: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง

วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2553

อาการ 'คัน' ของ 'น้าทิวา' ทิวา สาระจูฑะ แห่งนิตยสารสีสัน

ประกอบปก คัดลอกจาก นิตยสารเนชั่นสุดสัปดาห์
อาการ 'คัน' ของ 'น้าทิวา' ทิวา สาระจูฑะ แห่งนิตยสารสีสันอาการ 'คัน' ของ 'น้าทิวา' ทิวา สาระจูฑะ แห่งนิตยสารสีสัน ที่เกิดเหตุมาจากแพ้ผื่นสังคมไทย กรณีโรค 'งาบ' โกงกินไปทุกหย่อมหญ้า แต่ทุกคนกลับนิ่งเฉย ไม่เดือดเนื้อร้อนใจ เป็นกันหนักถึงขนาดว่า 'ขาดเขาเราอยู่ไม่ได้' เหมือนว่าต้องฝากชีวิตไว้กับเขาเพียงผู้เดียว ซ้ำร้ายยังเห็นดีเห็นงามกับการฉ้อฉลทรัพย์สินชาติ คิดว่าให้เป็นรางวัล 'สินน้ำใจ' ให้คนเก่ง
"ร้ายยิ่งกว่านั้น คือคนบางกลุ่มบอกว่า เอาน่า.. คนเก่งก็อย่างนี้ โกงบ้างกินบ้างเหลือให้เราบ้าง ถือเป็นเรื่องธรรมดา คิดเสียว่าเอาคนเก่งมาใช้งาน ก็ต้องให้ค่าแรงเขามากหน่อยเป็นงั้นไป" ทิวา กล่าว
ด้วยเหตุนี้กระมัง อัลบั้มเพลงชุดล่าสุด 'ซึม เศร้า เหงา แฮ้งก์' ของวงคาราบาว จึงสะท้อนมุมมองของทิวา ที่ถ่ายทอดอุบัติการณ์ทางสังคมออกมาเป็นเพลงอย่างน่าฟังและน่าสนใจ
ยิ่งได้น้ำเสียง 'แอ๊ด คาราบาว' หรือ ยืนยง โอภากุล มาขับขานถึง 'คนโลภ' อีกด้วยแล้ว ก็ยิ่งได้รสชาติ ถึงพริกถึงขิงเป็นแน่แท้ ซึ่งได้ข่าวว่า 'แอ๊ด' ต้องเปลี่ยนวิธีการร้องใหม่ด้วย จึงน่าจะถูกใจแฟนเพลงคาราบาว ที่ตั้งหน้าตั้งตารอฟังชุดใหม่มานาน
ว่ากันว่า อัลบั้มชุดนี้ได้ 'คอรัสไฮโซ' ลูกชายเจ้าของ 'แกรนด์ สปอร์ต' อย่าง 'ธิติ พฤกษ์ชอุ่ม' มาคอยร้องคำว่า 'คนโลภๆ' อยู่เป็นระยะ
แถมด้วยยังมีนักดนตรีมากฝีมือ มาร่วมงาน อาทิ สุเทป ปานอำพัน (เอ๊ดดี้ ซูซู เป็นโปรดิวเซอร์), นล สิงหลกะ (นล อินคา), จักรินทร์ ดวงมณีรัตนชัย (ป๊อป เดอะซัน), โอฬาร หรหมใจ (โอ้ ดิโอฬาร โปรเจ็ก), กิรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร (เขียว คาราบาว), พงษ์สิทธิ์ คำภีร์, พยัต ภูวิชัย, เท่ห์ อุเทน พรหมมินทร์ และคณาคำ อภิรดี ฯลฯ
'คนโลภ' มีทั้งหมด 13 เพลง ประกอบด้วยเพลง เจ็บเพื่อเข้าใจ จากหนังเรื่องพันธุ์หมาบ้า, เวลาที่เหลือ จากหนังเรื่องซุ้มมือปืน และเพลงใหม่อย่าง ตำนานดวงดาว, ตามเสียงหัวใจ, ความฝัน-ความจริง, อยากให้อยู่ด้วย, รัก/ยิ้ม, เมืองไทย, คนโลภ, ความหมาย, อีกไม่นาน,ที่สุดของคน และอย่ากลัว
ทิวา ได้อธิบายถึงอัลบั้มชุดนี้ ว่าได้รับความร่วมมือจากเพื่อนฝูงในวงการเพลง ที่จริงอยากจะใช้ชื่ออัลบั้มว่า 'เพลงเพื่อน' แต่ในที่สุดกลายเป็น 'ซึม เศร้า เหงา แฮ้งก์' ซึ่งน่าจะลงตัวที่สุด
"อัลบั้มชุดนี้เกิดจากความคิดของเพื่อน และสำเร็จลงด้วยฝีมือและน้ำใจของเพื่อน โปรดิวเซอร์ของผมบอกตอนกำลังอัดเสียงว่า ถ้าไม่มีชื่อที่ลงตัวแล้วอย่าง 'ซึม เศร้า เหงา แฮ้งก์' อยากจะตั้งชื่อว่า 'เพลงเพื่อน' ผมไม่มีอะไรพูดตอบ นอกจากพยักหน้าเท่านั้น"
ถ้าจะฟังเพลงชุดนี้อย่างได้อรรถรส จุใจ และจุอารมณ์แล้วละก็..ต้องขอให้อ่านหนังสือ 'พระราชอำนาจ' ของ 'ประมวล รุจนเสรี' เสียด้วย
จะได้เข้าใจว่าทำไม 'คนโลภ' จึงไม่แนะนำใครต่อใครให้อ่านหนังสือดีแห่งปี 2548 เล่มที่ร้อนแรงที่สุดชั่วโมงนี้!
(ล้อมกรอบ)
เพลง 'คนโลภ'
ทำไมต้องได้ทุกสิ่งที่ตาเห็น ทำไมต้องเล่นทุกเกมด้วยเล่ห์กล
ทำไมใส่โซ่รัดร้อยคอหอยคน หรือเป็นความสุขล้นทะลักใจ
ทำไมต้องได้ทุกอย่างเหนือใครเขา ทำไมต้องเอามากกว่าที่ต้องใช้
เป็นเหมือนโจรชิงปล้นแล้วจากไป เหลือทิ้งไว้ร่องรอยของการทำลาย
เป็นเพราะพ่อแม่สั่งสอนชี้วิธีการ หรือเป็นสันดานที่ติดตัวเฉพาะตน
อิ่มหมีพีมันด้วยเชิงชั้นทุรชน เหยียบย่ำร่างที่ร่วงหล่นเป็นรายทาง
เพื่อเมีย เพื่อลูกครอบครัวของตัวเอง จึงข่มเหง ฉ้อฉล และฉกฉวย
หาช่องนำอำนาจมาอำนวย ยิ่งร่ำยิ่งรวยก็ยิ่งไม่รู้จักพอ
เป็นเพราะพ่อแม่สั่งสอนชี้วิธีการ หรือเป็นสันดานที่ติดตัวเฉพาะตน
อิ่มหมีพีมันด้วยเชิงชั้นทุรชน เหยียบย่ำร่างที่ร่วงหล่นเป็นรายทาง
เพื่อเมีย เพื่อลูกครอบครัวของตัวเอง จึงข่มเหง ฉ้อฉล และฉกฉวย
หาช่องนำอำนาจมาอำนวย ยิ่งร่ำยิ่งรวยก็ยิ่งไม่รู้จักพอ
ระวังกรรมตามทัน สักวันไม่มีแผ่นดินอยู่
ระวังกรรมทันตา จะมาเมื่อไหร่ไม่รู้