ตื่นเถิด 'มหาชน'

แม่ไม้การเมือง / ไพศาล สังโวลี

ตื่นเถิด 'มหาชน'

ขอให้มันเป็นแค่ฝันร้ายก็แล้วกัน ถ้าตื่นแล้ว

ขอให้เป็นการเริ่มต้น ที่มีบทเรียนอันสูงค่า

เพราะก่อนหน้านี้ ดูเหมือนหลับฝัน ดิ้นทุรนทุราย ตะเกียกตะกายไขว่คว้า วุ่นวะวุ่นวายไปหมด

ราวกับฝันร้ายก็ไม่ปาน!

ความจริงต้องบอกว่า คนไทยเห็นใจและเข้าใจพรรค 'มหาชน' มากกว่าที่จะเหยียบย่ำซ้ำเติม..ไม่แม้แต่จะคิด!

แม้แต่คนที่ไม่เลือกผู้สมัครพรรคมหาชน ก็คงมีความรู้สึกไม่แตกต่างกันมากนัก เพียงแต่ปัจจัยที่เป็นเหตุผลเป็นผลให้เลือกผู้สมัครพรรคการเมืองอื่น ก็ล้วนมีคำอธิบาย

ใครจะคาดคิดว่าผลการเลือกตั้งที่ออกมาจะเลวร้ายขนาดนี้

ขนาดทำเอา 'อาจารย์เหนก' ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ หัวหน้าพรรคมหาชน ทำท่าว่าจะหมดอนาคตทางการเมืองไปด้วย?

ด้าน 'เสธ.หนั่น' พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่ปรึกษาพรรคมหาชน ยิ่งแล้วใหญ่ เล่นเอาหมดกำลังแรงใจไปเลย หลังรู้ว่า แม้แต่ 'ลูกยอด' ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ก็ยังสอบตก ทั้งที่เอ็กซิตโพลของสวนดุสิต สุ่มให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยซ้ำ

แต่กลับกลายเป็น 'ตุ่น จินตะเวช' ที่แหกเอ็กซิตโพลมาจาก จ.อุบลราชธานี เขต 11 เป็นหนึ่งเดียวที่ได้รับเลือกตั้ง

'เสธ.หนั่น' ยอมรับอย่างหน้าชื่นอกตรมว่า ประเมินสถานการณ์ผิดพลาด และขอวางมือทางการเมือง ปล่อยให้หัวหน้าเอนกและกรรมการบริหารพรรคประชุมกันเองว่าจะเอาอย่างไรต่อไป

แต่ถึงอย่างไรก็น่าวิเคราะห์ ว่าความพ่ายแพ้ของพรรคมหาชน เกิดจากอะไรกันแน่

เกิดจากความไม่มีความชัดเจนในตัวเองมาตลอด หรือไม่?

นับแต่ ทำให้คนยังตั้งข้อสงสัยว่า 'เสธ.หนั่น' เล่นเกมอะไร ในการลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ไปก่อตั้งพรรคมหาชน แม้ว่าจะเป็นแค่ที่ปรึกษาพรรค

เพราะแม้ว่า ดร.เอนก จะเป็นหัวหน้าพรรค (ตัวจริง) แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า 'เสธ.หนั่น' ก็ยังหนุนหลังอย่างออกนอกหน้า

ขณะเดียวกัน พรรคมหาชน ที่ชูอุดมการณ์ 'พรรคทางเลือกที่สาม' ของประชาชน แต่กลับทำให้เห็นเป็นอีกอย่างว่า เป็น 'ทางเลือกที่สามของนักเลือกตั้ง' โดยเฉพาะที่อกหักจากพรรคไทยรักไทยและพรรคประชาธิปัตย์

แถมมีนักการเมืองตกยุคตกสมัยที่ใครเขาก็ไม่เอาแล้ว เข้ามาร่วมอีก

ภาพลักษณ์มันฟ้องอย่างนี้ ต่อให้อธิบายอย่างไรก็ยากจะเข้าใจ

ที่สำคัญ แม้แรกเริ่มเดิมที พรรคมหาชน ประกาศตัวไม่เป็นศัตรูทางการเมืองกับใคร พร้อมร่วมรัฐบาลกับทั้งไทยรักไทยและประชาธิปัตย์

แต่ก็ไม่วายถูกมองว่า 'แยกกันเดิน ร่วมกันตี' กับประชาธิปัตย์หรือไม่?

จน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า จะไม่เอาพรรคมหาชนร่วมรัฐบาล

พรรคที่ทำท่าว่าจะเป็นดาวรุ่ง กลับดูเหมือนริบหรี่ลงทันตา

และต้องหันมากำหนด 'เกม' ต่อสู้แบบอยู่กันคนละขั้วกับไทยรักไทยทันที

ตัวอย่าง ที่ยกให้เห็นเมื่อไร ก็ชัดเจนเมื่อนั้น คือ ขณะที่พรรคไทยรักไทย มีนโยบายกองทุนหมู่บ้านละ1 ล้านบาทให้ชาวบ้านกู้ยืม พรรคมหาชนมีนโยบายที่จะปลดหนี้กองทุนหมู่บ้าน เพราะเห็นว่า นโยบายพรรคไทยรักไทยส่งเสริมให้คนเป็นหนี้ ขณะที่พรรคไทยรักไทย เชื่อว่า เป็นการทำให้ชาวบ้านเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ง่าย เป็นต้น (ก็เลยได้ผลลัพธ์ที่ตรงข้ามกับพรรคไทยรักไทย)

แล้วจากการที่เอาตัวไปผูกติดกับความหวังที่จะร่วมรัฐบาล พอพ.ต.ท.ทักษิณ ตัดหางปล่อยวัด กลุ่มทุนที่จะให้การสนับสนุน ก็เลยพลอยหดหายตามไปด้วย

สุดท้ายก็อย่างที่ผลเลือกตั้งออกมา คือได้เพียงที่นั่งเดียว

แต่ก็ยังไม่สาย เพราะพรรคทางเลือกที่สามที่แท้จริง มันยังไม่เกิด ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่า ประชาชนไม่เลือก พรรคมหาชน

อย่าหลงประเด็นเป็นอันขาด!