พีพี : วันนั้นสวรรค์ล่ม!

จากนิตยสารเนชั่นสุดสัปดาห์

พีพี : วันนั้นสวรรค์ล่ม!
หลังคลื่นมรณะ กลืนกินชีวิตผู้คน และพังทลายสวรรค์บนดินเกาะพีพี สิ่งที่หลงเหลือให้เห็น ก็คือ การค้นหาผู้สูญหาย และการประเมินซากความเสียหายของทรัพย์สิน

หมู่เกาะแห่งนี้เคยมีชื่อเสียงมากในเรื่องน้ำทะเลที่ใสสะอาด แหล่งดำน้ำชมปะการังที่สวยงาม ซึ่งครั้งหนึ่งที่ 'อ่าวมาหยา' เคยใช้เป็นฉากถ่ายทำหนังเรื่อง 'The Beach' ซึ่งมี Leonardo Di Caprio เป็นนักแสดงนำ จนทำให้เกาะนี้เป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก

'หมู่เกาะพีพี' หรือ 'อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี' ปัจจุบันมีสถานประกอบการที่พัก-รีสอร์ท-โรงแรม ตั้งอยู่บนเกาะกว่า 53 แห่ง เป็นหนึ่งใน 'แม่เหล็ก' สำคัญที่ดึงดูดรายได้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกปีหนึ่งๆ มิใช่น้อย เมื่อปี 2546 มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกไปเยือนถึง 265,073 คน

หมู่เกาะพีพี ทั้ง 6 เกาะ ไม่ว่าจะเป็น เกาะพีพีเล เกาะพีพีดอน เกาะปิด๊ะนอก เกาะปิเด๊ะใน เกาะยูง เกาะไผ่ พื้นที่รวมกัน 11.2 ตารางกิโลเมตร โดยพีพีดอนจะใหญ่ที่สุด เนื้อที่ประมาณ 9.408 ตารางกิโลเมตร

แต่ภาพที่ปรากฏวันนี้ บริเวณเกาะพีพีได้รับความเสียหายหมดทั้งเกาะ ยังรวมไปถึงแผงลอยขายของ ร้านอาหาร บริษัททัวร์ โรงแรมและบังกะโลเล็กที่อยู่ชายหาด ถูกคลื่นซัดไปกองรวมกัน เหลือเพียงอาคารสูงของโรงแรม 2 แห่ง คือ พีพี โฮเต็ล และโรงแรมพีพี ไอซ์แลนด์ คาบานา ซึ่งอยู่ใกล้บริเวณหาดต้นไทรเท่านั้น ที่ยังเหลือรอดให้เห็น

มูลค่าความเสียหายจากการสำรวจของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประเมินเบื้องต้น ราว 2,800 ล้านบาท

ทั้งหมดนี้เป็นผลจากคลื่นยักษ์ที่มีความสูงประมาณ 10 เมตร ถล่มเกาะพีพี จนทำให้เกิดน้ำท่วมโรงแรมที่อยู่ใกล้บริเวณชายหาด โดยเฉพาะโรงแรมพีพี ไอซ์แลนด์ คาบานา ที่ถูกน้ำท่วมถึงชั้นที่ 3 ของโรงแรม จนเมื่อตกเวลาบ่าย ก็ท่วมถึงชั้น 5 ของโรงแรม ทำให้ผู้รอดชีวิตต้องกระเสือกกระสน หนีตายขึ้นไปที่จุดชมวิวแทน

ความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินนั้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวและผู้ที่อยู่ในร้าน อาคาร บังกะโล มีไม่ต่ำกว่า 1,000 หลัง และเมื่อคลื่นยักษ์ซัดเข้ามาพร้อมกันทั้งสองด้าน ก็มาชนกันที่กึ่งกลางเกาะเป็นคลื่นน้ำสูงประมาณ 10 เมตร กินเวลานานประมาณ 1-2 นาที จากนั้นก็แยกจากกันพร้อมทั้งกวาดเอาคนและสิ่งของลงสู่ทะเล

ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ของหมู่เกาะนั้น ส่วนใหญ่เป็นภูเขา โดยเฉพาะภูเขาหินปูนที่สูงชัน และมีพื้นที่ราบและชายหาดกระจายอยู่ทุกเกาะ มีแนวปะการังที่สมบูรณ์มาก ถูกกล่าวขานว่าเป็น 'อาณาจักรแห่งบุปผาใต้สมุทร' หรือปะการังดอกไม้ทะเล

จึงมีหลายอ่าวที่ไม่ได้รับความเสียหาย แต่บางอ่าวก็พังยับเยิน และจากการสำรวจของสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.กระบี่ และหอการค้าจังหวัดกระบี่ ได้ร่วมกันจัดเรือออกสำรวจแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ เพื่อตรวจสอบความเสียหาย พบว่า เกาะพีพีดอนได้รับความเสียหาย และในจุดใกล้เคียงกันคือ หาดยาว แทบจะไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

ส่วนที่เกิดความสูญเสียหนัก คือบริเวณอ่าวต้นไทร บนเกาะพีพี ที่เป็นย่านธุรกิจท่องเที่ยว!

0 0 0

หลังจากวันอันสับสนอลหม่านผ่านไป คนนับพันชีวิตต้องถูกปล่อยเกาะอยู่นาน เพราะการประสานงานระหว่างทางจังหวัดกับชาวเกาะ ไม่สามารถติดต่อกันได้

เมื่อการช่วยเหลือมาถึงในวันที่สองของเหตุการณ์คลื่นยักษ์ถล่ม การเก็บกู้ซากศพจึงเริ่มขึ้นด้วยความทุลักทุเล วันแล้ววันเล่า ล่วงผ่านไปถึงวันที่สี่ ที่ห้า จึงเก็บกู้ได้หมด

ส่วนใหญ่พบศพผู้เสียชีวิตบริเวณบ่อบำบัดน้ำเสีย และจากคำบอกเล่าของผู้รอดชีวิต บอกว่า ขณะเกิดเหตุทั้งนักท่องเที่ยวและชาวบ้าน วิ่งมาหลบคลื่นสึนามิที่ใกล้บ่อบำบัดน้ำเสียจำนวนมาก ก่อนที่จะถูกคลื่นคร่าชีวิตในที่สุด

ขณะที่เด็กชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่รอดชีวิตจากเกาะพีพีและเดินทางกลับประเทศ เพื่อขอให้ทีมกู้ภัยจากญี่ปุ่นเดินทางมาช่วยค้นหาศพของพ่อแม่พร้อมญาติที่สูญหายไปในช่วงที่เกิดเหตุการณ์

ปรากฏว่าทีมช่วยเหลือจากญี่ปุ่นได้ค้นพบศพแม่ของเขาในบ่อบำบัดน้ำเสีย ปะปนอยู่กับศพผู้เสียชีวิตอีกหลายสิบศพ และทีมกู้ภัยจึงค้นหาศพพ่อและญาติของเด็กชายผู้โชคร้าย ผู้สูญเสียครอบครัวต่อไป เพื่อนำร่างไร้วิญญาณกลับประเทศญี่ปุ่นพร้อมกัน

นักท่องเที่ยวบางส่วนก็ยังคงเดินขวักไขว่บนเกาะ เพื่อตามหาร่าง 'ผู้สูญหาย' บนความหวังที่ริบหรี่ลงทุกที

ล่าสุด ผลจากการสำรวจค่าความเสียหายในเบื้องต้นของจังหวัดกระบี่ พบว่า บ้านเรือนของราษฎรบนเกาะพีพี ได้รับความเสียหายทั้งสิ้นจำนวน 357 หลังคาเรือน

ส่วนความเสียหายของผู้ประกอบการโรงแรมและผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ในพื้นที่นั้น ทางจังหวัดก็จะเรียกเข้ามาประชุม เพื่อร่วมกันรับฟังปัญหาและประเมินค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นร่วมกัน

ที่สำคัญ ต้องทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการ เพื่อทำการจัดระเบียบและวางผังเมืองบนพื้นที่เกาะพีพีใหม่ทั้งหมด เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าบนพื้นที่เกาะพีพีมีการปลูกสร้างอาคารจนแน่นขนัด ทำให้เกิดความแออัด เมื่อเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ก็ไม่สามารถหลบหนีและแก้ปัญหาในเบื้องต้นได้

ผู้ประกอบการรายย่อยบนเกาะพีพี ยังมีความเป็นกังวลเกี่ยวกับการจัดผังเมืองใหม่ ด้วยเกรงว่ามันจะเอื้อต่อผู้ประกอบการรายใหญ่ไม่กี่สิบราย และไม่กี่ตระกูล หากทางจังหวัดจัดการไม่เป็นธรรม

พ่อค้าแม่ขายที่เผชิญคลื่นยักษ์ที่ว่าโหดร้ายแล้ว อาจต้องเผชิญกับ 'คลื่นทุนใหญ่' ที่โหดหินกว่า และจะกวาดให้พวกเขาตกทะเลอีกครั้งก็เป็นได้!