บทความโดย โสภณ องค์การณ์
ถ้าเขารอด บ้านเมืองไม่รอด
การเมืองช่วง 'ขาลง' นั้น นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่ละฉาก แต่ละตอน ล้วนมีความนัยปนกับความไร้สาระ ผสมผสานกันเข้าทำนอง ฝนตกขี้หมูไหล คนจัญไรมาพบกันนั่นแล!
สภาวะขาลงโดยไม่มีหนทางพลิกฟื้นความนิยม แถมโดนโหมกระหน่ำโดยสภาพเงินคงคลังถังแตกด้วยแล้ว ใครจิตใจวอกแวกอาจเกิดปัญหาสติแตกกระเจิดกระเจิง ทำอะไรโดยไม่คิดให้รอบคอบ
ยิ่งมี 'ปรากฏการณ์เบนโล 2' นอกใจเมีย มั่วเซ็กซ์ด้วยแล้ว การตั้งรับก็ยิ่งระส่ำระสาย ทั้งโฆษกระดับฆ้องปากแตก ต้องเร่งสร้างแก้ต่างให้เข้าตาถูกใจเจ้านาย กลัวว่าจะถูกเด้งในการสับเปลี่ยนเก้าอี้เสนาบดี ซึ่งคาดกันว่าจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้
ทุกวันนี้เร่งวันให้ถึงเทศกาลปีใหม่ไวๆ ให้คนลืมปัญหา และข่าวคาวฉาวโฉ่เกี่ยวกับพฤติกรรมในแวดวงการเมือง ครบเครื่องเรื่องโกงกินและเรื่องชู้สาว
อันที่จริงการปรับเสนาบดีนั้น ควรต้องรีบทำเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นชาวบ้าน คนใกล้ตัวได้รับการตกรางวัลตอบแทนพอแล้ว ทั้งประเทศชาติก็เสียหายจนยากแก่การประเมิน ความเสื่อมโทรมแผ่กระจายทุกหย่อมหญ้า
ปัญหาหนี้ส่วนตัว หนี้ครัวเรือน และหนี้สาธารณะ กลายเป็นวาระแห่งชาติ ต้องถกกันยกใหญ่ว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะหลีกเลี่ยงพ้นหายนะ
ขณะเดียวกัน ไม่กี่ตระกูลในแวดวงคนรัฐบาล ต่างก็แข่งกันสร้างความร่ำรวย เพิ่มทรัพย์สิน ไม่รู้ว่ากี่ส่วนได้มาโดยวิธีการทำมาหากินโดยสุจริต
เป็นเศรษฐีหุ้นมูลค่าเป็นหมื่นๆ ล้าน โดยที่คนจนต้องยากไร้กว่าเดิม!
การปรับเสนาบดี ต้องคัดสรรเอาคนมีความรู้ ความสามารถ และที่สำคัญ ต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริต ตรวจสอบได้
วันก่อนดันมีข่าวว่า พล.อ.ชัยนันท์ เจริญศิริ รมช.คมนาคม ถูกเปลี่ยนหน้าที่จากการดูแลโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ ไปดูแลการทางพิเศษฯ
มีเสียงงึมงำว่าเห็นท่าจะอยู่ลำบาก เพราะทำงานไม่สนองความต้องการของนักการเมือง แปลง่ายๆ ก็คือ ไม่ยอมทำชั่ว หรือเปิดช่องทางให้นักการเมืองโกงบ้านกินเมืองในโครงการสนามบินนั่นเอง
และจะให้ประชาชนเข้าใจว่าคนได้รับหน้าที่แทนนั้น สามารถตอบสนองได้คล่องมือ คล่องคอ เช่นนั้นหรือ?
ทุกวันนี้ดูรายชื่อคณะรัฐมนตรีแล้ว วิญญูชนทั้งหลายคงเห็นพ้องต้องกันว่าไม่เอาไหน ไร้ความสามารถ ไร้บารมี มือไม่ถึง ขาดความน่าเชื่อถือ
แถมยังมีภาพลักษณ์ด้านความซื่อสัตย์สุจริตขาดวิ่น แหว่งๆ อีกด้วย
มันเป็นเวรกรรมของประเทศไทย หรืออะไรก็ไม่รู้ ประชาชนต้องทนทุกข์กับนักการเมืองประเภทเก่งน้อย กินหนักคำใหญ่ กะไม่แบ่งหรือเหลือให้ใคร
จนติดอันดับโลก ว่าเป็นดินแดนอภิมหาคอร์รัปชัน โกงกินกันทั้งครอบครัว ไม่รู้จักอิ่ม แถมหน้าด้านเกินกว่าใครจะทัดทานได้
แม้จะปรับเสนาบดี ก็หนีไม่พ้นคนหน้าเดิมๆ ที่โดนปรับออกไปก่อนหน้านี้ จึงเหมือนการเล่นเก้าอี้ดนตรี ใครมีเส้นสาย เงินจ่ายสมทบเข้ากองกลาง ก็มีโอกาสได้นั่งเก้าอี้แหล่งทำรายได้
จะให้ทำอย่างไรได้ ประชาชนเป็นอย่างไร ก็ได้นักการเมืองแบบนั้น หรือหัวหน้าพรรค หัวหน้ารัฐบาลเป็นคนเช่นใด ก็ได้ลูกน้อง ทีมงานแบบเดียวกัน
ทุกวันนี้เลยไม่มีคนดีอยากเป็นเสนาบดี เพราะไม่พร้อมจะกระทำความชั่วในการแสวงหารายได้เข้ากองกลาง เป็นกองทุนหนุนสู้การเลือกตั้ง
กลายเป็นว่าคุณสมบัติขั้นพื้นฐานจะต้องมีความกล้าทำชั่ว! นั่นก็คือ พวกยี้ใหญ่ ยี้น้อย ยี้ห้อย ยี้ตาหยีตาตี่ นักงาบคำโต
ยกแผงเสนาบดีมาเสนอแต่ละครั้ง เหมือนกับประจานประเทศชาติว่าสามารถผลิตประชากรคุณภาพต่ำ แถมยังโกงกินเก่งจนกลายเป็นวัฒนธรรมครอบครัว หรือเป็นตำนานเล่าขานกันนั่นเชียว
การเล่นพรรคเล่นพวก ระบบเด็กเส้น ไม่คำนึงถึงความสามารถ เอาเก้าอี้เสนาบดีปูนบำเหน็จในด้านการรังควานคนดี ได้กลายเป็นจุดด่างของประเทศ สร้างทัศนคติแบบผิดๆ ทำเยาวชนสับสนในการแยกแยะความชั่ว ความดี
ตื่นเช้าเปิดทีวีก็มีคนกล่าวผรุสวาท ก่นด่าคนอื่นว่าเป็นไอ้หน้าโง่ แส่ เสือก สร้างความอัปมงคลต่อชีวิต ความแตกแยกในสังคม
แต่ละวันแทนที่จะมีความสุข เชื่อมั่นในการนำประเทศ กลับต้องคอยเฝ้ามอง หวาดผวาว่านักการเมืองจะเอาแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนไปเซ็งลี้ เปิดช่องทางให้ต่างชาติเข้ามาครอบครองสัมปทานกอบโกยแลกกับเงินหัวคิว
เขามีสิทธิอะไรไปยกบ้านเมืองให้ต่างชาติถือครองธุรกิจ แบ่งปันกันกินทรัพย์สินของประเทศ?
มาถึงวันนี้ หลังจากเห็นการโกงกินกันอย่างตะกละตะกลาม มูมมามไม่ยอมอิ่ม เราคงต้องปลงแล้วว่า ถ้านักการเมืองชุดนี้อยู่รอด รับรองว่าประเทศไทยไม่รอดแน่ๆ นิ! อิอิอิ!!!
: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง
วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553
ถ้าเขารอด บ้านเมืองไม่รอด
เขียนโดย
Thai Writer
ที่
01:32

ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปยัง Xแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest