แม่ไม้การเมือง / ไพศาล สังโวลี
กลยุทธ์ 201 เสียง
ทุกครั้งที่นักวิเคราะห์วิจารณ์มองยุทธศาสตร์ฝ่ายค้านเข้มแข็ง ของพรรคประชาธิปัตย์ มักมองด้วยมุมมองที่ดูหมิ่นดูแคลนอยู่พอสมควร
ดูหมิ่นดูแคลนทำนองว่า เหตุใดไม่ระดมสรรพกำลังมันสมองของคนในพรรค จัดทำนโยบายมาขายแข่งกับพรรคไทยรักไทย เพื่อที่จะช่วงชิงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทั้งที่อ้างอยู่แล้วว่าตัวเองเป็น 'สถาบันการเมือง' กว่าใคร
ดูหมิ่นดูแคลนทำนองว่า พรรคประชาธิปัตย์อยู่ในภาวะที่ 'ยอมจำนน' ตั้งรับ ไม่คิดที่จะรุกเข้าใส่หรือถึงขั้น 'ยกธงขาว' ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเวที
เอาแค่สองประเด็นนี้ ก็จะเห็นแล้วว่า สถานการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ในสายตาและมุมมองของนักวิเคราะห์วิจารณ์ เป็นอย่างไร
ส่วนว่าแท้จริงเป็นอย่างไร น่าวิเคราะห์อย่างที่สุด
น่าวิเคราะห์ นับแต่หลังเลือกตั้งทั่วไป 6 มกราคม 2544 พรรคประชาธิปัตย์ยอมจำนนหรือไม่ คำตอบก็คือ หลังจากนั้นได้จัดประชุมใหญ่นำเสนอทฤษฎี 'กบต้ม' เพื่อหาทางเปลี่ยนแปลง เพราะไม่เช่นนั้นอาจ 'ตายอย่างกบ' (แทนที่จะตายอย่างเขียด?)
แล้วก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน แม้จะมีรอยร้าวของสองขั้วการเมืองในพรรค คือ ขั้วทศวรรษใหม่ และขั้วผลัดใบ เป็นผลของการเปลี่ยนแปลงให้เห็นก็ตาม
ถามว่า มีความพยายามต่อสู้หรือไม่ คำตอบก็คือ มีความพยายามที่จะปรับเปลี่ยนแนวนโยบายออกมาแข่งขันอยู่ตลอด หากย้อนไปช่วง ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ หัวหน้าพรรคมหาชน ยังอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์จะเห็นได้ชัด จนแม้ปัจจุบันก็ประกาศนโยบายหาเสียงออกมาแล้ว
เพียงแต่สินค้าใหม่ในหีบห่อ 'ประชานิยม' ยี่ห้อ 'ไทยรักไทย' ครองตลาด หรือครองใจผู้คนไปแล้ว สินค้าปรับปรุงหีบห่อยี่ห้อ 'ประชาธิปัตย์' จึงไม่ง่ายที่จะเข้าไปตีตลาดในเร็ววัน
แถมถ้าดู 'ตลาดการเมือง' 4 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน พฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่ทำท่าว่าจะไม่เปลี่ยนเอาเสียด้วย
และถ้าสังเกตให้ดี กลยุทธ์ 'ยุทธศาสตร์ฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง' หรือ 'กลยุทธ์ 201 เสียง' เพื่อถ่วงดุลอำนาจนายกรัฐมนตรี หรือขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีได้ (เสียง 2 ใน 5 ของสภา) ก็เป็นการดิ้นรนที่จะต่อสู้
แรกทีเดียว ดูเหมือน 'กลยุทธ์ 201 เสียง' เป็นเพียงส่วนประกอบเพื่อพิจารณาเท่านั้น
แต่ว่าในวันที่กระแสความนิยม พ.ต.ท.ทักษิณ หลังลงไปบัญชาการแก้ปัญหาผลกระทบจากคลื่น 'สึนามิ' ใน 6 จังหวัดอันดามันแล้ว แทบไม่มีกลยุทธ์ใดมาแข่งขันได้
จะมีก็แต่ 'กลยุทธ์ 201' เท่านั้น ที่พอจะยึดเป็นธงนำ
เป็นธงนำ เพื่อที่จะดึงความนิยมจากกระแสสังคมส่วนหนึ่ง ที่เคยจุดประเด็น 'นายกฯ เหลิงอำนาจ' มาเป็นฐานคะแนนสำคัญ
นี่ก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ยอมจำนน หากแต่น่าวิเคราะห์ว่า นี่คือ 'กลยุทธ์' ในการต่อสู้ที่แยบยลต่างหาก
เห็นหรือไม่ ทุกเวทีปราศรัย 'นายหัวชวน' ตอกย้ำเรื่องการใช้อำนาจเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และรัฐมนตรีของพรรคไทยรักไทย กรณี 'ซื้อ ส.ส.'
หรือประเด็นที่ว่า พรรคการเมืองอื่นจ้องที่จะเสียบร่วมรัฐบาลอย่างเดียว มีพรรคประชาธิปัตย์พรรคเดียวที่พร้อมจะเป็นฝ่ายค้าน จึงขอโอกาสเป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง ขอ '201 เสียง' เพื่ออภิปรายนายกรัฐมนตรีได้ ก็กลายเป็นกระแสหลักของพรรคไปแล้ว
ยิ่งกว่านั้น ถ้ามองในแง่ของความแยบยล '201 เสียง' อาจเป็นแค่บันไดที่จะก้าวไปสู่สูตรการจัดตั้งรัฐบาล 'ประชาธิปัตย์-ชาติไทย-มหาชน' บวก 'งูเห่า' หรือ 'อนาคอนดา' จากไทยรักไทย ก็เป็นได้!?
อย่าประมาท 'เกม' ประชาธิปัตย์ให้มากไป!?
: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง
วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553
กลยุทธ์ 201 เสียง
เขียนโดย
Thai Writer
ที่
01:10

ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปยัง Xแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest