สุดยอดหุ้นลม!

บทความโดย โสภณ องค์การณ์

สุดยอดหุ้นลม!
การลงทุนทุกอย่างย่อมมีความเสี่ยง จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับเดิมพัน นักลงทุนในหุ้นลมโดยอาศัยอิทธิพลการเมือง ตำแหน่งหน้าที่การงานหรืออะไรก็แล้วแต่ นับว่าจัดอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงต่ำ เว้นเสียแต่ว่าชะตาพลิกผันฉับพลัน เกิดเหตุการณ์ตาลปัตร เปลี่ยนขั้วอำนาจ อาจนำไปสู่การขาดทุนยับเยิน
นักลงทุนธุรกิจการเมืองถือหางค่ายแกงโฮะ กำลังรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง นับวันสภาวะขาลงมีแต่เลวร้าย ผลสุดท้ายจะลงอย่างไรนั้น เดายากจริงๆ สถานการณ์แต่ละวันอ่อนไหว อะไรที่ว่าไม่น่าจะเกิด ก็เกิดขึ้นได้

ถ้าสถานการณ์สุกงอมจนผู้คนในสังคมรู้สึกว่าสิ้นความอดทนต่อสภาพบางอย่าง เหมือนฟางเส้นสุดท้ายบนหลังอูฐนั่นแล

ดังนั้น พวกไม่ยอมตกอยู่ในความประมาทย่อมเตรียมหนทางหนีทีไล่ไว้ให้พร้อม ลูกน้องส่วนมากไม่ยอมตายตามเจ้านาย นอกจากมีการอุปถัมภ์ค้ำจุนกันมาดั้งเดิม อยู่ในสภาพบ่าวไพร่หรือขันทีประจำครอบครัว

ขนาดคนเคยทระนง เชื่อมั่นในอำนาจวาสนาสุดๆ ตอนนี้ยังต้องเปลี่ยนที่นอน สลับจากคฤหาสน์หลังใหญ่ ไปอยู่บ้านใกล้สนามกอล์ฟดอนเมืองโน่น

เหมือนกับว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นจะได้เผ่นทันการณ์!

จากนี้ไปคนวงในใกล้ชิดการเมืองจริงๆ ต้องรับรู้เรื่องราวเล่าขานแปลกๆ ท่ามกลางบรรยากาศอึมครึมสุดๆ จะมีเสียงใครฮึ่มๆ ฮั่มๆ แบบพฤติกรรมหลงยุคสมัยประชาธิปไตย ชาวบ้านก็ไม่ใส่ใจ

ตั้งตาคอยดูสวนลุมฯ วันศุกร์ว่า 'จะมีถึงแสนคนหรือไม่?'

ถ้าเกินแสนคน เกินไปมากเท่าไหร่? อีกนานมั้ยจะถึง 2 แสน! อะไรทำนองนั้น ฟังแล้วเป็นคำถามสร้างความหวาดหวั่นพรั่นพรึงต่อกลุ่มผู้ใกล้สูญเสียอำนาจ ถึงได้ออกอาการฟาดงวงฟาดงา ลิ่วล้อดาหน้าออกมากล่าวหาว่ามีคนจ้องล้ม

วันก่อนมีคนอ้างด้วยท่าทางไร้เดียงสา หาว่าค่ายสะตออยู่เบื้องหลัง 'เสี่ยสนธิ' หวังจ้องล้มผู้มีอำนาจ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงก็คือ ถ้าค่ายสะตอมีศักยภาพอย่างนั้น ต้องไปอยู่เบื้องหลังทำไม นำหน้าไม่ดีกว่าเรอะ

อีกไม่กี่อึดใจรอก็รู้ว่าจะแสนหรือ 2 แสน สิ่งที่คนอยากรู้ก็คือ จากนั้นอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนั้นต่างหาก ดังนั้นเดิมพันการสัประยุทธ์ครั้งนี้สูงมาก

แต่นั่นยังไม่เกิด ขณะนี้มีกลุ่มผู้สูญเสียแบบเฉียบพลันแล้ว เป็นกลุ่มนักลงทุนเก็งกำไรในหุ้นจองของ กฟผ. ซึ่งพลาดหวังจากการเข้าตลาดหุ้น หลังจากคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดเป็นกระดูกชิ้นโตขวางคอนักฮุบสมบัติชาติ

หุ้นราคาจองจัดสรรสำหรับพนักงาน กฟผ. นั้น ราคา 10 บาท ส่วนราคาเสนอทั่วไปอยู่ที่ 28 บาท ถูกยิ่งกว่าได้เปล่า

กำไรมองอยู่เห็นๆ พนักงานก็แห่กันกู้เงินจากแหล่งต่างๆ เอามาจองไว้ ดูอย่างไรก็ไม่มีวันขาดทุน นักฮุบสมบัติชาติวางแผนแยบยลเสนอขายหุ้นราคาถูกเป็นบ้า เพราะพวกตัวเองอยากซื้อไว้ หวังกำไรจากการปั่นในอนาคต

พวกเงินหนาเป็นเครือข่ายรัฐมนตรี คนเจ้ากี้เจ้าการขาย กฟผ. ขนเงินมาตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นจากพนักงาน กฟผ. ในราคา 18 บาท พนักงานได้กำไรทันที 8 บาท ส่วนขบวนการเพื่อนนักขายชาติกะว่าจะขาย 28 บาทเมื่อหุ้นเข้าตลาด

กำไรก็มองเห็นๆ เช่นกัน!

แต่วิมานดันทลายกะทันหัน เหมือนฟ้ามีตา เจตนาแกล้ง นักลงทุนนอกตลาดขนเงินก้อนโตจ่ายให้พนักงาน กฟผ. เรียบร้อยแล้วหลายร้อยล้าน หรือพันล้านบาท แต่ไม่ได้ใบหุ้น เพราะศาลสั่งระงับการขาย

และที่แน่ๆ ก็คือผลสุดท้าย ใครก็ซื้อหุ้น กฟผ. ไม่ได้ เพราะผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายศาลปกครอง!

แล้วเป็นไง? เงินจ่ายไป หุ้นไม่มี มีแต่ใบโอนสิทธิ จะไปโอนอย่างไร ในเมื่อไม่มีหนทางจะแปรรูป กฟผ. ได้ จะอ้างกฎหมายอะไรก็ตาม

หัวโจกโครงการขายสมบัติแผ่นดิน จะมีที่อยู่ที่กินหรือเปล่าก็ยังไม่รู้!

คนจ่ายเงินจะทวงคืนอย่างไร ร้องไห้น้ำตาเป็นสายเลือด พนักงาน กฟผ. คนขายหุ้นให้ก็ไม่คืน เพราะเอาไปใช้เจ้าหนี้หมดแล้ว ส่วนกำไร 8 บาทต่อหุ้นนั้น ถือว่าเป็นอ้อยเข้าปากช้าง พนักงาน กฟผ. สบายแฮ!

ด้วยเหตุนี้เอง จึงมีเสียงเรียกร้องจากพนักงาน กฟผ. ให้ยกเลิกการนำหุ้นเข้าตลาด ไม่เอาแล้ว! ขอให้เก็บสมบัติของชาติไว้ดีกว่า ไม่อยากให้ตกอยู่ในมือต่างชาติหรือนักลงทุนประเภทฝรั่งหัวดำ ตาตี่

งานนี้เจ็บปวดมากสำหรับพวกพ้องรัฐมนตรี เห็นหน้าตาตอนออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องหุ้น กฟผ. ทีไร สภาพไม่ต่างจากศพเท่าไหร่ ดูไม่ได้เอาจริงๆ

ทำอย่างไรได้ ใครจะนึกว่าผลกำไรก้อนงาม มองอยู่เห็น จะกลายเป็น 'หุ้นลม' ไปได้ วอดวายไปเท่าไหร่ ต้องรอการประเมิน

โฮ่ย! งานนี้ขโมยไก่ไม่ได้ แถมยังต้องเสียข้าวสารหลายกระสอบ!

นี่แหละหนา เขาถึงว่าความโลภนั้นไม่ปรานีใคร เห็นเงินในกระเป๋าคนอื่นแล้วตาโต ผลสุดท้ายก็ต้องตาโหลไร้แววอย่างนี้แหละ

เป็นความเจ็บแสบสุดๆ แม้จะ 'วิเศษ' แค่ไหน ก็ยังมีวันพลาด ไม่ใช่เสียหายเป็นเงินบาทสองบาท แต่หลายร้อยล้าน แล้วจะตอบคำถามพรรคพวกนักลงทุนให้หุ้นลม กฟผ. ได้อย่างไร

เวรกรรมตามทันรวดเร็วอย่างนี้ แสดงว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องสมบัติของชาติมีจริงอย่างที่เชื่อกันนิ! อิอิอิ!!!