สาวหนองคายโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกโอนเงินสูญกว่าแสนบาท

สาวหนองคายวัย 42 ปี ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็น ตร.กองปราบฯ บอกจะช่วยแก้ปัญหาเงินในบัญชีที่ถูกโจรกรรม แต่สับขาหลอกให้โอนเงินกว่า 116,964 บาท ร้องทหารและศูนย์ดำรงธรรมช่วยติดตามเงิน เตือนสติผู้อื่นอย่าตกเป็นเหยื่อ

นางกาญดา ม่วงผุย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 1 ต.วังหลวง อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากร้อยเอกจำนงค์ แสงกุดเรือ นายทหารยุทธการกองกำลังรักษาความสงบประจำจังหวัดหนองคาย และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดหนองคาย

นางกาญดา กล่าวว่า มีผู้หญิงโทรศัพท์มาหาบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งหนึ่ง โทรมาแจ้งว่าบัญชีเงินฝากของตนถูกโจรกรรม มีการโจรกรรมข้อมูลไปทำบัตรเอทีเอ็ม ให้ตนไปแจ้งความตำรวจ จากนั้นไม่นานได้รับสายโทรศัพท์ที่สองเป็นผู้ชายและเป็นตำรวจ ยศสารวัตรกองปราบฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โทรมาสอบถามข้อมูลส่วนตัวและทราบว่าตนถูกโจรกรรมข้อมูล ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาให้

ทั้งนี้ได้สอบถามตนถึงข้อมูลเงินในบัญชีธนาคารว่ามีมากน้อยเท่าใด ด้วยความตกใจ ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน และไม่ได้เอะใจสงสัยแต่อย่างใด ก็ได้บอกข้อมูลทั้งหมดให้ชายคนนั้นทราบ จากนั้นชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจก็บอกให้ตนรีบไปยังตู้เอทีเอ็มใกล้บ้านเพื่อนำเงินมาตรวจสอบความถูกต้อง ตนจึงชวนแฟนให้พามายังปั๊มน้ำมันในเขต อ.โพนพิสัย ระหว่างทางชายคนดังกล่าวก็โทรศัพท์พูดคุยด้วยตลอด

เมื่อมาถึงตู้เอทีเอ็ม ชายคนนั้นก็ให้ตนนำเอทีเอ็มของธนาคารที่ตนมีเงินในบัญชีอยู่มากที่สุดมาทำรายการตามที่บอก กดปุ่มที่ตู้ให้เร็วที่สุด โดยหน้าจอตู้เอทีเอ็มเป็นภาษาจีน ตนทำตาม 3 ครั้ง ครั้งที่ 4 ชายคนดังกล่าวให้ตนถอนเงินสดออกมา 58,000 บาท ให้นำไปฝากใส่เครื่องฝากเงินอัตโนมัติของธนาคารกสิกรไทย ตนก็ต้องเดินทางไปยังธนาคารอีกแห่งหนึ่ง และทำรายการตามที่บอก โดยนำเงินใส่ตู้ฝากเงินอัตโนมัติ 58,000 บาท เครื่องตีกลับ 1,000 บาท ทำให้ฝากเงินเข้าตู้ได้ 57,000 บาท

จากนั้นชายคนดังกล่าวก็บอกว่าช่วงบ่ายตนจะได้เงินคืนส่งเข้าบัญชีธนาคารทั้งหมดแล้ววางสายไป หลังจากนั้นตนจึงโทรศัพท์เล่าให้ลูกสาวฟัง ลูกสาวก็บอกว่าตนถูกหลอก จึงตกใจมาก รีบโทรกลับไปหาชายคนดังกล่าวก็ไม่สามารถติดต่อได้ และได้เอาสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคาร ธ.ก.ส.ไปปรับสมุด ก็พบว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีไป รวมทั้งสิ้น 116,964 บาท ตนจึงรู้แล้วว่าถูกหลอก จึงไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.โพนพิสัย

ทั้งนี้ ทางตำรวจได้ประสานกับธนาคารและทราบว่าเงินที่ตนโอนไปนั้นไปอยู่ในบัญชีของคนอื่นจำนวน 3 คน โดยรายแรกเปิดบัญชีธนาคารที่สาขาเทสโก้ โลตัส สกลนคร โดยโอนเงินไป 1 ครั้ง จำวน 9,988.22 บาท ส่วนคนที่สอง สาขาสกลนคร 2 ครั้ง จำนวน 49,976.44 บาท และเงินสด 57,000 บาท ที่โอนผ่านตู้อัตโนมัติเป็นของคนที่ 3 สาขาอุดรธานี

นางกาญดา กล่าวว่า ที่มาขอให้ทหารและศูนย์ดำรงธรรมช่วยติดตามเงินที่ถูกหลอกไป แม้ว่าอาจจะยาก แต่ก็อยากให้ช่วย เพราะเป็นเงินก้อนเดียวของครอบครัวที่เก็บไว้ใช้หนี้ ธ.ก.ส. และเก็บไว้ให้ลูกเรียน อีกทั้งอยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนอื่นไม่ให้ถูกหลอกเช่นตนอีก.