: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง

วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ปกรณ์ พงศ์วราภา ชัยชนะบางอย่าง ก็ไม่มีคุณค่าพอที่เราจะใช้สรรพกำลัง

สัมภาษณ์พิเศษ / วรพจน์ พันธุ์พงศ์ คัดลอกจาก นิตยสารเนชั่นสุดสัปดาห์
ปกรณ์ พงศ์วราภา ชัยชนะบางอย่าง ก็ไม่มีคุณค่าพอที่เราจะใช้สรรพกำลัง
เคยมีใบหน้าอมยิ้มน้อยๆ ปรากฏอยู่ในพื้นที่บทบรรณาธิการนิตยสาร GM มานับสิบปี แต่หลังจากการเข้ามาของ โตมร ศุขปรีชา ใบหน้านี้ก็หายไป ปกรณ์ พงศ์วราภา ยกเวทีให้บรรณาธิการบริหารคนล่าสุดไปด้วยความปีติยินดี เพราะรู้สึกล้าเต็มทีกับงานเขียนหนังสือ
เขาอยากเอาเวลาไปดูหนัง ฟังเพลงอย่างสงบ หลังจากออกรบมานาน เหนื่อยมานาน และเป็นหนี้มานาน เมื่อทุกอย่างเข้าที่คลี่คลาย จึงขอแสวงหาความสุขบ้างหลังเลิกงาน ซึ่งจะว่าไป การบริหารจัดการนิตยสารทั้ง 9 เล่มในเครือ ก็ไม่ใช่เรื่องเบาแรง ยิ่งในยามข้าวยากหมากแพง แมลงเม่าในตลาดหุ้นอยากฆ่าตัวตายรายวัน
น้ำมันขึ้นราคา ไฟใต้ยังลุกลามคุกรุ่น เศรษฐกิจออกอาการรวนซวนเซ ใครคนอื่นเตรียมวิ่งหาที่กำบังหลบลมฝน จู่ๆ ปกรณ์กลับลุกขึ้นมาเตรียมทำหนังสือผู้หญิงเล่มใหม่-รายสัปดาห์
ว่าที่จริง ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ เขาฝันใฝ่มานานแล้วกับหนังสือผู้หญิง เพียงแต่ยังไม่สบโอกาสเหมาะ เคาะตัวเลขและคนทำงานไม่ลงตัว จนเมื่อรู้สึกอิ่ม เอียน เลี่ยน กับตลาดหนังสือบันเทิง ที่นับวันมุ่งแข่งขันกันด้านความหวือหวา รุนแรงทั้งเรื่องและภาพ-เรื่องฉาวๆ ภาพหลุดๆ เขาจึงตัดสินใจปรับ 'ทีวีรีวิว' ที่ทำมา 6 ปี เป็นหนังสือผู้หญิง ตั้งราคาขายไว้ไม่เกิน 40 บาท วางแผงเล่มแรกต้นพฤศจิกายน ปีนี้ โดยมีอดีตบรรณาธิการนิตยสาร FRONT ศันสนีย์ ทรงเกียรติธนา รับบทกัปตันทีม
ปี 2547 GM GROUP มีรายได้ทั้งสิ้น 250 ล้านบาท ผลกำไร 30 ล้านบาท มีพนักงาน 220 คน ช่วงต้นปีนี้มีนิตยสารใหม่ออกมา 2 เล่ม คือ Mother&Care กับ SME THAILAND พนักงานขยับเพิ่มขึ้นเป็น 240 คน เป้าหมายการเติบโตแต่เดิมวางไว้ที่ 20% ผ่านพ้นสองไตรมาสแรกมาแล้ว ปกรณ์ พงศ์วราภา บอกว่าปรับลงมาเหลือแค่ให้ได้เท่าปีที่แล้วก็นับว่าพอใจ
0 มีข่าวว่าหนังสือ 'ทีวีรีวิว' จะปิด ข้อเท็จจริงเรื่องนี้คืออะไร ปิดจริงไหม
ไม่ได้ปิด ผมปรับ
หกปีที่แล้วเราเข้าสู่ธุรกิจหนังสือบันเทิงเพราะมองว่าอุตสาหกรรมทีวีมีแต่ต้องเติบโต เป็นไปไม่ได้ที่สมมติทีวีเคยมี 5 ช่อง แล้วจะลดลง มันมีแต่จะเพิ่มขึ้น ฉะนั้น ถ้าเราลงทุนในอุตสาหกรรมนี้น่าจะดี ผมคิดแบบนี้ เลยลงมาทำ ถามว่าเป็นยังไงบ้าง ปีแรกเหนื่อยมาก เหนื่อยที่สุด ขาดทุนไปเยอะ แต่เรารู้อยู่แล้วว่าการทำหนังสือรายสัปดาห์ โดยเฉพาะการลงมาเล่นในตลาดนี้ มันไม่ง่าย เป็นงานหิน แต่เรามั่นใจว่าสรรพกำลังที่เรามีอยู่น่าจะสู้ได้ พอปีที่สอง สาม เราเริ่มฟื้นตัว จนมาปีที่สี่ ห้า หก ถือว่าอยู่ได้สบาย แม้ว่าเราไม่ขายข่าวหวือหวา อีกอย่างหนึ่ง เราได้สร้างสีสันให้วงการ คือทำหนังสือสวย ทันสมัย ตอนเข้ามาใหม่ๆ ทั้งวงการเป็นหนังสือขาว-ดำทั้งเล่ม ทีวีรีวิวเป็นเจ้าแรกที่พิมพ์สี่สีทั้งเล่ม ส่งผลให้หนังสือแนวนี้ที่จะเกิดใหม่ อย่างน้อยคุณต้องพิถีพิถันเรื่องหน้าตา
ทำมาเกือบครบหกปี จะขึ้นปีที่เจ็ด ถามว่าเราจะทำยังไงต่อไป ยอมรับว่าสมรภูมินี้ดุเดือดกว่าเมื่อหกปีที่แล้วชนิดที่ผมเองก็คาดไม่ถึง ที่รุนแรงกว่านั้นคือมีหนังสือพิมพ์บันเทิงรายสามวันเกิดขึ้น และตอนนี้กำลังจะมีรายวันเกิดขึ้นอีกสองเล่ม เมื่อวาน รายปักษ์เพิ่งออกใหม่เล่มหนึ่ง เกิดกันเยอะมาก เต็มแผงไปหมด เหมือนคลื่นสึนามิโถมมา
ผมเชื่อว่าถัดจากนี้ข่าวดาราประเภทแฉ ขุดคุ้ย หรือภาพข่าวเชิงปาปาราซซี่ จะดุเดือดกว่าที่ผ่านมา แข่งเรื่องความหวือหวา พาดหัวแรงๆ ซึ่งแบบนี้เราไม่ถนัด ไม่สนุกกับวิธีรบแบบนี้ ไม่ใช่วิถีทางของเรา ที่ผ่านๆ มา ทีวีรีวิวประกาศตัวชัดเจนว่าเราไม่ขายข่าวแบบนั้น เคยพยายามปรับมาเป็นหนังสือผู้หญิง มีบิวตี้ แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ เพิ่มมากขึ้น แต่ไม่พอ และโดยชื่อ ทีวีรีวิว แง่หนึ่ง มันผูกมัดตัวเราเองไม่น้อยเหมือนกัน เราไม่สามารถทำเป็นหนังสือผู้หญิงแท้ๆ ได้ ลองแล้วก็เห็นว่าลักลั่น ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ครึ่งๆ กลางๆ ฉะนั้น เมื่อแนวรบด้านนี้ดุเดือด ผมจึงตัดสินใจว่าขอเคลื่อนสรรพกำลังที่มีอยู่ไปสู้แนวรบด้านอื่นดีกว่า
0 ขณะที่คนอื่นๆ มองว่าสมรภูมิคือบ่อทองคำ เป็นขุมทรัพย์ นักธุรกิจหน้าใหม่ๆ ก็จะเข้ามากันอีกเต็มเลย ทำไมคุณถึงเลือกที่จะถอย
ถ้าตรงนี้เป็นเค้กก้อนหนึ่ง มันก็เป็นเค้กที่ผมไม่สนใจแล้ว ผมรู้แล้ว เข้าใจแล้ว และคิดว่าเอาสรรพกำลังไปทุ่มเทให้กับหนังสือผู้หญิงที่ผมอยากทำมานานดีกว่า คิดง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน ถ้าผมปรับทีวีรีวิวเป็นหนังสือผู้หญิงจริงๆ จะเกิดอะไรขึ้น ถามว่ากลุ่มคนอ่านจะลดลงไหม ตอนนี้เท่าที่เราดู กลุ่มคนอ่านเป็นผู้หญิงทำงาน เป็นคนชั้นกลางเยอะเกินครึ่ง ซึ่งคนละตลาดกับหนังสือบันเทิงเล่มอื่น ฉะนั้น ถ้าเราปรับเป็นหนังสือผู้หญิง โอเค น่าจะมีคนอ่านส่วนหนึ่งที่ชอบข่าวบันเทิงหายไป นี่เรื่องธรรมชาติ หนังสือใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมา ยิ่งจากข่าวที่เร็วขึ้น มีรายวัน รายสามวัน คนอ่านส่วนหนึ่งของเราต้องถูกแชร์อยู่แล้ว แต่ผมถามว่าจะหายไปหมดเลยไหม ไม่มีใครตอบผมเลยว่ารับรองหายหมด ทุกคนบอกว่าอย่างเก่งก็หายไปครึ่งหนึ่ง เท่ากับว่าเรามีฐานครึ่งหนึ่งอยู่ในมือ และหน้าที่ของเราก็คือไปหาคนอ่านกลุ่มใหม่ที่เป็นผู้หญิงทำงานอีกครึ่งหนึ่ง
ในเรื่องของโฆษณา แน่นอน เมื่อเราปรับเป็นหนังสือผู้หญิง โฆษณาก็ต้องเคลื่อนตามไปเป็นสินค้าอีกแบบ แต่ทุกวันนี้เราก็มีโฆษณาอยู่หลายตัวที่ไปกันได้กับหนังสือผู้หญิงแนวทางใหม่ที่เราจะปรับ พูดง่ายๆ ว่าเรามีทุนอยู่แล้วครึ่งหนึ่ง ไม่ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ข้อดีอย่างหนึ่งคือ เรามีประสบการณ์ คือถ้าอยู่ดีๆ จะออกหนังสือผู้หญิงรายสัปดาห์ ผมว่าเป็นงานหินมาก สุดหินเลย แต่เรามีฐาน มีประสบการณ์ เราไม่กลัวว่าจะออกไม่ทัน เพราะหกปีที่ผ่านมาทีวีรีวิวออกตรงเวลามาตลอด ไม่เคยพลาดแม้แต่ครั้งเดียว
0 การปรับครั้งนี้ คุณคิดว่าคุณพ่ายแพ้จากสมรภูมิหนังสือบันเทิงไหม
ยังไม่แพ้นะ แต่อนาคตเหนื่อยแน่ ถ้าเรารู้ว่าฝนจะตก ทำไมเราไม่หลบฝนก่อน ทำไมต้องรอให้เปียกปอน ผมพูดเสมอว่าไม่ได้ปิด เราเพียงแต่ปรับ และออกใหม่ต่อไปเลย
0 ต้องเลย์ออฟคนเก่าออก
เกือบจะทั้งหมด เพราะคนเก่าเขาถนัดหนังสือแนวทางบันเทิง ขณะที่ความตั้งใจกับเล่มใหม่ เราจะทำหนังสือที่สวย ทันสมัย เป็นผู้หญิงทำงาน ฉะนั้น ต้องใช้บุคลากรอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ก็เข้ามาทำงานแล้ว ส่วนทีมเก่า เราก็ไม่ได้ให้เขาออกเฉยๆ มีการจ่ายชดเชยถูกต้องทุกอย่าง เรื่องนี้ได้แจ้งพนักงานทุกคนแล้ว
0 อยู่ในวงการมานาน ทุกคนก็เห็นว่าผู้หญิงมีเกลื่อนกลาดจนไม่มีแผงจะวาง คุณมองเห็นช่องว่างตรงไหน ยังมีอะไรน่าสนใจอีก
เคยมีคนถามผมว่าตลาดแมกกาซีนเมืองไทยยังมีเซ็กเมนต์อะไรว่างอีกไหม ผมบอกว่าไม่มี ตอนนี้หนังสือมีครบหมดทุกหมวดหมู่แล้ว แม้กระทั่งหนังสือหมา แมว เลี้ยงปลา แต่ตอบแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าจากนี้ไปจะไม่มีหนังสือเกิดใหม่เพราะมันเต็ม ไม่ใช่ ผมเชื่อว่าแต่ละเซ็กเมนต์ยังมีช่องว่างหรือความลับรอให้ค้นพบ หนังสือผู้หญิง แม้ว่ามีมากมายเหลือเกิน แต่ผมเชื่อว่ายังมีความลับรอให้ค้นพบเช่นกัน
เวลาที่ผมบอกว่าจะทำหนังสือผู้หญิง มักมีคนถามว่าเหมือนเล่มนั้นเล่มนี้ใช่ไหม ผมบอกก็มีส่วน แต่มีหลายอย่างที่แตกต่างจากคนอื่น ไม่งั้นก็ไม่มีเหตุผลที่จะทำ สิ่งที่ผมเชื่อว่าเราจะต่างจากคนอื่นคือความเป็นรายสัปดาห์ พูดเรื่องนี้ขึ้นมาทุกคนถือเป็นเรื่องน่ากลัว เป็นเรื่องใหญ่ ผมถามกลับว่าทุกวันนี้หนังสือรายเดือนระดบท็อปไฟว์ วางตลาดวันที่ 1-5 แต่ละเล่มหนา 300-400 หน้า ช่วง 5 วันแรกของเดือน ผู้หญิงไทยจะโดนถล่มจากหนังสือเหล่านี้ราว 2,000 กว่าหน้า ถูกไหม แล้วถ้าเราลงไปอีกคน มันจะไหวหรือ ความเป็นหนังสือรายเดือนเกิดขึ้นมาเป็นร้อยปีแล้วมั้ง สภาพสังคมร้อยปีที่แล้วกับตอนนี้คนละเรื่องนะครับ เวลานี้อะไรๆ ก็เร็วขึ้น ผมยังสงสัยว่าในเมื่อหนังสือบันเทิงเป็นรายวันได้ แล้วทำไมหนังสือผู้หญิงจะเป็นรายสัปดาห์ไม่ได้ ผู้หญิงไม่ต้องการเสพอะไรที่เร็วขึ้นหรือ โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงาน ผมย่อย คัดสรร ทอนให้คุณอ่านสัปดาห์ละ 80 หน้า อ่านง่ายกว่า เร็วกว่า และคุณภาพก็เทียบเท่าหนังสือรายเดือน แบบที่เราถนัด
ผู้หญิงจะมีทางเลือกมากขึ้น จากเดิมที่ต้องรอเดือนละครั้ง และจุกตายตอนวันที่ 1-5 คุณมีโอกาสมานั่งเสพทุกสัปดาห์ สินค้าที่จะลงโฆษณาก็ไม่ต้องรอเป็นเดือนๆ ทุกอย่างเร็วขึ้นตามโลก
0 มีแต่เรื่องเวลาเท่านั้นหรือที่เป็นจุดเด่น แล้วเนื้อหาล่ะ
แฟชั่น บิวตี้ สุขภาพ คงขาดไม่ได้ มันเป็นชีวิตวันนี้ของผู้หญิง แต่เรื่องที่เราพิถีพิถันมากคือบทความและสารคดีที่เสนอเรื่องทางสังคม สิ่งแวดล้อม การทำงาน ความเข้าใจเรื่องเพศ ซึ่งมีมุมมืดที่เราอยากนำเสนอ จะเข้มข้นตรงนี้ เราไม่อยากทำหนังสือที่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีมันสมอง
0 ใช้เงินมากน้อยแค่ไหน คุณคิดดีแล้วหรือถึงกล้าลงทุนช่วงนี้
ต้องใช้เงินลงทุนพอสมควร แต่บางทีเรากำหนดตัวเองไม่ได้ว่าช่วงไหนจะบุก จะถอย สภาพการณ์ไม่เอื้อให้เราตามใจได้ทุกครั้งหรอก อย่างที่บอก ใครจะไปรู้ อยู่ๆ หนังสือบันเทิงรายวันก็เตรียมจะเกิดขึ้นใหม่สองเล่ม เราเองก็ต้องเดินหน้าของเราไป แม้ว่าช่วงเศรษฐกิจไม่ดีเท่าไร
0 กังวลบ้างไหมกับปัจจัยทางเศรษฐกิจ
ถ้าผมดันทุรังทำทีวีรีวิวต่อไป ผมก็ต้องเจอปัญหาเดียวกันนี้ พูดง่ายๆ ว่าถ้าคุณเป็นนักรบ ยังไงคุณก็ต้องรบ จะมาบอกว่านักดาบคนนั้นอย่าเพิ่งมาท้าดวลนะ มันไม่ได้ ก็เขามาแล้ว หน้าที่เราคือต้องคิดว่าจะสู้แบบไหน การสู้ไม่ได้หมายถึงออกไปดวลดาบและแทงกันตายไป ไม่ใช่ ถ้าเราถอยร่นไปอยู่อีกเมืองหนึ่ง มันจะเป็นไรไป ในเมื่อเรายังมีชีวิตอยู่ ทำไมจะต้องไปแลกเลือดเสียเนื้อกันให้เป็นซากศพกองเป็นภูเขาอยู่ที่เก่า ไม่เห็นมีประโยชน์ เรามีสรรพกำลังและเห็นช่องทางอื่นดีกว่า เราก็เคลื่อนย้ายไป อยู่ตรงนี้ เรารู้ว่าแนวรบด้านไหนหนักหนาสาหัส เรื่องอะไรจะไปฝืนทำอะไรที่เราไม่สนุกกับมัน และชัยชนะตรงนั้นอาจไม่มีคุณค่าพอที่เราจะไปสูญเสียสรรพกำลังอีก แข่งกันพาดหัวข่าวให้หวือหวา มันไม่เห็นสนุกตรงไหน อะไรก็ไม่รู้ เราไม่ต้องการทำแบบนั้น
0 คุณกำลังจะบอกว่าหนังสือบันเทิงวันนี้ต้องหวือหวาเท่านั้น
ก็ไม่จริงหรือ ทุกคนจะตื่นเต้นกับพาดหัวที่แรงๆ ไปงานไหนก็จ้องแต่ว่านางแบบจะนมหลุดเมื่อไร และเอามานำเสนอ แล้วมันจะไปหลุดได้เยอะแยะกว่านี้อีกหรือ แข่งกันเล่นข่าวดาราคนนี้เลิกกับคนโน้น มีมือที่สาม ที่สี่ จริงหรือไม่จริง ไม่รู้ คุณเขียนให้เขารัก เขาเลิกกันไปก่อน แล้วค่อยมาตามแก้ข่าว ผมว่ามันไม่สนุก ชัยชนะบางอย่างไม่มีคุณค่าพอที่เราจะไปสูญเสียสรรพกำลัง
0 คุณตั้งใจไว้ว่าจะสู้นานเท่าไร
ปีเดียวก็รู้เรื่องว่าที่เราเปลี่ยนนี้มาถูกทางไหม สนุกไหม มีอนาคตไหม สำหรับรายสัปดาห์ นี่เป็นหนึ่งปีที่ยาวนานพอสมควร มีคนถามว่าเตรียมเงินไว้เท่าไร ผมบอกไม่ต้องเตรียมเลยเพราะมันลงทุนเท่าเดิม เท่าทีวีรีวิวทุกอย่าง อย่าลืมว่าทีวีรีวิวไม่ได้พิมพ์น้อยนะครับ หนังสือแนวนี้ต้องพิมพ์เยอะ สมมุติผมพิมพ์เท่าเดิม การลงทุนก็เท่าเดิม ถูกไหม เวลาคุณทำหนังสือเล่มหนึ่ง ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงเลย์เอาท์ให้สวยขึ้น พิถีพิถันเรื่องภาพมากขึ้นค่ากระบวนการผลิตไม่ได้เพิ่มนะ กระดาษแบบเดิม คุณพิมพ์เนื้อหาอะไรลงไป มันก็ราคาเดิม ค่าเพลทก็เท่าเดิม เรื่องการทำงาน ทีวีรีวิวใช้คน 15 คน เมื่อทำหนังสือผู้หญิง เราใช้คนลดลงเกือบครึ่ง คือประมาณ 8 คน เพราะทำหนังสือบันเทิงต้องมีนักข่าวประจำกองถ่าย ไปประจำแต่ละช่องทีวีเยอะแยะไปหมด คุณเอาเงินเดือนตรงนั้นมาจ่ายคน 8 คน มันจะไปเพิ่มขึ้นได้ยังไง
ถามว่าเตรียมเงินไว้ขาดทุนไว้เท่าไร ไม่ได้เตรียมเลย เพราะใช้เงินเท่าเดิม แต่กำลังเดินทางไปสู่สมรภูมิที่เปิดกว้างขึ้น ที่เราสนุกขึ้น ที่น่าจะมีชัยชนะที่เราเห็นว่ามีคุณค่าพอที่จะอยากชนะ
ผมรู้ว่ามันไม่ง่าย แต่เรามีต้นทุนเดิมครึ่งหนึ่ง ทั้งจากคนอ่านและลูกค้าโฆษณา เราไม่ได้เช่าออฟฟิศใหม่ ผมถึงบอกว่าไม่ได้ปิดทีวีรีวิว เราเพียงแต่ปรับเปลี่ยน แต่เป็นการปรับเปลี่ยนครั้งแรกของประเทศไทยมั้ง หรือครั้งแรกของโลก ที่เปลี่ยนทีเดียวร้อยเปอร์เซ็นต์ เปลี่ยนทั้งทีมงาน ชื่อหนังสือ เนื้อหา
0 เรียกว่ามีปมด้อยได้ไหม คล้ายๆ กับว่าถ้าทำหนังสือผู้ชายอย่างเดียว มันไม่พอ เห็นคุณพูดมานานแล้วว่าต้องทำหนังสือผู้หญิงให้ได้...
ไม่ได้เป็นปมด้อย ไม่มีปมอะไรทั้งนั้น ผมเห็นว่าตลาดมีช่องว่างให้ทำ ก็ทำ หลายปีที่ผ่านมา ผมยังค้นไม่พบความลับนี้ว่าจะแทรกเข้าไปยังไง คิดมาตลอด แต่ไม่พร้อม และปัญหาหนี้สินก็ยังมีอยู่ ตอนจะทำเรื่องเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เขาถามว่าคุณมีแผนงานจะทำอะไรบ้าง เราบอกว่าเป้าหมายหนึ่งคือการออกหนังสือผู้หญิง แจงไว้ชัดเจน แม้ไม่ได้เข้า แต่ถึงวันหนึ่งถ้าพร้อม ผมก็ทำ ยอมรับว่าตอนแรกที่ผมคิดคือหนังสือรายเดือน แต่ในเมื่อผ่านมาหลายเดือนหลายปี ผมค้นความลับนี้ไม่เจอ ไม่มีทีมงาน และอย่างที่บอก ทำไมเราต้องไปอัดกันอยู่ตรงวันที่ 1-5 ด้วย เขามีอยู่ 5 เล่มแล้ว คุณจะเบียดเข้าไปอีกหรือ ขณะที่ตรงนี้ เวลานี้ หนังสือผู้หญิงรายสัปดาห์มีเล่มเดียวคือลิซ่า แต่เราก็นำเสนอคนละอย่าง เป็นเรื่องราวของคนไทย
0 ในเรื่องสั้น หรือบทบรรณาธิการที่เขียนก็ดี คุณมักพูดถึงผู้หญิงบ่อยๆ ในหนังสือเล่มใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในไม่ช้านี้ คุณอยากจะสื่อสารอะไรกับผู้หญิง
ผมสังเกตว่าในหนังสือผู้หญิงไม่ค่อยมีสกู๊ปหรือสารคดีที่สะท้อนปัญหาสังคมที่เข้มข้นพอ ส่วนใหญ่สารคดีที่ดีๆ มักอยู่ในหนังสือผู้ชาย เมื่อมาทำเล่มนี้ เราคิดว่าอยากทำ เมื่อได้เจอตัวบรรณาธิการ เราถามตั้งแต่แรกว่าจะทำยังไงให้หนังสือเล่มนี้แตกต่างจากหนังสือผู้หญิงเล่มอื่นๆ ก็ได้คำตอบว่าต้องมีเรื่องหนักๆอย่างที่ว่า ใครจะบอกว่าผู้หญิงไม่ชอบอ่าน ผมว่าไม่จริง อย่าง GM เวลานี้มีผู้หญิงอ่านอยู่ถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ เพราะอยากเสพเนื้อหาสาระ ไม่ใช่วันๆเอาแต่ชอปปิ้งกับแต่งตัว ซึ่งผู้หญิงมักถูกมองแบบนั้น สรุปง่ายๆ ว่า เราจะทำหนังสือผู้หญิงให้มีความคิด มีสมอง ไม่ใช่คิดแต่จะซื้ออะไร เซ็กซี่แบบไหน
จะประสบความสำเร็จหรือเปล่า ผมว่าอยู่ที่ทีมงาน ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าเขาทำได้ ยอมรับว่าผมหาคนทำงานไม่ได้มานาน จนเมื่ออาทิตย์สองอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้เจอคนที่รู้สึกว่าใช่
วัฒนธรรมของที่นี่อย่างหนึ่ง เราจะไม่ทำอะไรโดยไม่พร้อม จะไม่ออกข่าวเหมือนพวกที่เอาหนังสือหัวนอกเข้ามา โดยที่คนทำงานคือใครยังไม่รู้เลย ผมเปรียบว่าเหมือนคุณซื้อเรือยอร์ชมาและวิ่งออกทะเลไป เป็นผม ผมไม่กล้าทำแบบนั้น ยังไงผมต้องมีกัปตันก่อน อย่างน้อยต้องมั่นใจว่าเขาจะไม่นำพาเรือยอร์ชของผมไปอับปางกลางทะเล หรือชนหินโสโครกที่ไหน หรือถ้าจะเจอ เขาก็ต้องแก้ปัญหาได้ วันไหนที่เราบอกว่าเราจะไปตรงนั้นแล้ว ก็ขอให้เชื่อเถอะว่าผมมั่นใจในตัวกัปตันแล้ว เรามีกัปตันแล้ว เราถึงจะออกเรือ
0 มีกัปตันแล้วคุณลงไปล้วงลูกเยอะไหม
เวลาเปลี่ยนแปลงแต่ละครั้ง ยอมรับว่าผมใส่ใจกับมันค่อนข้างมาก แต่ถ้าไปได้แล้ว ผมก็ไม่ยุ่ง ไม่ได้หมายความว่าไม่สนใจเลย ผมจะมองดูห่างๆ เพราะแต่ละเล่มมีคนรับผิดชอบอยู่แล้ว ค่อนข้างปล่อย เพราะผมชอบมีเวลาดูหนัง ชอบออกไปเดินดูข้าวของทันสมัย ผมอยากมีเวลา ถ้าลงไปล้วงลูกหมดเลย ตั้ง 9-10 เล่ม จะเอาเวลาที่ไหนไปทำอย่างอื่น ทีมที่มีอยู่ก็เป็นมืออาชีพเก่งๆ กันทั้งนั้น ทำไมจะต้องลงไปล้วงลูกมาก ล้วงลูกมาก แสดงว่าไม่ไว้ใจคนทำงานสิ แล้วคุณจะมีพวกเขาไว้ทำไม ถ้าไม่ไว้ใจ แน่นอนว่ายุทธศาสตร์ไปสู่สนามรบ การเคลื่อนทัพไปสู่สมรภูมิอื่น ผมต้องหายุทธวิธี กำหนดทิศทาง และให้กำลังใจคนทำงาน
การจะเริ่มต้นใหม่ หรือเปลี่ยนแปลง ต้องมีคนไม่มั่นใจ เขาอาจมองว่าผมนิ่งๆ ไม่ค่อยปลุกระดมเท่าไร ผมอยากบอกว่าคุณเชื่อเถอะ ผมอยู่มานาน อ่านหน้าไพ่ออก ถ้าไพ่ขึ้นมาเจ็ดใบเจ็ดอย่าง คุณไม่ต้องหน้าซีดหรอก ไม่มีประโยชน์ที่คุณจะหน้าซีด เดี๋ยวจั่วไปก็มีคู่ของมันเอง อีกอย่าง การสร้างสิ่งใหม่ๆ เราไม่ได้เปลี่ยนแปลงนอกเหนือจากที่เราเป็นอยู่ ถ้าแหกออกไปเลยแบบนั้นอาจน่ากลัว แต่นี่อยู่ในไลน์ที่เราถนัด เราทำหนังสือมาทั้งชีวิต
0 แต่คุณก็ไม่เคยทำหนังสือผู้หญิง
มันเป็นหนังสือใช่ไหมล่ะ แล้วคนอื่นตอนเริ่มต้น เขาก็ไม่เคยทำเหมือนกัน เพียงแต่เขาอาจจะไม่เคยก่อนผมเท่านั้นเอง ผมไม่เคยช้าหน่อย แต่การไม่เคยช้ามีข้อดีเหมือนกันที่ได้เห็นจุดอ่อนจุดแข็งของคนอื่น
0 ในโลกของแมกกาซีน คุณคิดว่าคุณทำได้ทุกแนวไหม ถ้ามีกัปตัน
ได้ เครือจีเอ็มตอนนี้มี 9 เล่ม 9 เซ็กเมนต์ ก็ดีที่เราไม่ได้อยู่ในตลาดใดตลาดหนึ่งแค่นั้น
0 หนังสือผู้หญิงน่าจะโหดสุด
นาทีนี้ ผมว่าตลาดหนังสือบันเทิงโหดที่สุด เกิดกันทุกวัน ผมถึงบอกไงว่าพอแล้ว หันไปเล่นเกมใหม่ๆดีกว่า ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ผมเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเสมอ ชีวิตผมที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงแล้วแย่ลง และผมเชื่อมั่นในการเปลี่ยนแปลง ถ้าใครมาบอกผมว่า คุณเปลี่ยนไป ผมชอบนะ เพราะถ้าทุกคนบอก คุณไม่เปลี่ยนเลย ยี่สิบปีก่อนเป็นยังไง เดี๋ยวนี้ก็เป็นอย่างนั้น ผมว่ามีปัญหา กลุ้มใจตายเลย (หัวเราะ) ถ้าเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ได้ โลกเปลี่ยน เราเองก็เปลี่ยน ใครจะมามีชีวิตอย่างเดิมตั้งแต่เกิดจนตาย เป็นไปไม่ได้
0 ปีเดียวสั้นหรือยาวกับการชี้ขาดชีวิตหนังสือเล่มหนึ่ง
ผมว่าพอดี ยิ่งรายสัปดาห์ เรามีบทเรียนมาแล้วว่าเหนื่อยขนาดไหน บาดเจ็บขนาดไหน การที่เราทำหนังสือผู้หญิงรายสัปดาห์เล่มใหม่ ผมจะต้องไม่เจอบทเรียนที่เจ็บปวดเช่นในอดีตอีก อะไรเจ็บหนัก ผมไม่เอาแล้ว
0 ยกตัวอย่างได้ไหม อะไรบ้างที่เจ็บปวด
แรกสุด คือการทำงานเป็นทีม ถ้าไม่แข็งแรง น่ากลัวมาก หนังสือจะออกไม่ทัน ผมเคยมีประสบการณ์นั้น ตอนวันเปิดตัว กำหนดเวลาไว้หกโมง หนังสือเสร็จไปถึงงานหกโมงพอดี มันน่ากลัว ไปอุ่นๆเลย ทำไมถึงไม่เสร็จล่วงหน้าสักวันสองวัน ผมผวาแล้วว่าอาทิตย์ถัดไปจะเป็นยังไง นั่นคือสิ่งที่ต้องลงมาดูอย่างเร่งด่วน ว่าจากนี้ไปอาทิตย์ต่ออาทิตย์ มันจะไหวหรือ ต้องปรับการทำงาน
เรื่องอื่นๆ พอทำไป เรารู้ตัวว่าไม่ถนัดขายข่าวหวือหวา ธรรมชาติเราไม่ใช่แบบนั้น แต่ลงไปในสนามนี้แล้ว กว่าจะรู้ว่าไม่ใช่ เราเดินทางผิดไปเป็นปี หมดไปเยอะ ฉะนั้น ถัดจากนี้ต้องแม่นแล้วว่าไปตรงไหน รู้ทิศทางลม
0 รู้สึกว่าน่าจะเครียดขึ้นไหม
ไม่เครียด ก็ชีวิตมันผ่านมหาสมุทรมาแล้ว ตรงนี้แค่แม่น้ำลำคลอง จะไปเครียดอะไร นี่คือผลดีของการผ่านความทุกข์ยากร้อยแปดมาแล้ว ปี 2540 หนักหนาสาหัสกว่านี้เยอะ แม้แต่หนังสือทีวีรีวิวเองก็เคยผ่านความเครียดในช่วงปีสองปีแรกมาแล้ว เรารู้แล้วว่าแบบไหนเครียดและจะไปแส่หาทำไมอีก ถ้าทำต่อสิเครียด มันไม่สนุกแล้วในสมรภูมินี้ คนอื่นสนุกก็ทำไป ผมพอแล้ว ไปรบทางอื่นดีกว่า ตอนที่ผมหยุดทำหนังสือ M ทำมาสี่ปี ทั้งที่ตอนหยุดก็มีกำไร คนงง ไม่เข้าใจ แต่ผมพอแล้ว ผมเคยบอกไม่ใช่หรือว่าผมรู้จักพอ แต่พอตรงนี้บางทีก็ยังอยากตรงนั้นอยู่ (หัวเราะ)
ต่อไป ถ้ามีช่องทางใหม่ๆ ผมอาจออกเล่มใหม่อีกก็ได้ แต่ตอนนี้คิดเรื่องนี้ก่อน เอาทีละอย่าง อย่างอื่นเดี๋ยวค่อยคิด หรือถ้าคิดไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร ขอให้ทำหนังสือรายสัปดาห์ให้ติดเถอะ คุณจะคิดอะไรอีก แค่นี้ก็มหาศาล เชื่อเถอะ หนังสือผู้หญิงรายสัปดาห์ต้องมีมากอีก เตรียมใจไว้เลย เราไม่อาจอยู่สงบๆได้หรอก ถ้าคุณเป็นนักดาบ ก็ต้องมีคนมาท้าดวลดาบเรื่อยๆ เป็นหน้าที่ของเราว่าจะเลือกดวลกับใคร เราคงไม่ซี้ซั้วไปดวลกับทุกคนใช่ไหม เพราะบางคนก็ไม่คู่ควรที่จะไปดวลด้วย
0 คุณมั่นใจแค่ไหนกับหนังสือเล่มนี้
ทุกครั้งที่ทำอะไรใหม่ๆ ต้องมั่นใจเราถึงจะลงไป ผมไม่อาจบอกได้ว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ต้องเกินครึ่ง ถ้า 50-50 เราจะไม่ทำ