: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง

วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

น้ำท่วมที ก็เต้นที

บทความโดย โสภณ องค์การณ์

น้ำท่วมที ก็เต้นที
ช่วงนี้เป็นฤดูกาลน้ำท่วม และยังคงจำกัดเฉพาะภาคเหนือเท่านั้น ความแห้งแล้ง ฝนขาดช่วงยังคงเป็นไปในภาคอีสาน โดยเฉพาะโคราช และภาคตะวันออก ทำเอานิคมอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อยู่ในสภาพใกล้เดี้ยงเต็มที

น้ำท่วมภาคเหนือทุกครั้งก็จะฟ้องให้เห็นสภาพของการตัดไม้ทำลายป่าต้นน้ำลำธาร ทั้งรายเล็ก รายใหญ่มีนายทุนหนุนหลัง เข้าบุกรุกถางป่าเพื่อครอบครองที่ดินในลักษณะต่างๆ เป็นการเอาที่ดินสาธารณะไปเป็นสมบัติส่วนตัว

พฤติกรรมพรรค์นี้ไม่มีใครยอมในสังคมที่เจริญแล้ว หน่วยงานรักษากฎหมายไม่หงอต่ออิทธิพลการเมือง หรืออภิสิทธิ์ อิทธิพลเหนือกฎหมาย ต่อให้ใหญ่แค่ไหนก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย

มีแต่สังคมด้อยพัฒนาอย่างบ้านเราเท่านั้น ที่ยอมให้ครอบครองที่ดินสาธารณะได้อย่างไม่อายใคร เห็นกฎหมายเป็นสิ่งไร้ความหมาย

เชียงใหม่ และจังหวัดภาคเหนือเจอน้ำท่วมหนัก สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน จากนั้นก็เป็นจังหวัดระดับล่าง เช่นสุโขทัย ซึ่งน้ำท่วมครั้งใดก็เป็นการเปิดเรื่องเขื่อนแก่งเสือเต้นเอามาถกกันใหม่ว่าจะสร้างหรือไม่สร้าง

พวกให้สร้างก็อ้างว่าต้องเป็นห่วงเศรษฐกิจ ชีวิตชาวบ้าน อย่าไปห่วงไม้สักหรือนกยูง สัตว์ป่าไม่กี่ตัว ป่าต้นน้ำตอนนี้ก็ไม่เหลือแล้ว สารพัดจะยกมาพูด

พวกนักอนุรักษ์ก็บอกว่าป่าไม้สักทองเหนือแก่งเสือเต้นเป็นแหล่งเกือบจะสุดท้ายแล้ว สมควรสงวนไว้ และการมีเขื่อนก็ไม่ได้แก้ปัญหาทั้งหมด

ถ้าสร้างแก่งเสือเต้น ย่อมต้องมีผู้ได้รับประโยชน์ เช่นพวกตัดไม้ก่อนพื้นที่เหนือเขื่อนต้องจมน้ำ ผู้รับเหมา ทั้งรายใหญ่และรายย่อย รวมทั้งผู้ผลิตผู้ขายสินค้า หรือพวกเกี่ยวข้องกับกระบวนการตัดสินใจว่าจะสร้างหรือไม่สร้าง

ผู้เดือดร้อนก็คือชาวบ้าน สัตว์ป่า ระบบนิเวศวิทยาที่จะต้องได้รับผลกระทบ ไม่มีใครรับประกันว่าถ้าสร้างเขื่อนแล้วจะมีฝนตกเหนือเขื่อน เก็บน้ำไว้ได้เพียงพอ ประโยชน์จะคุ้มหรือไม่กับการทำลายพื้นที่ป่าไม้แบบถาวร

การพูดเรื่องสร้างเขื่อนทำเป็นลืมไปได้ว่าน้ำท่วมทุกวันนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการทำลายป่า ธรรมชาติต้นน้ำ ไม่อนุรักษ์ไว้ ใครอยากทำอะไรก็ได้ ไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมหรืออนาคตของประเทศ

เราเป็นประเทศที่มีอากาศร้อนที่สุดในกลุ่มอาเซียน มีพื้นที่สีน้ำตาลอ่อนๆ เป็นไข่แดงแวดล้อมด้วยสีเขียว ซึ่งประกอบด้วยพม่า ลาว เขมร และมาเลเซีย เราใกล้จะเป็นทะเลทรายอยู่แล้ว

ในรายการพยากรณ์อากาศทางทีวี จะเป็นซีเอ็นเอ็น หรือใครก็ตาม จะเห็นว่าไทยมีอุณหภูมิสูงกว่าเพื่อนบ้าน ยิ่งฤดูร้อนในภาคเหนือเช่นตาก ลำปาง ป่าเข้าไป 42-43 องศา นั่นมันใกล้อากาศขอบทะเลทรายแล้ว

เราทำผิดพลาดมาโดยตลอดในการจัดการทรัพยากรป่าไม้และธรรมชาติ จะเป็นเพราะความอยากได้ ผสมกับโง่เขลาเบาปัญญา ก็ขอให้เป็นเรื่องของนักวิเคราะห์ประวัติศาสตร์ก็แล้วกัน

และทุกวันนี้การทำลายทรัพยากรธรรมชาติก็ยังเป็นไปอย่างเต็มสูบ นี่ไม่ใช่โง่แบบธรรมดา เป็นความบัดซบผสมกับความงก ไร้จิตสำนึกต่างหาก

สมัยก่อนโน้น เราให้บริษัทฝรั่งเข้ามาทำสัมปทานป่าไม้ภาคเหนือ จากนั้นก็มีนโยบายอุ้มชูชาวเขาเผ่าต่างๆ จะให้เป็นกันชนคอมมิวนิสต์ ผลก็คือการทำไร่เลื่อนลอย แปรสภาพภูเขาเขียวอุดมไปด้วยป่าไม้ ให้เป็นภูเขาหัวโล้นไปทั้งภาคเหนือ

จากนั้นชาวเขาก็สนองคุณด้วยการเป็นแม้วแดง ลอบฆ่าชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ กลายเป็นกลุ่มอิทธิพลการเมืองและคุกคามความมั่นคง

ตัวแสบที่สุดก็คือเสือนอนกินที่มีอภิสิทธิ์เอาป่าไม้ไปให้สัมปทาน เช่นองค์การทหารผ่านศึก และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ขณะที่การปลูกป่าทดแทนเป็นไปอย่างไร้ระบบ

ตอนนี้เรามีพื้นที่ป่าไม้เหลือถึง 15 เปอร์เซ็นต์หรือเปล่า เพราะดงพระยาเย็น ซึ่งเคยเป็นป่าดงดิบ กลายเป็นพื้นที่หัวโล้นไปหมด

เรากลายเป็นนักทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างหาตัวจับยาก ตอนนี้ก็จะมีแผนทำลายป่าไม้สักทองผืนสุดท้ายอีกแล้ว

อีกไม่นานรุ่นลูกหลานอยากไปเที่ยวป่าคงต้องไปลาว พม่า เขมรโน่น แม้เราจะมองว่าประเทศเหล่านี้พัฒนาเศรษฐกิจได้ไม่ทันเรา แต่เขาไม่โง่กว่าเราแน่นอนในการรักษาป่าไม้ต้นน้ำลำธาร

เราโง่เขลาเบาปัญญากว่าเขาในด้านนี้ หรือว่ามีความเก่งเฉพาะการโกงกินสร้างตระกูลกังฉินเขมือบเมืองเท่านั้นนิ? อิอิอิ!!!