บทความโดย โสภณ องค์การณ์
ทำไมกลัว 12 มีนาฯ?
การเมืองไทยนั้นมีความหลากหลายมิติ นอกจากการเร่งสร้างฐานอำนาจให้อยู่นาน ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพแล้ว ยังขาดโหราศาสตร์ไม่ได้อีกด้วย
ต่อให้มีความรู้ ปริญญากองสูงเป็นตั้ง หรือเรียนจบดอกเตอร์จากเมืองนอก ก็ยังต้องยอมให้โหราศาสตร์เข้ามามีอิทธิพลสำหรับกิจกรรมสำคัญ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องระวังเรื่องฤกษ์ ผานาทีในการเริ่มบริหารจัดการบ้านเมือง หากผิดผีผิดฝา โอกาสจะล่มก่อนกำหนดเวลานั้น ก็เป็นไปได้
ถ้าไม่เชื่อ ก็อย่าลบหลู่ ว่างั้นเหอะ?
คนมีปริญญา อ่านตำราต่างประเทศเดือนละหลายเล่มๆ ศึกษาวิทยาการสารพัด ก็ยังต้องยอมเลี่ยงวันสำคัญๆ เช่นยามราหูทับดวงเมือง แม้ปากจะคุยโว โอ่ว่าไม่ยึดติดกับโหราศาสตร์ก็ตาม
ทำไมนักธุรกิจการเมืองคณะนี้จึงเลี่ยงวันเสาร์ 12 มีนาคม?
โหร หรือหมอดู ทั้งหลายก็ใช้ตำราโหราศาสตร์อธิบายเป็นฉากๆ เอาเป็นว่าไม่เหมาะ ถ้าหากใครจะนำเสนอเสนาบดีชุดใหม่ มีพิธีสำคัญวันนั้น จะทำอะไรในภายหน้าจะไม่ราบรื่น หรือต้องมีเหตุล้มคว่ำคะมำหงาย
ถึงขั้นลงเอยไม่สวยนั่นเชียว!
โหรดังๆ ชื่อเสียงติดตลาด ยังออกมาทำนายอีกว่า ถ้าคนมีอำนาจในบ้านเมือง พูดจาไม่ระมัดระวังปาก พูดอะไรไม่คิดก่อน หรือคิดไม่ทันปาก นอกจากจะก่อปัญหาแล้ว ยังส่งผลลุกลามไปไกลอีกด้วย
อืมม์...โหรกลุ่มนี้ไม่เข็ดหลาบแฮะ! ผู้มีอำนาจบอกให้เปลี่ยนอาชีพหลายหนแล้ว เพราะขาดความแม่นยำซ้ำซาก ก็ยังทำนายอีกนั่นแหละว่านักธุรกิจการเมืองคณะนี้จะมีปัญหาเยอะ อยู่ได้ไม่เกิน 2 ปีครึ่ง
ทำเอาพวกไม่ได้เลือกเบอร์ 9 หรือนอกเหนือจาก 19 ล้านคน รู้สึกมีความหวังในชีวิตบ้างเล็กน้อย เพราะหลายฝ่ายดูแนวโน้ม และความแข็งแกร่งของ 377 เสียงในสภา 500 ต่างก็คาดว่า "เขาอยู่นานแน่ ถึง 12 ปีโน่น"
ปัญหาเกิดจากปากไวหรือคำพูดหักหาญน้ำใจคนอื่นนั้น มันเรื้อรังเกินกว่าจะเยียวยาละมั้ง ไม่ว่าจะอมฮอลล์รสใดก็ตาม ผลสุดท้ายก็รักษาเบรกไว้ไม่ได้ ต้องเบรกแตก ทำเอาวงแตกตามด้วยหลายครั้ง
ปากไม่ดีย่อมก่อปัญหา แบบนี้ไม่ต้องให้โหรมาทำนายก็ได้ ฮ่า!
ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ทั้งโหรธรรมดาและหมอดูการเมืองต่างก็ทำนายว่าชุดแรกไม่รอด เดี้ยงแน่ มีเหตุผลประกอบ เสริมสร้างความแม่นยำ
แต่ด้วยพลังของการแก้เคล็ด ทั้งหมอดูไทยและพม่า แนะให้ทำตัวเป็นคนจรหมอนหมิ่น นอนกลางดิน กินกลางทราย นุ่งผ้าขาวม้าอาบน้ำโชว์ในวัด ทั้งนอนทับและเหยียบใบไมยราบ ก็ช่วยให้ประคองตัวผ่านวิกฤติต่างๆ รวมทั้งเงาราหูมาได้ แม้จะทุลักทุเลบางจังหวะก็ตาม
โหรหรือจะสู้ 377เสียงในสภา 500?
ถ้าหาก 251 คนไม่เออออห่อหมก ยกมือให้ไม่คำนึงถึงอนาคตของประเทศแล้วละก้อ ต่อให้โหรช่วยแก้เคล็ดอย่างไร ก็ไม่รอดสันดอนไปได้หรอก
ถ้าเกิดวิกฤติในบ้านเมือง ความล่มจมของเศรษฐกิจเพราะบริหารจัดการแบบผิดๆ หนี้สินท่วมหัว หรือปัญหาสังคมอะไรก็สุดแล้วแต่ อย่าไปโทษใคร นอกจากพวกในสภา 500 นั่นแหละ
หากบ้านเมืองไปดี ความยากจนหมดไปจากแผ่นดิน มีแต่เศรษฐีเดินชนกันทั้งทั่วทุกหนทุกแห่ง ขอทานแย่งกันเข้านั่งเปิบในภัตตาคาร เดินทางท่องเที่ยวรอบโลกทุกเดือน กุศลผลบุญของความดี วิสัยทัศน์กว้างไกล ก็ต้องยกให้ 'ผู้ทรงเกียรติ' และ 'ผู้ทรงเกี๊ยะ' เช่นเดียวกัน
ประเทศชาติจะเดินไปทิศทางใด ลงเอยเช่นใด ก็ต้องรอพิสูจน์ว่าผู้มีอำนาจจะฝ่าดวงและวิกฤติได้ฉลุย หรือทุลักทุเล หรือไม่
ดาวพุธ เงาราหู หรือดาวอะไรในจักรวาล จะสู้พลังดาวเทียมได้? เอาเหอะ! ไหนๆ ก็ได้ทำนายไว้แล้ว เราต้องรอดูว่าอะไรจะเกิดในวันที่ 12 เดือนนี้ หรือช่วง 12-14 เพื่อให้ชัวร์ๆ
ยิ่งลุ้น ก็ยิ่งใจระทึกนิ! อิอิอิ!!!
: หนองปลาปาก : ตำบลกวนวัน : ตำบลในเมือง : ตำบลค่ายบกหวาน : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลพระธาตุบังพวน : ตำบลปะโค : ตำบลโพนสว่าง : ตำบลโพธิ์ชัย : ตำบลเมืองหมี : ตำบลมีชัย : ตำบลเวียงคุก : ตำบลวัดธาตุ : ตำบลสีกาย : ตำบลหาดคำ : ตำบลหนองกอมเกาะ : ตำบลหินโงม : ตำบลกุดบง : ตำบลชุมช้าง : ตำบลจุมพล : ตำบลทุ่งหลวง : ตำบลเซิม : ตำบลนาหนัง : ตำบลบ้านโพธิ์ : ตำบลบ้านผือ : ตำบลวัดหลวง : ตำบลสร้างนางขาว : ตำบลเหล่าต่างคำ : ตำบลกองนาง : ตำบลท่าบ่อ : ตำบลโคกคอน : ตำบลน้ำโมง : ตำบลนาข่า : ตำบลบ้านเดื่อ : ตำบลบ้านถ่อน : ตำบลโพนสา : ตำบลบ้านว่าน : ตำบลหนองนาง : ตำบลนาดี : ตำบลเฝ้าไร่ : ตำบลหนองหลวง : ตำบลวังหลวง : ตำบลอุดมพร : ตำบลบ้านต้อน : ตำบลนาทับไฮ : ตำบลพระบาทนาสิงห์ : ตำบลโพนแพง : ตำบลบ้านหม้อ : ตำบลรัตนวาปี : ตำบลพระพุทธบาท : ตำบลพานพร้าว : ตำบลแก้งไก่ : ตำบลบ้านม่วง : ตำบลนางิ้ว : ตำบลผาตั้ง : ตำบลสังคม : ตำบลโพนทอง : ตำบลด่านศรีสุข : ตำบลโพธิ์ตาก : ตำบลสระใคร : ตำบลบ้านฝาง : ตำบลคอกช้าง
วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553
ทำไมกลัว 12 มีนาฯ?
เขียนโดย
Thai Writer
ที่
01:22

ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปยัง Xแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest