จากนิตยสารเนชั่นสุดสัปดาห์
รื่นรมย์ กับ Pre-Exhibition ของ ธีรยุทธ บุญมี
ธีรยุทธ บุญมี ชื่อนี้เป็นที่ร่ำลือในหมู่เพื่อนฝูงมานานสำหรับฝีไม้ลายมือทางศิลปะว่างดงามนัก!!
จึงไม่น่าแปลกใจในวันที่นักคิดนักเขียนนักวิชาการ รางวัลศรีบูรพา ท่านนี้ เปิดแสดงภาพเขียนสีน้ำและพาสเทล ขึ้นที่ สถาบันเกอเธ่ ย่านพระราม 4 จึงมีเพื่อนพ้องน้องพี่ไปร่วมงานกันตั้งแต่เนิ่นๆ ทั้งที่ยังไม่ทันจะถึงมืดค่ำตามฤกษ์ที่นัดหมายกันดีนัก ราวกับไม่สนใจแม้กระทั่งว่างานครั้งนี้จะเป็นเพียง Pre-Exhibition ยังมิใช่การจัดแสดงงานจริงๆ อย่างเต็มรูปแบบอย่างที่เจ้าตัวเตรียมจะจัดภายในเร็ววันนี้ก็ตามที
โดยเฉพาะเพื่อนพ้องหมู่ศิลปินนั้น พร้อมบรรเลงเพลงให้เจ้าของงานเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น หงา-หว่อง คาราวาน หรือ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ที่ขึ้นอ่านบทกวี โดยมี เพลงขลุ่ยผิวจาก อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และเสียงซอคลอเคล้าจาก ป่อง ต้นกล้า ร่วมวง หรือแม้กระทั่ง ณรงค์ฤทธิ์ โตสง่า หรือ 'ขุนอิน' จาก 'โหมโรง' ก็มาคอยท่าให้ 2 พ่องาน อย่าง นิวัติ กองเพียร และ ประสาร มฤคพิทักษ์ ได้สบายใจแต่หัวค่ำ
แต่ที่สร้างความประทับใจให้แก่บรรดาลุงๆ ป้าๆ ทั้งหลาย เห็นจะเป็นชุดการแสดงของน้องๆ ชนเผ่าม้ง และลั๊วะ จากจังหวัดน่าน ในโครงการ 'ความรู้กู้บ้านเกิด' ที่ ริเริ่มโดย นิด-ตี้ กรรมาชน นั่นเอง นอกจากเสียงร้องใสๆ แล้ว ก็ยังมาในชุดประจำชนเผ่าสีสวยอีกด้วย ซึ่ง อ.ธีรยุทธ เองก็ได้ถ่ายทอดความงามในจ.น่านออกมาให้ชมหลายรูปเหมือนกัน
หันไปยังโต๊ะวีไอพีกันบ้าง บุคคลที่ปรากฏในหนังสือ 'เรื่องดีๆ ของคนดีๆ' มาหลายคนทีเดียว ทั้ง สุลักษณ์ ศิวรักษ์,คำสิงห์ ศรีนอก,อานันท์ ปันยารชุน,ปรีดา เตียสุวรรณ์ ประธานเครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และ วิชัย โชควิวัฒน
รายรอบด้วยเพื่อนพ้องน้องพี่คนเดือนตุลา ที่กล่าวสวัสดีปีใหม่กันอย่างออกรส ไม่ว่าจะเป็น ประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์,น.พ.เหวง โตจิราการ ฯลฯ ร่วมด้วยคนคุ้นหน้าคุ้นตากันอย่าง วานิช จรุงกิจอนันต์,ชาญวิทย์ เกษตรศิริ,สังคม ทองมี,ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ฯลฯ
เมื่อทายทักเพื่อนฝูงเสร็จสรรพ หลายคนตรงหายเข้าไปยังบริเวณอาคารสองชั้นที่จัดแสดงงานนานทีเดียวกว่าจะกลับออกมา แต่หาใช่หลบการเบียดเสียดเป็นแน่ หากแต่เป็นสีสันที่รายเรียงตามผนังตลอดแนวทั้งชั้นล่าง และบนระเบียง นั่นต่างหาก ที่ชักชวนให้เพ่งพิศ ยิ่งใครรักชอบดอกไม้อยู่แล้วยิ่งถูกใจ เพราะส่วนใหญ่เป็นดอกไม้หลากสีหลายพันธุ์ แต่ดูเหมือนว่าคนวาดพอชอบใจดอกไม้ใด ก็จะวาดเป็นชุดๆ เราจึงได้เห็นความงามของ 'ชบา' (อย่างน้อย) ถึง 12 แบบ 'เฟื่องฟ้า' ทั้ง แดง,แสด,เหลือง,ส้ม หรือแม้กระทั่ง 'ดอกผักบุ้ง' ก็รังสรรค์มาให้ดูชมกันทั้ง 2 แบบ
จึงไม่แปลกใจอีกเช่นกันว่า เหตุไฉนเจ้าของโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงอย่าง เสถียร เศรษฐสิทธิ์ แม้ใช้เวลาไม่นานนัก แต่ก็ได้จองถึง 2 ภาพด้วยกัน ก็คือ ภาพ 'บึงบัว' และ 'ยี่เข่ง' สนนราคาก็เพียง 8 หมื่นบาท เช่นเดียวกับ ดร.วีระพงษ์ รามางกูร ที่จอง 'ป่าจังหวัดน่าน' ไว้ก่อนใคร
ทางด้าน วิชัย พูลวรลักษณ์ เจ้าของโรงหนังอีจีวี ใจเย็นรอจนดึก แต่ก็ไม่ผิดหวังเพราะประมูลภาพ 'เพทูเนียม่วงคู่' ได้สมใจในราคา 220,000 บาท เนื่องจากเป็นการประมูลพิเศษ
แต่ไม่ว่าใครจะถูกใจภาพไหนอย่างไร เจ้าของภาพจัดไว้ให้เลือกซื้อได้เพียง 50 ภาพเท่านั้น อีก 3 ภาพจัดสำหรับประมูล ส่วนที่เหลือแสดงให้ชื่นชมความงามอย่างเดียว ซึ่งในส่วนนี้ มีภาพเก่าๆ อย่าง 'ป่าบีเลเฟล (1987)','ธีรยุทธกับพุทธพรที่ชายหาดกรุงเฮก (1986)','A Gate to Nowhere' (1989) และ 'สะพานแดง' ทั้งสองรูปด้วย
จัดแสดงภาพเขียนครั้งพิเศษนี้ อ.ธีรยุทธ ตั้งใจนำรายได้ทั้งที่ขายและประมูลได้ มอบให้กับ มูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยภาคใต้
เมื่อถึงช่วงประมูล เจ้าของงานไม่อาจอยู่เฉยได้ออกไปเล่าที่มาที่ไปของรูปให้ฟังด้วย และได้ผลเสียด้วย เมื่อ 'เพทูเนียขาว' ที่เริ่มต้นด้วย 5 หมื่นบาท ขึ้นสูงถึง 1.7 แสนบาท ส่วน 'ป่าเหนือ' และ 'ชบาแดง' ก็ได้ยอดไม่ห่างกันเท่าไหร่คือ 1.5 แสนบาท และ 1.6 แสนบาท
'ภัยพิบัตินั้นเป็นเรื่องที่พ้นขอบเขตมนุษยชาติและพ้นเขตประเทศฉะนั้นการช่วยเหลือไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ต้องช่วยกัน'
นับเป็นค่ำคืนที่น่ายินดีทั้งเจ้าของภาพและคนที่ประมูลภาพจริงๆ ขณะที่หลายคนอยากให้วันแสดงนิทรรศการเต็มรูปแบบมาถึงเร็วๆ จะได้ยลโฉมภาพชุดใหม่อีกครั้งหนึ่ง!!
