิตย์' สร้างบรรยากาศสมานฉันท์ จะชื่นมื่นหรือปนขมขื่นนิดๆ ให้เนียน ก็ต้องขอเวลาดูให้ชัด
อย่างน้อยก็มีช่องว่างของแรงกดดัน ได้ผ่อนลมหายใจให้ทั่วท้องบ้างก็ยังดี ไม่เสียฟอร์มมากจนเกินไป อย่างน้อยพวกรากหญ้าไร้เดียงสายังจับไต๋ไม่ได้หมด
ถ้าปล่อย 'เสี่ยสนธิ ลิ้มทองกุล' เจ้าพ่อสื่อค่ายผู้จัดการ เป็นพยัคฆ์ลำพองคะนองไม่ยอมเลิก นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้าจะต้องแบหรา ถูกปอกเปลือกล่อนจ้อนไม่เหลืออะไรปกปิดเนื้อในแน่ๆ
นี่แหละหนา เขาถึงว่ามิตรที่กลายเป็นศัตรูนั้น ร้ายกาจกว่าศัตรูร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะรู้ไส้เราทุกขด รู้พุงเราทุกเหลี่ยมมุม ช่องเล็กช่องน้อยก็ปิดไม่มิด
การยอมถอนฟ้องเพื่อซื้อใจ 'เสี่ยสนธิ' เป็นหนทางออกซึ่งไม่มีอะไรเสีย การจะหวังได้เงิน 2 พันล้านบาทเป็นค่าเสียหายนั้น คงจะยากยิ่งกว่าการหาบันไดปีนไต่ขึ้นสวรรค์
จำไม่ได้เรอะ ประโยคทองของนักชักดาบ 'ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย' ยังขลัง ทำให้เจ้าหนี้นอนสะดุ้งผวาอยู่เสมอ ไม่อย่างนั้นนายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้าจะยุให้ลูกหนี้เงินกู้ยอมล้มละลายเพื่อถ่ายหนี้ให้เกลี้ยงทำไม
'เสี่ยสนธิ' จะตอบสนองการยื่นไมตรีหรือไม่นั้น ก็ต้องนำสุภาษิตสอนใจ 'ตีงูให้หลังหัก' มาพิเคราะห์รวมกับข้อคิดอื่นๆ เช่นการรู้จักการให้อภัย เป็นต้น
แต่สิ่งที่ประชาชนคนมีส่วนได้เสียในเดิมพันของประเทศชาติต้องอยากให้รู้ชัดๆ ว่า "จากนี้ไปจะมีการโกงกิน ทางตรง ทางอ้อม ตามน้ำ ทวนน้ำ ดำน้ำ แบบเหนือเมฆ รวมทั้งทุจริตเชิงนโยบายหรือแบบหน้าด้านๆ หักดิบ อีกหรือไม่"
ใครจะกล้ารับประกัน?
พุทโธ่! ขนาด 'เสี่ยสนธิ' เปิดฉากถล่มโครมๆ ทุกวันศุกร์ จุกหัวอก ก็ยังไม่วายมีพวกจอมมารทั้งหลายจ้องจะรวบทรัพย์สินของแผ่นดินไปขายในราคาถูกๆ เพื่อพวกพ้องตัวเองจะได้ซื้อ เอาไว้กินกำไรในอัตราขูดรีดจากประชาชน จนถึงรุ่นลูกหลานเหลนโหลน
การโกงกินแบบตะกละตะกลามมูมมาม ไม่ยอมแบ่งใครนั้น ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำกลุ่มของเหล่าทุรชนกังฉินกินเมืองยุคนี้ไปแล้ว
ใครก็ลอกเลียนแบบได้ไม่เนียนเท่า รับรองได้!
ถ้าเกิดภาวะสมานฉันท์ หรือนำไปสู่การแบ่งปันอะไรต่อมิอะไรระหว่างเจ้าบ้านจันทร์ส่องหล้าและบ้านพระอาทิตย์จริงๆ ตามที่มีคนตั้งข้อสังเกตก่อนหน้านี้ ชาวบ้านที่ไปชุมนุมในสวนลุมฯ และแหล่งอื่นๆ ก็น่าจะต้องโทษตัวเองว่าเชื่อคนง่ายเกินไป
อย่าให้เป็นเช่นนั้นเถอะ พ่อเจ้าประคู้น!
จะมีอะไรสำคัญเท่ากับเกียรติภูมิ ความน่าเชื่อถือและศรัทธาอีกเล่าในชีวิตนี้ แม้แต่เงินเป็นแสนล้านบาท ก็ยังซื้อไม่ได้
เห็นหรือไม่ แม้ว่าจะจ่ายเงินเบี้ยเลี้ยงพิเศษรายเดือนให้พวกลิ่วล้อลูกไล่ ข้าวนอกนา ข้านอกนายทั้งหลาย ก็ยังเลี้ยงไม่เชื่อง
พออยู่ในสภาพขาลงก็หาเรื่องตั๊งก๊วนให้เดือดเนื้อร้อนใจ ต้องจ่ายเงินเป็นน้ำเลี้ยงความจงรักภักดีชั่วคราว พอเงินจางพวกนี้ก็คิดจะตีจาก หาแหล่งใหม่อุดมสมบูรณ์กว่า
ต่อให้มีเงินเท่าไหร่ ถ้าสวมวิญญาณตังเม ไม่ยอมควักจ่าย ก็ไร้อำนาจควบคุม! ดังนั้น อย่าไปปักใจเชื่ออะไรว่าการเมืองจะแน่นอน ดิ้นไม่ได้!
ยามรักกัน เป็นบัดดี้รักเพื่อนเลิฟก่อนหน้านี้ เจ้าบ้านจันทร์ส่องหล้าและบ้านพระอาทิตย์จี๋จ๋ากันจนแทบจะแหกอะไรดม พอความรักขมก็แทบจะฆ่ากันตาย
จะแปลกอะไรที่ทั้งคู่จะหวนกลับไปชื่นมื่นกันอีก ถ้าอะไรต่อมิอะไรลงตัว เกิดความสมานฉันท์กันแบบที่ชาวบ้านวงนอกไม่รู้ และเขาก็ไม่เอามาแถลงข่าว เล่าให้ฟังด้วย
เมื่อวันนั้นยังไม่เกิด ก็ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยไว้ให้ทั้งสองฝ่าย!
ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่เห็น หรือทึกทักเอาเอง อย่างน้อย 'เสี่ยสนธิ' น่าจะได้ยินถ้อยคำของท่านโฆฯ รูปหล่อ เด็กเจ๊ใหญ่ กทม. ซึ่งพูดจาสามหาวจาบจ้วง โดยไม่คำนึงถึงรุ่น หรือเห็น 'เสี่ยสนธิ' อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
ท่านโฆฯ ปากเพิ่งสิ้นกลิ่นน้ำนมไม่นาน น่าจะเป็นเชื้อฟืนสำหรับเติมไฟที่อาจใกล้มอดในอก 'เสี่ยสนธิ' ในคุโชนอีกก็ได้ เข้าตำรา 'ชายชาตรี ฆ่าได้ หยามมิได้'
แสดงว่าแม้นายใหญ่จะยอมเลิกราวี แต่ยังไม่มีใครสั่งเด็กให้หายซ่า! เหมือนไปเยี่ยมบ้านใคร เจ้าบ้านปล่อยให้หมาเห่า ไม่ยอมจุ๊ปากให้หมาเงียบ
แม้ศึกด้านนี้จะทุเลา แต่นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้ายังต้องเค้นมันสมองหาจุดขายใหม่ๆ มากล่อมชาวบ้านให้มากกว่าเก่า หลังจากมีคนรู้ทันมากขึ้น
นโยบายประชานิยมหนี้สินนั้น คงจะยาก นอกจากสภาพถังแตกทำให้สายป่านขาดลุ่ยแล้ว ยังต้องห่วงว่าสัญญาที่ว่าจะให้อื่นๆ นั้น มีเงินมาสานฝันให้เป็นจริงอ๊ะป่าว!
ขณะนี้ได้แต่เอาลูกเล่นเก่าๆ เช่น จีดีพี จะเป็น 4.5 หรือ 4.7 เปอร์เซ็นต์ ก็ไร้ความหมาย ตราบใดที่ชาวบ้านไร้เม็ดเงินในกระเป๋า
ขืนไปพูดมาก นอกจากชาวบ้านไม่รู้เรื่องแล้ว ยังอาจโดนด่าว่าเป็นพวกบ้าคลั่งจีดีพีอีกก็เป็นได้ จะหวังพึ่งดัชนีตลาดหุ้นก็ยิ่งยาก เพราะแสนจะห่างไกลกระเป๋าชาวบ้าน
ลูกเล่นล่าสุด ก็บอกว่าจะไป 'ฝังตัว' ในอำเภอแถบอีสาน จะได้เรียนรู้ปัญหาชาวบ้าน! แล้วจะมีผู้แทนราษฎรไว้ให้เปลืองข้าวสุกข้าวสารชาวบ้านทำไม
เอาเถอะ! จะฝังก็ฝังไป กลบให้สนิท ใครอย่าสะเออะไปขุดขึ้นมาอีกก็แล้วกันนิ! อิอิอิ!!!
: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง
วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553
พักรบ พบรักรอบใหม่?
เขียนโดย
Thai Writer
ที่
01:31

ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปยัง Xแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest